เอเอฟพี/รอยเตอร์ - น้ำมันสหรัฐฯ ร่วงลงแรงในวันพฤหัสบดี (12 มี.ค.) นักลงทุนกังวลสต๊อกเชื้อเพลิงอันสูงลิ่วของอเมริกาท่ามกลางภาวะอุปทานล้นตลาด ส่วนวอลล์สตรีทและทองคำขยับขึ้น หลังดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดในรอบ 12 ปีเมื่อเทียบกับยูโร
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 1.12 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 46 เซ็นต์ ปิดที่ 57.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ปกติแล้วการอ่อนค่าของดอลลาร์คือตัวกระตุ้นให้นักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆเข้าซื้อน้ำมัน แต่ความเคลื่อนไหวของตลาดน้ำมันโลกในวันพฤหัสบดี (12 มี.ค.) ยังถูกกดดันจากข้อมูลจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ (11 มี.ค.) ว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 448.9 ล้านบาร์เรล ส่วนสต๊อกน้ำมันที่เมืองคุชชิง ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมันก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (12 มี.ค.) ขยับขึ้นทั่วทุกกระดาน ฟื้นตัวจากปิดลบมา 2 วันติด หลังข้อมูลค้าปลีกที่อ่อนแอ ฉุดรั้งไม่ให้ดอลลลาร์แข็งค่าขึ้นไปอีก และบรรเทาความกังวลว่าเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 259.83 จุด (1.47 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,895.22 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 25.71 จุด (1.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,065.95 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 43.35 จุด (0.89 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,893.29 จุด
ยอดค้าปลีกที่ลดลงโดยไม่คาดหมายเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือนในเดือนกุมภาพันธ์ ช่วยให้สกุลเงินยูโรฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 12 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ขณะที่ข้อมูลภาคแรงงานอันแข็งแกร่งซึ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อวันศุกร์ (6 มี.ค.) ที่แล้ว ก่อความกังวลว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วสุดในเดือนมิถุนายน
นอกจากนี้แล้ว วอลล์สตรีทยังได้แรงหนุนจากหุ้นของ เจพีมอร์แกน เชสและโกลด์แมน แซคส์ 2 สมาชิกดาวโจนส์ และธนาคารยักษ์ใหญ่อื่นๆ ที่ปรับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังผ่านการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) เปิดทางสำหรับเพิ่มเงินปันผลและซื้อหุ้นคืน
ด้านราคาทองคำในวันศุกร์ (13 มี.ค.) ปิดบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วัน หลังดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ช่วยพยุงให้โลหะมีค่าสีเหลืองชนิดนี้ฟื้นตัวเล็กน้อยจากระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,151.90 ต่อออนซ์