เอเอฟพี/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันโลกเมื่อวันอังคาร (15 ก.ย.) ขยับขึ้นเล็กน้อย คาดกำลังผลิตสหรัฐฯ ชะลอตัวช่วยบรรเทาภาวะอุปทานล้นตลาด ส่วนวอลล์สตรีทพุ่งแรงจากข้อมูลค้าปลีกและจับตาผลประชุมเฟด ขณะที่ทองคำปิดลบจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 59 เซ็นต์ ปิดที่ 44.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 26 เซ็นต์ ปิดที่ 46.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดกำลังเฝ้ารอรายงานคลังปิโตรเลียมรายสัปดาห์ของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันพุธ (16 ก.ย.) ท่ามกลางความคาดหมายว่าสต๊อกน้ำมันดิบน่าจะเพิ่มขึ้น 3 สัปดาห์ติดต่อกัน
อย่างไรก็ตาม แมตต์ สมิธ จากคลิปเปอร์ ดาต้า ให้ความเห็นว่าข้อมูลดังกล่าวอาจเผยให้เห็นถึงกำลังผลิตที่น่าจะลดลงของสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นตัวช่วยภาวะอุปทานล้นตลาด อันเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดราคาน้ำมันร่วงลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร (15 ก.ย.) ปิดบวกพอสมควร จากข้อมูลค้าปลีกที่แข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย ก่อนหน้าการประชุมเฟดในช่วงกลางสัปดาห์นี้ เพื่อตัดสินใจว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปีหรือไม่
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 228.89 จุด (1.40 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16.599.89 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 25.06 จุด (1.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,978.09 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 54.76 จุด (1.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,860.52 จุด
ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ในเดือนสิงหาคม ได้แรงหนุนจากยอดจำหน่ายรถยนต์อันแข็งแกร่ง แต่ก็ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้เล็กน้อย
รายงานข้อมูลค้าปลีกเป็นหนึ่งในข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อีกเล็กน้อยที่ยังเหลืออยู่ ก่อนหน้าการประชุม 2 วันของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเริ่มขึ้นในวันพุธ (16 ก.ย.) และจากนั้นเฟดจะแถลงขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2006 หรือไม่ในวันพฤหัสบดี
ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร (15 ก.ย.) ปรับลดเล็กน้อย ถูกกดดันจากตลาดหุ้นที่พุ่งทะยานและดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 5.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,102.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์