ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังเป็นปัจจัยบวกกระตุ้นเฟดมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ววัน กดดันราคาทองคำผันผวนจัด และมีทิศทางขาลง จับตาแรงซื้อจากนักลงทุนระะยกลาง-ยาว เข้ามาช่วยพยุงหลังราคาปรับตัวลงไปมาก ประเมินหากรีบาวนด์ไม่พ้น 25 เหรียญ/ออนซ์ ยังมีโอกาสปรับตัวลงต่อ แต่หากยืนเหนือ 1,283 เหรียญ/ออนซ์ได้ เชื่อว่ากลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง แนะนำแบ่งทองคำออกขายเมื่อปรับตัว เพื่อลดความเสี่ยงลงทุน
“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงทิศทางราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมาว่า ราคามทีการปรับตัวลงมาค่อนข้างแรง และมีความผันผวนในระดับสูงหลังจากหลุด1,300 เหรียญ/ออนซ์ลงมาในระดับต่ำสุดรอบ 4 เดือน ส่งผลให้ทิศทางของราคาทองคำเป็นลบอย่างสิ้นเชิง หลังจากทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นภาคการผลิต ภาคการบริการ หรือจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการภาครรัฐประจำสัปดาห์ยังคงแสดงให้เห็นแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในระะยเวลาอันใกล้ สอดคล้องต่อผลสำรวจนักลงทุนที่เชื่อว่าเฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือนธันวาคมเพิ่มสูงขึ้น
“ตอนนี้เม็ดเงินไหลไปที่ดัชนีดอลลาร์สหรัฐจนแข็งค่าสูงสุดในรอบ 2 เดือน นั่นเป็นสาเหตุให้ราคาทองคำมีแนวโน้มที่อ่อนตัวลงอย่างชัดเจน”
โดยปัจจัยที่ยังคงต้องจับตา คือ แรงซื้อกลับเข้ามาในทองคำของนักลงทุนระยะกลาง และระะยาว หลังราคาทองคำปรับตัวลดลงไปค่อนข้างมาก โดยต้องดูตลาดในฝั่งจีนจะมีแรงซื้อเข้ามามากน้อยเพียงใด ส่วนตลาดเงินฝั่งสหรัฐฯ อาจเบาบางลง แต่ยังติดตามรายงานการประชุมของคณะกรรมการ FOMC ว่าจะเป็นอย่างไร ทั้งจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน รวมถึงยอดค้าปลีก และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่้งข้อมูลดังกล่าวจะสะท้อนถึงทิศทางเงินเฟ้อ และใช้เกี่ยวกับทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของฝั่งสหรัฐฯ ได้
สำหรับกลยุทธ์ลงทุน จากราคาทองคำที่อยู่ในช่วงการปรับฐาน และแกว่งตัวผันผวน อาจต้องจับตาการเคลื่อนไหวของราคาว่าแรงขายจะชะลอตัวลง และแรงซื้อจะเพิ่มกลับมาหรือไม่ โดยต้องดูแนวรับ 1,245 เหรียญ/ออนซ์ ว่าจะสามารถยืนได้หรือไม่ หากไม่สามารถยืนได้ แนวโน้ม หรือโมเมนตัมของราคาทองคำยังมีโอกาสอ่อนตัวลงทดสอบกรอบด้านล่าง 1,210-1,200 เหรียญ/ออนซ์
“ถ้าราคายังเคลื่อนไหวรีบาวนด์ขึ้นในระดับ 20-25 เหรียญ/ออนซ์ โอกาสที่ราคทองคำจะเป็นแนวโน้มขาลงยังมีอยู่ แต่ถ้าราคาปรับขึ้นมากกว่าระดับดังกล่าวจะทำให้แนวโน้ม หรือโมเมนตัมเป็นบวกมากขึ้น โดยมีแนวต้าน 1,276-1,283 เหรียญ/ออนซ์ ซึ่งหากดีดตัวขึ้นไม่พ้นแนวต้านบนสุด ยังแนะนำทองคำออกขาย เพราะราคามีการรีบาวนด์ หรือดีดตัวขึ้นอย่างค่อนข้างจำกัด แต่หากราคายืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้ แนวโน้มจะเป็นบวกมากขึ้น และอาจมีโอกาสไปทดสอบที่ระดับ 1,300 เหรียญ/ออนซ์”
