xs
xsm
sm
md
lg

ก่อการร้ายกดดันหุ้น แต่ฟันด์โฟลว์ฉุดบาทแข็ง ทองคำขยับได้น้อย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นักลงทุนผ่อนคลายสถานการณ์ Brexit หลังอังกฤษได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ สร้างแรงขายในตลาดทองคำฐานะสินทรัพย์เสี่ยง แต่ความกังวลจากการก่อการร้ายในยุโรปยังกดดันตลาดหุ้น ภาพรวมคาดทองคำเคลื่อนไหว Side way ออกด้านข้าง มีโอกาสทำกำไรจากการแกว่งตัว แต่ต้องติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่า เหตุเป็นปัจจัยสำคัญต่อการกดดันราคทองคำในประเทศขยับตัวได้น้อย

“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส ประเมินทิศทางราคาทองคำว่า ที่ผ่านมา ราคาทองคำทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี และเชื่อว่าจะเป็นจุดสูงสุดของปี 2559 ที่ระดับ 1,375 เหรียญ/ออนซ์ แต่ราคาไม่สามารถทะยานสร้างจุดสูงสุดครั้งใหม่ได้ จึงเกิดแรงเทขายกดดันลงมา ภาพรวมนักลงทุนคลายความกังวลต่อกรณีที่อังกฤษถอนตัวออกจาการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit)เมื่ออังกฤษได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่ชื่อว่า “เทเรซ่า เมย์” ซึ่งมีความชัดเจนว่าจะพยายามเจรจาร และต่อรองกับหสภาพยุโรปมากกว่าการถอนตัวออกจากกลุ่ม ส่งผลให้เกิดแรงซื้อเข้ามาในสินทรัพย์เสี่ยง หรือตลาดหุ้นทั่วโลก ขณะที่ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยย่อมต้องถูกเทขายออกมา

นอกจากนี้ ผลการประประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ปรากฏว่า ไม่มีมติเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม พร้อมยังตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับเดิม แสดงให้เห็นว่า BOE ไม่ได้มีความวิตกกังวลในสภาพเศรษฐกิจของประเทศที่ออาจได้รับผลกระทบต่อกรณี Brexit

ทำให้ปัจจัยที่ยังต้องจับตาในช่วงจากนี้ มองไปที่ทิศทางของสินทรัพย์เสี่ยง เนื่องจากยังมีความน่ากังวลกดดัน เช่น การก่อการร้ายในฝรั่งเศสจนทำให้มีผู้เสียชีวิตนั้นทำให้เกิดความวิตกกังวลต่ออัตราการเกิดการก่อการร้ายในฝั่งยุโรปมากขึ้น และดัชนีในกลุ่มประเทศยุโรปต่างปรับฐานรับความกังวลดังกล่าวค่อนข้างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม แรงซื้อและแรงขายในตลาดทองคำถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่นักลงทุนต้องจับตา เพราะจะเห็นค่อนข้างชัดว่าเมื่อราคาทำระดับแตะขึ้นจุดสูงสุดของปีแล้วไม่สามารถไปต่อได้ เนื่องจากเกิดแรงขายเข้ามากดดัน ประกอบกับกองทุนรายใหญ่ของโลก อย่างกองทุน SPDR ก็มีการขายทำกำไรในทองคำออกมา


นอกจากนี้ ยังมีตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ และแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางยุโรปที่จำเป็นต้องติดตามด้วย

สิ่งเหล่านี้ทำให้กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ หลังจากมีแรงขายเข้ามากดดันราคาทองคำค่อนข้างชัดเจนทำให้การเข้าลงทุนอาจต้องหันมารอการหดตัวของราคาทองคำ โดยเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นจากการดีดตัว โดยประเมินแนวรับที่โซน 1,311-1,305 เหรียญ/ออนซ์ หากราคาปรับตัวลงมา และไม่หลุดโซนแนวรับดังกล่าว แนะนำให้เข้าลงทุนเพื่อรอรับการดีดตัวกลับของราคาทองคำ

ขณะเดียวกัน เมื่อราคาทองคำมีการรีบาวนด์ขึ้นให้จับตาโซนแนวต้าน 1,347-1,358 เหรียญ/ออนซ์ หากราคายังไม่ผ่านให้ทยอยแบ่งทองคำออกขายทำกำไร และรอการย่อตัวอีกครั้งของราคาเพื่อเข้าลงทุน

“เราประเมินว่าช่วงนี้ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวแบบ Sideway ออกด้านข้าง นักลงทุนสามารถทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว แต่ต้องติดตามความเคลื่้อนไหวของค่าเงินบาท หลังจากเริ่มส่งสัญญาณแข็งค่าจากปริมาณเม็ดเงินลงทุนในต่างประเทศที่ยังไหลเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่กดดันให้การขยับขึ้นของราคาทองคำในประเทศขยับตัวได้น้อยกว่าตลาดต่างแดน”
กำลังโหลดความคิดเห็น