รอยเตอร์ - ภาพถ่ายดาวเทียมล่าที่สุดที่ถูกเปิดเผยโดยวอชิงตันธิงแทงก์ สถาบันแห่งยุทธศาสตร์และการศึกษาความสัมพันธ์นานาชาติ CSIS แสดงให้เห็นถึงการเร่งถมทะเลขยายพื้นที่บริเวณที่เวียดนามประกาศกรรมสิทธิ์ครอบครองแถบแนวหินปะการังแซนด์เคย์ (Sand Cay)และกลุ่มหินปะการังลอนดอนรีฟส์ (West London Reef) ในหมู่เกาะสแปรตลีย์ ทะเลจีนใต้ ซึ่งยังเป็นเขตแถบบริเวณพิพาทกับจีน
ภาพถ่ายผ่านดาวเทียมล่าสุดที่เปิดเผยโดยวอชิงตันธิงแทงก์ สถาบันแห่งยุทธศาสตร์และการศึกษาความสัมพันธ์นานาชาติ CSIS แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่บริเวณเขตกรณีพิพาทหมู่เกาะสปรตลีย์ที่ถูกเวียดนามถือสิทธิครอบครองในทะเลจีนใต้ โดยภาพถ่ายดาวเทียมของ firm DigitalGlobe ที่ถ่ายไว้ในระหว่างปี 2010 และวันที่ 30 เมษายน 2015
ทั้งนี้ ไมรา แรปป์-ฮูเปอร์ (Mira Rapp-Hooper) ผู้อำนวยการโครงการริเริ่มความโปร่งใสการเดินทะเลในเอเชียของ CSIS (Asia Maritime Transparency Initiative) ให้ความเห็นว่า ดูเหมือนว่าการก่อสร้างรวมไปถึงการตั้งฐานทัพนี่เริ่มก่อนที่จีนจะเดินหน้าถมทะเลประกาศการครอบครองกรรมสิทธิ์ในปีที่ผ่านมา ที่รวมไปถึงเกาะซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานทัพ
นอกจากนี้ แรปป์-ฮูเปอร์ยังเปิดเผยต่อว่า ในบริเวณแถบนั้นได้เริ่มมีการถมที่ใต้ทะเล และยังรวมไปถึงมีการใช้บริเวณที่ถมเพิ่มเพื่อขยายบริเวณตัวเกาะที่มีอยู่เดิม
รอยเตอร์ระบุว่า การเร่งประกาศอ้างสิทธิ์ของจีนทำให้ประเทศเพื่อนบ้านของจีน รวมไปถึงสหรัฐฯ ต่างประหวั่นพลั่นใจ ด้วยมองเห็นถึงภัยคุกคามต่อเส้นทางการเดินทะเลขนถ่ายสินค้ามูลค่าร่วม 5 ล้านล้านในแต่ละปี ซึ่งพบว่าจีนได้อ้างกรรมสิทธิ์ในทะเลจีนใต้ถึง 90% ที่คาดว่าจะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแก๊สธรรมชาติและน้ำมัน แต่กลับทับซ้อนกับการอ้างกรรมสิทธิ์ของบรูไน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไต้หวัน และบนฐานทัพเวียดนามบนแนวหินปะการังแซนด์เคย์นั้นมีการติดตั้งระบบแนวป้องกันทางการทหาร รวมไปถึงอาวุธปืน และมีตึกหลังใหม่ผุดขึ้นบริเวณแนวกลุ่มหินปะการังลอนดอนรีฟส์ ซึ่งคาดว่าอาจมีอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารติดตั้งที่นี่เช่นกัน แรปป์-ฮูเปอร์เผย
ในเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่มีเสียงวิพากษ์ถึงโครงการถมทะเลเพื่ออ้างกรรมสิทธิ์ในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลของจีนนั้น ซึ่งจีนได้โต้กลับไปยังฟิลิปปินส์ และประเทศอื่นๆในการแอบลักลอบสร้างสิ่งปลูกสร้างผิดกฎหมายบนเกาะต่างๆของจีนในทะเลจีนใต้
และสอดคล้องกับความเห็นของผู้อำนวยการโครงการริเริ่มความโปร่งใสการเดินทะเลในเอเชียของ CSIS ว่า ถ้าจะพูดอย่างเป็นธรรมจากหลักฐานภาพถ่ายดาวเทียมนี้ ต้องยอมรับว่าการกล่าวหาของจีนนั้นถูกต้อง แต่ทว่าทางเราขอกล่าวตามหลักฐานว่า เมื่อพิจารณาจากโปรเจกต์โครงการถมทะเลขยายอาณาเขตของจีนแล้ว โปรเจกต์ของจีนนั้นใหญ่มากจนทำให้การเร่งถมทะเลของเวียดนามเล็กลงไปถนัดตา เพราะจากภาพถ่ายดาวเทียมจะพบว่า เวียดนามได้อ้างกรรมสิทธิ์ในพื้นที่ราว 65,000 ตรม.บนเกาะกลุ่มหินปะการังลอนดอนรีฟส์ และอีก 21,000 ตรม.บนแนวหินปะการังแซนด์เคย์ เมื่อเปรียบเทียบกับการอ้างกรรมสิทธิ์ของจีนในพื้นที่ราว 900,000 ตรม.บนเกาะหินปะการัง เฟียรี ครอส (Fiery Cross) จะเห็นได้ว่าเทียบกันไม่ได้เลย
และแรปป์-ฮูเปอร์ยังแถลงเพิ่มเติมว่า ในภาพดาวเทียมที่ถ่ายไว้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2014 ระบุว่าจีนได้ถมทะเลเพื่อประกาศสิทธิครอบครองในบริเวณ 7 แห่งแถบสแปรตลีย์ และยังได้ก่อสร้างรันเวย์บินของกองทัพบนเกาะที่ถูกสร้างใหม่ และเธอยังคาดว่า อาจจะมีแห่งที่สองบนเกาะอื่น
แต่อย่างไรก็ตาม แรป์-ฮูเปอร์ให้ข้อมูลว่า เวียดนามได้สร้างรัยเวย์ทางการทหารบนหมู่เกาะแสปรตลีย์ก่อนหน้านี้แล้ว
รอยเตอร์รายงานว่า ทั้งกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ และเพนตากอนยังไม่ให้ความเห็นในภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดนี้
ด้านประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้กล่าวหาจีนถึงการแสดงความก้าวร้าวด้วยการขยายอาณาเขตทางทะเล ซึ่งทางวอชิงตันได้ช่วยประเทศพันธมิตรในบริเวณพิพาทเขตแดนทางทะเลกับจีนด้วยการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางการทหาร