ญี่ปุ่นและสหรัฐฯเปิดตัวแนวทางความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศญี่ปุ่น-สหรัฐฯ (Guidelines for Japan-US Defence Cooperation) ใหม่ในวันจันทร์(27เม.ย.) สะท้อนถึงความตั้งใจของโตเกียวที่จะเพิ่มความเข้มแข็งในบทบาทนานาชาติ ในช่วงเวลาที่จีนกำลังแผ่ขยายอิทธิพลและมีความกังวลมากขึ้นต่อเกาหลีเหนือ
การแก้ไขปรับปรุงครั้งแรกของแนวทางความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศญี่ปุ่น-สหรัฐฯที่มีมาตั้งแต่ปี 1997 คือการเปิดทางขยายขอบเขตความร่วมมือด้านทหารระดับนานาชาติ ไล่ตั้งแต่การป้องกันตนเองจากขีปนาวุธนำวิถี การโจมตีทางไซเบอร์และอวกาศ รวมถึงความมั่นคงทางทะเล หลังจากเมื่อปีที่แล้ว รัฐสภาแดนปลาดิบลงมติตีความรัฐธรรมนูญฉบับสันติภาพใหม่ เพื่อให้ญี่ปุ่นมีสิทธิ์ป้องกันตนเองได้โดยตรง
แนวทางความร่วมมือใหม่ที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกและวิวัฒนาการในนโยบายความมั่นคงของญี่ปุ่น หมายความว่าโตเกียวมีสิทธิ์สอยขีปนาวุธใดก็ตามที่มุ่งสู่สหรัฐฯและสามารถให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศพันธมิตรใกล้ชิดในกรณีที่ประเทศนั้นถูกโจมตี
ในฐานะประเด็นสำคัญของการมาเยือนสหรัฐฯในสัปดาห์นี้ของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่น แนวทางความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศโตเกียว-วอชิงตัน คือการส่งสัญญาณออกไปในวงกว้างของนายอาเบะว่าญี่ปุ่นพร้อมรับภาระความรับผิดชอบด้านความมั่นคงของตนเองมากขึ้น ขณะที่จีนพัฒนากองทัพสมัยใหม่และเบ่งอิทธิพลในเอเชีย
ในทางกลับกัน ผู้นำอนุรักษ์นิยมของญี่ปุ่นรายนี้ ซึ่งมีคิวพบปะกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯในวันอังคาร(28เม.ย.) ก็แสวงหาคำรับประกันจากอเมริกาว่าจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือโตเกียวถ้าจำเป็น ในกรณีที่ปะทะกับจีน
การแก้ไขปรับปรุงครั้งแรกของแนวทางความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศญี่ปุ่น-สหรัฐฯที่มีมาตั้งแต่ปี 1997 คือการเปิดทางขยายขอบเขตความร่วมมือด้านทหารระดับนานาชาติ ไล่ตั้งแต่การป้องกันตนเองจากขีปนาวุธนำวิถี การโจมตีทางไซเบอร์และอวกาศ รวมถึงความมั่นคงทางทะเล หลังจากเมื่อปีที่แล้ว รัฐสภาแดนปลาดิบลงมติตีความรัฐธรรมนูญฉบับสันติภาพใหม่ เพื่อให้ญี่ปุ่นมีสิทธิ์ป้องกันตนเองได้โดยตรง
แนวทางความร่วมมือใหม่ที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกและวิวัฒนาการในนโยบายความมั่นคงของญี่ปุ่น หมายความว่าโตเกียวมีสิทธิ์สอยขีปนาวุธใดก็ตามที่มุ่งสู่สหรัฐฯและสามารถให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศพันธมิตรใกล้ชิดในกรณีที่ประเทศนั้นถูกโจมตี
ในฐานะประเด็นสำคัญของการมาเยือนสหรัฐฯในสัปดาห์นี้ของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่น แนวทางความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศโตเกียว-วอชิงตัน คือการส่งสัญญาณออกไปในวงกว้างของนายอาเบะว่าญี่ปุ่นพร้อมรับภาระความรับผิดชอบด้านความมั่นคงของตนเองมากขึ้น ขณะที่จีนพัฒนากองทัพสมัยใหม่และเบ่งอิทธิพลในเอเชีย
ในทางกลับกัน ผู้นำอนุรักษ์นิยมของญี่ปุ่นรายนี้ ซึ่งมีคิวพบปะกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯในวันอังคาร(28เม.ย.) ก็แสวงหาคำรับประกันจากอเมริกาว่าจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือโตเกียวถ้าจำเป็น ในกรณีที่ปะทะกับจีน