เอเอฟพี/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันและวอลล์สตรีทกลับมาปรับลงอีกครั้งในวันพฤหัสบดี (19 มี.ค.) จากแรงขายตามหลังการพุ่งขึ้นหนึ่งวันก่อนหน้าและดอลลาร์แข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตาม ทองคำยังได้กำลังหนุนจากคำแถลงเฟด ทะยานปิดในระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 0.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 43.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.48 ดอลลาร์ ปิดที่ 54.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เมื่อวันพุธ (18 มี.ค.) ราคาน้ำมันดีดขึ้นอย่างแรง หลังเฟดแสดงท่าทีผ่อนคลายอย่างไม่คาดหมายต่อประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ดอลลาร์ดิ่งลงอย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันในวันพฤหัสบดี (19 มี.ค.) กลับมาปิดลบพอสมควร หลังดอลลาร์ฟื้นตัว ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาด จากข้อมูลที่พบว่าสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่ ท่ามกลางกำลังผลิตของประเทศที่แตะระดับ 9.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี (19 มี.ค.) ขยับลงแรง จากการขายทำกำไรหลังพุ่งขึ้นอย่างมากหนึ่งวันก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ซึ่งปิดลบตามราคาน้ำมัน
ดาวโจนส์ ลดลง 117.16 จุด (0.65 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,959.03 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 10.23 จุด (0.49 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,089.27 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 9.55 จุด (0.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,992.38 จุด
เกรก ปีเตอร์สัน กรรมการผู้จัดการของบัลเลนไทน์ พาร์ตเนอร์ส บอกว่า การซื้อขายในวันพฤหัสบดี (19 มี.ค.) ถือเป็นความผันผวนปกติของตลาด หลังจากพุ่งขึ้นอย่างมากในวันพุธ (18 มี.ค.) จากถ้อยแถลงที่ผ่อนคลายจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ในการซื้อขายวานนี้ (19 มี.ค.) เอ็กซอนโมบิล และเชฟรอน สองบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ เป็นหนึ่งในบรรดาบริษัทที่ปิดลบหนักที่สุดของดาวโจนส์ โดยร่วงลงร้อยละ 1.9 และ 1.8 ตามลำดับ อันเป็นผลจากความเคลื่อนไหวในด้านลบของราคาน้ำมันดิบ
กระนั้นก็ดีราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (19 มี.ค.) ปิดบวกอย่างแข็งแกร่งและแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ยังได้แรงหนุนจากถ้อยแถลงของเฟดที่บอกว่าจะระมัดระวังในการขึ้นดอกเบี้ย โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 17.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,169.00 ต่อออนซ์