เอเอฟพี - สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอห์ บิน อับดัลอะซิซ อาล สะอูด ทรงมีพระบรมราชโองการให้ปลดเจ้าชายมุคริน บิน อับดุล อาซิส บิน สะอูด ที่มีฐานะเป็นพระอนุชาต่างพระมารดา ออกจากตำแหน่งมกุฎราชกุมารในฐานะผู้สืบรัชทายาท และโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเจ้าชายมูฮัมหมัด บิน นาเยฟ ซึ่งมีศักดิ์เป็นพระราชนัดดาที่ในขณะนี้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยแห่งซาอุดีอาระเบีย ดำรงพระยศ “มกุฎราชกุมาร” แทน รวมไปถึงการทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเจ้าชายโมฮัมหมัด บิน ซัลมาน อัล ซาอุด พระราชโอรสขึ้นเป็น “รองมกุฎราชกุมาร” รวมไปถึงการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ โดย อเดล อัล-จูเบอีร์ เอกอัคราชทูตซาอุดีอาระเบียประจำสหรัฐฯ ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบียคนต่อไป
สื่อทางการของซาอุดีอาระเบียรายงานแถลงการณ์ของราชสำนักซาอุฯความว่า “ทางเราได้ทำตามพระประสงค์ของเจ้าชายมุคริน บิน อับดุล อาซิส บิน สะอูดที่พระองค์ทรงมีความปรารถนาที่จะลาออกจากการดำรงพระยศในฐานะ “มกุฎราชกุมารแห่งพระราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย”
ซึ่งเอเอฟพีรายงานว่า สื่อซาอุฯ ยังรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าชายมุคริน บิน อับดุล อาซิส บิน สะอูดยังทรงประกาศลาออกจากการดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีซาอุฯ อีกตำแหน่งด้วย
นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ของราชสำนักซาอุฯ ยังมีประกาศแต่งตั้งเจ้าชายมูฮัมหมัด บิน นาเยฟ ทรงดำรงพระยศ “มกฎราชกุมาร” แทน และทรงจะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบียอีกหนึ่งตำแหน่งด้วย
และทั้งนี้สื่อซาอุฯ ยังรายงานเพิ่มเติมว่า มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียพระองค์ใหม่ยังจะทรงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยต่อไปอันเป็นตำแหน่งเดิมของพระองค์ รวมไปถึงพระองค์จะยังทรงเป็นประธานสภาความมั่นคงและการเมืองแห่งซาอุฯ
ทั้งนี้ การสั่งปลดเจ้าชายมุคริน บิน อับดุล อาซิส ถือเป็นการปลดเจ้านายชั้นสูงพระองค์สุดท้ายที่ดำงตำแหน่งในรัชกาลของอดีตกษัตริย์ซาอุฯ สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอห์ บิน อับดัลอะซิซ อาล สะอูดที่ทรงเพิ่งเสด็จสวรรคตในเดือนมกราคมที่ผ่านมาด้วยโรคปอดบวม
การประกาศจากสำนักราชวังซาอุฯ ยังรวมไปถึงการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเจ้าชายโมฮัมหมัด บิน ซัลมาน อัล ซาอุด พระราชโอรสในวัยกว่า 30 พรรษาขึ้นเป็นรองมกุฎราชกุมาร รอสืบทอดอำนาจต่อจากพระราชบิดาเป็นลำดับที่ 2
นอกจากนี้ เอเอฟพียังรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าชายโมฮัมหมัด บิน ซัลมาน อัล ซาอุด จะยังทรงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมซาอุฯ รวมไปถึงยังทรงทำหน้าที่เป็นประธานสภาเศรษฐศาสตร์และการพัฒนาแห่งซาอุดีอาระเบีย
แต่ทั้งนี้ สื่อซาอุฯ ระบุว่า เจ้าชายโมฮัมหมัด บิน ซัลมาน อัล ซาอุดจะทรงไม่ดำรงตำแหน่ง “หัวหน้าประจำราชสำนัก” ตำแหน่งระดับสูงที่สำคัญในราชสำนักที่ควบคุมดูแลในวังหลวงให้แก่กษัตริย์ซาอุฯ ซึ่งในระบบการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์นั้นตำแหน่งนี้ถือว่าเป็นตำแหน่งที่ทรงอิทธิพลเป็นอย่างมาก จากความเห็นของ บรูซ รีเดล (Bruce Riedel) อดีตเจ้าหน้าที่ CIA สหรัฐฯ ที่รับผิดชอบโปรเจกต์ “Brookings Intelligence” ในวอชิงตัน
เอเอฟพีรายงานว่า ตำแหน่งหัวหน้าราชสำนักซาอุฯ จะตกอยู่กับ ฮามาด บิน อับดุลลาซิส อัล-ซูอาลิม (Hamad bin Abdulaziz al-Sualim) แทน
ในขณะเดียวกัน ในวันเดียวกันนี้ยังมีพระราชองค์การโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง อเดล อัล-จูเบอีร์ (Adel al-Jubeir )เอกอัคราชทูตซาอุดีอาระเบียประจำสหรัฐฯ ขึ้นเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศซาอุฯคนใหม่ แทนเจ้าชายสะอูด อัล-ไฟซอลที่ทรงดำรงตำแหน่งนี้มาอย่างยาวนาน
ในแถลงการณ์ของราชสำนักซาอุฯรายงานว่า “เจ้าชายสะอูด อัล-ไฟซอลทรงมีพระประสงค์ขอลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบียเนื่องจากทรงมีปัญหาทางด้านพระพลานามัย”
และสื่ออย่างเป็นทางการของซาอุฯ ยังรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าชายสะอูด อัล-ไฟซอลทรงได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา และทูตพิเศษของสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอห์ บิน อับดัลอะซิซ อาล สะอูด รวมไปถึงผู้ดูแลด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ