xs
xsm
sm
md
lg

กองทุนเพิ่มความสนใจทองคำ ผลักดันราคาเคลื่อนไหวแดนบวก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


การกระตุ้นเศรษฐกิจฝั่งยูโรยังกดันราคาทองคำ แต่ความสนใจจากบรรดากองทุนยังช่วยผลักดันราคาทองคำไปต่อ จับตาแนวต้าน 1,310 -1,330 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ อาจพบแรงเทขายทำกำไร แต่ภาพรวมค่าเงินบาทยังกดดันราคาทองคำขยับตัวน้อยกว่าต่างประเทศ

“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงภาพรวมราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีแรงซื้อเข้ามายังในตลาดทองคำจนราคาทองคำสามารถทำระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 13 เดือน และยังทรงตัวอยู่ในระดับดังกล่าวได้อย่างแข็งแกร่ง ส่วนเม็ดเงินเริ่มไหลเข้าทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และยังมีเม็ดเงินไหลเข้ามาในตลาดทองคำในรูปแบบกองทุนต่างๆ ที่เริ่มกลับเข้ามามองว่า ทองคำเป็นสินทรัพย์อย่างหนึ่งที่น่าจะเข้าร่วมลงทุน โดยมีการประเมินจากทิศทางราคาทองคำจากต้นปี จนถึงปัจจุบันราคาทองคำมีการปรับขึ้นมา 20%

อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาดูกองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่ใหญ่ที่สุดของโลก นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ยังมีการเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเข้าซื้อ 82.3 ตัน ซึ่งระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ยังไม่มีการขายทองคำออกมาเลยแม้แต่ตันเดียว ทั้งนี้ กระแสการเข้าซื้อทองคำยังส่งผลให้กองกษาปณ์เหรียญทองของสหรัฐฯ มีการประกาศว่ายอดการซื้อทองคำสุทธิ หรือยอดการซื้อเหรียญกษาปณ์ทองคำมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึง 236% หากเทียบจากเดือนกุมภาพันธ์ปี 2015 การเข้าซื้อทองคำในระดับดังกล่าว มีการคาดการณ์ว่ามีแนวโน้มทองคำในทิศทางบวกมากขึ้น



โดยปัจจัยที่จะส่งผลในราคาทองคำในสัปดาห์นี้อาจจะต้องจับตาดูทิศทางการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์เสี่ยง เพราะว่าการทะยานขึ้นของตัวตลาดหุ้นยังเป็นปัจจัยตัวหนึ่งที่ชะลอในแรงซื้อ หรือเม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่ตลาดทองคำ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาดูมาตราการการกระตุ้นเศรษฐกิจทางภาครัฐต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทางภาครัฐจีน ซึ่งจะมีการประชุมกันตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา และจะมีการประชุมยาวนานถึง 12 วันติดต่อกัน ซึ่งจะทำให้นักลงทุนหวังว่าทางการจีนจะมีการประกาศกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจะมีการแถลงการณ์ประกาศของ นายมาริโอ้ ดาร์กี้ ซึ่งหลายฝ่ายยังคงมีการคาดการณ์อัดฉีดสภาพคล่อง หรือการเพิ่มเม็ดเงินในรูปแบบ QE เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะไปกระตุ้นให้ตัวตลาดหุ้นมีการทะยานขึ้น และอาจกลับมาส่งผลเชิงลบต่อราคาทิศทางทองคำ

ดังนั้น ตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังคงต้องจับตา คือ ตัวเลขในฝั่งจีนซึ่งจะมีการเปิดเผยราคาผู้ผลิต หรือ CPI รวมถึงราคาผู้บริโภค PBI ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นแนวโน้มเศรษฐกิจในฝั่งจีนชัดเจนขึ้น ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ ทียังคงต้องจับตา คือ การเปิดเผยตัวเลขการขอรับสวัสดิการการว่างงานประจำสัปดาห์ ซึ่งตัวแรงผู้ขอรับแรงงานยังคงมีทิศทางที่แข็งแกร่ง โดยต่ำกว่า 3 แสนราย เป็นสัปดาห์ที่ 52 ติดต่อกัน

ทำให้กลยุทธ์การลงทุน เนื่องจากราคามีการทะยานขึ้นค่อนข้างมาก และความผันผวนของราคาทองคำอาจมีค่อนข้างสูง ดังนั้น นักลงทุนมีการถือครองทองคำไว้ ยังแนะนำเน้นการลงทุนระยะสั้น โดยอาจรอการอ่อนตัวลงมาเพื่อเข้าซื้อเกร็งกำไรจากการดีดตัว ขณะที่การดีดตัวขึ้นอาจจะจับตาดูในส่วนของแนวต้านในระดับวันว่าราคาผ่านได้หรือไม่ หากผ่านได้ควรถือสถานะต่อเพื่อไปรอขายในส่วนของแนวต้านถัดไป โดยในระยะสั้น อยากให้นักลงทุนจับตาดูในส่วนของแนวรับบริเวณ 1,230-1,220 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ หากราคาอ่อนตัวไม่หลุดเหนือโซนแนวรับดังกล่าวยังคงทำให้ทิศทางราคาทองคำยังคงมีแนวโน้ม หรือมุมมองเชิงบวกค่อนข้างมาก หากราคาทรงตัวได้ อาจจะใช้จุดดังกล่าวเป็นการเข้าซื้อสะสมเพิ่มเติม

ขณะเดียวกัน หากราคามีการขยับขึ้น อาจจะจับตาดูตั้งแต่ 1,310-1,330 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งในโซนดังกล่าวอาจมีแรงขายทำกำไรมากขึ้นสลับออกมา นักลงทุนที่ถือทองคำเอาไว้อาจทยอยแบ่งทองคำออกขายเพื่อลดความเสี่ยง

แต่หากราคาสามารถยืนเหนือระดับ 1,330 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ ได้ นักลงทุนอาจชะลอการขายไปยังโซนแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,350-1,360 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของเงินบาทภายในประเทศอาจทำให้ราคาทองคำมีการขยับขึ้นน้อยกว่าทองคำต่างประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น