xs
xsm
sm
md
lg

งานกร่อย! “กษัตริย์ซาอุฯ-บาห์เรน” ปฏิเสธเทียบเชิญประชุมซัมมิตกับ “โอบามา” ส่งเพียงมกุฎราชกุมารไปแทน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานแห่งซาอุดีอาระเบีย และประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ
เอเอฟพี - สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานแห่งซาอุดีอาระเบียโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าชาย โมฮัมเหม็ด บิน นาเยฟ มกุฎราชกุมารพระองค์ใหม่ เสด็จฯ แทนพระองค์ไปร่วมการประชุมซัมมิตซึ่งประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพจัดขึ้นที่แคมป์เดวิด มลรัฐแมริแลนด์ ในวันพฤหัสบดีนี้ (13 พ.ค.) โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยืนยันว่าการที่พระประมุขแห่งซาอุฯ ไม่เสด็จมาด้วยพระองค์เองมิใช่การตอบโต้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง และไม่ถือว่าผิดมารยาทการทูตแต่อย่างใด

โอบามา ได้ส่งเทียบเชิญพระมหากษัตริย์ เอมีร์ และสุลต่านแห่งรัฐอ่าวอาหรับรวม 6 พระองค์ ให้เสด็จมาเยือนบ้านพักแคมป์เดวิด ซึ่งถือเป็นความพยายามสร้างความเชื่อมั่นต่อชาติพันธมิตรในตะวันออกกลาง ในขณะที่วอชิงตันกำลังเจรจากับอิหร่านว่าด้วยการควบคุมกิจกรรมนิวเคลียร์

แผนจัดประชุมซัมมิตของโอบามาครั้งนี้ทำท่าจะไม่สำเร็จงดงามอย่างที่คิด เพราะจะมีบุคคลระดับประมุขรัฐเข้าร่วมการประชุมเพียง 2 พระองค์เท่านั้น

สถานทูตซาอุฯ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. แถลงเมื่อวานนี้ (10) ว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน นาเยฟ มกุฎราชกุมาร จะทรงเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนซาอุฯ เข้าร่วมประชุมกับโอบามา ขณะที่เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน พระราชโอรสของสมเด็จพระราชาธิบดีซึ่งมีตำแหน่งเป็นรัชทายาทลำดับที่ 2 และเป็นผู้ผลักดันให้ซาอุฯ ส่งเครื่องบินเข้าไปโจมตีกบฏเยเมนก็จะเสด็จด้วย

ทั้งนี้ มีกระแสข่าวลือมาเนิ่นนานตั้งแต่ก่อนจะทรงครองราชย์ว่า สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานทรงพระประชวรโรคความจำเสื่อม ซึ่งทำให้พระราชโอรสและมกุฎราชกุมารต้องทรงปฏิบัติภารกิจด้านการต่างประเทศแทนพระองค์เสียเป็นส่วนใหญ่

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยังคาดหมายว่าสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานจะเสด็จเยือนสหรัฐฯ ด้วยพระองค์เอง จนกระทั่งค่ำวันศุกร์ที่แล้ว (8) จึงได้รับแจ้งจากทางการซาอุฯ ว่ามีการเปลี่ยนแปลง

“สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่การตอบโต้เรื่องใดทั้งสิ้น” เจ้าหน้าที่อาวุโสในรัฐบาลสหรัฐฯ ยืนยัน

สมเด็จพระราชาธิบดี ฮามาด บิน อิสซา อัล-คอลิฟา แห่งบาห์เรน ก็โปรดเกล้าฯ ให้มกุฎราชกุมารเสด็จไปร่วมประชุมแทนพระองค์เช่นกัน ซึ่งหมายความว่า โอบามา จะได้พบบุคคลระดับประมุขรัฐจากกาตาร์และคูเวตเท่านั้น ทั้งที่ได้ส่งเทียบเชิญอย่างเอิกเกริก
เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน นาเยฟ มกุฏราชกุมารซาอุฯ
ทำเนียบขาวหวังว่า การประชุมซัมมิตครั้งนี้จะช่วยลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเจรจาควบคุมนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งรัฐอ่าวอาหรับมองว่าไม่ต่างจากการต่อรองกับ “ปีศาจ” และยังรู้สึกว่าโอบามาให้ความสำคัญกับพันธมิตรสุหนี่ในตะวันออกกลางน้อยลง

เจ้าหน้าที่รัฐอ่าวอาหรับเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยอมจำหน่าย F-35 ซึ่งเป็นสุดยอดเครื่องบินขับไล่สเตลท์ยุคที่ 5 ให้แก่พันธมิตรแถบนี้ และทำข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะรับรองความมั่นคงหากเกิดภัยคุกคามจากอิหร่าน

ข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์ฉบับสมบูรณ์ซึ่งจะต้องเจรจาให้สำเร็จลุล่วงภายในเดือนมิถุนายนนี้ จะทำให้อิหร่านต้องตัดทอนกิจกรรมนิวเคลียร์ลงอย่างมาก เพื่อแลกกับการเพิกถอนมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและปล่อยเงินทุนที่อายัดไว้เป็นมูลค่ากว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

รัฐอ่าวอาหรับเกรงว่าเตหะรานอาจนำเม็ดเงินมหาศาลเหล่านี้ไปใช้ซื้ออาวุธ หรือสนับสนุนกองกำลังท้องถิ่นชีอะห์ในภูมิภาค

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ประเด็นสำคัญที่จะมีการพูดคุยกับผู้นำรัฐอ่าวอาหรับคือการสนับสนุนโครงสร้างด้านการป้องกันประเทศ โดยเน้น “ความร่วมมือในด้านความมั่นคง การต่อต้านก่อการร้าย ความมั่นคงทางทะเล ความมั่นคงไซเบอร์ และระบบป้องกันขีปนาวุธ”

สถานทูตซาอุฯ ได้อ้างคำชี้แจ้งของ อเดล อัล-ญุเบร์ รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งระบุว่า สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานไม่สามารถเสด็จฯ เยือนสหรัฐฯ ได้ด้วยเหตุผลเรื่อง “เวลาในการจัดประชุม ซึ่งไปตรงกับช่วงที่ซาอุฯ และกบฏเยเมนทำข้อตกลงหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรม รวมถึงพิธีเปิดศูนย์ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแห่งสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน”

กำลังโหลดความคิดเห็น