เอเอฟพี – ฟิลิปปินส์อ้างโครงการถมทะเลสร้างหมู่เกาะจำลองของจีนกระทบสิ่งแวดล้อม เผยแนวปะการังถูกทำลายไปแล้ว 300 เอเคอร์หรือประมาณ 3 เท่าของพื้นที่นครรัฐวาติกัน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจต่อประเทศเพื่อนบ้านถึงปีละ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
“โครงการถมทะเลที่จีนดำเนินการอยู่จะส่งผลให้ความหลากหลายทางชีวภาพ และสมดุลนิเวศในทะเลจีนใต้และทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตกถูกทำลายอย่างกว้างขวาง โดยไม่สามารถฟื้นฟูได้อีก” ชาร์ลส โฆเซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศแดนตากาล็อก แถลงวันนี้ (13 เม.ย.)
โฆเซ ยังกล่าวหาว่าจีนปล่อยปละละเลยให้ชาวประมงใช้วิธีจับสัตว์น้ำที่เป็นอันตรายต่อสภาพแวดล้อมบริเวณหมู่เกาะปะการังสการ์โบโรห์ (Scarborough Shoal) แหล่งปลาชุมที่จีนเข้าไปควบคุมไว้ตั้งแต่ปี 2012 หลังเกิดการเผชิญหน้าทางทะเลกับฟิลิปปินส์
ภาพถ่ายดาวเทียมที่ศูนย์เพื่อการศึกษายุทธศาสตร์ระหว่างประเทศสหรัฐฯ (CSIS) เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เผยให้เห็นกองเรือจีนกำลังขุดลอกทรายบริเวณแนวปะการังมิสชีฟ (Mischief Reef) ซึ่งมะนิลาเองก็อ้างกรรมสิทธิ์เช่นกัน
โฆเซ ชี้ว่า การที่จีนถมเกาะปะการังอย่างเร่งรีบอาจเพราะต้องการกลบเสียงคัดค้านจากประเทศที่เล็กกว่าอย่างฟิลิปปินส์ และยังอ้างถึงคำพูดของ หัว ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ซึ่งยอมรับว่า โครงการถมทะเลเชื่อมหมู่เกาะในทะเลจีนใต้จะเป็นประโยชน์ทั้งในด้านการทหารและการป้องกันอาณาเขตของจีน
ฟิลิปปินส์ไม่ยอมรับแผนที่เส้นประ 9 เส้นที่จีนใช้เป็นหลักฐานอ้างอธิปไตยเหนือน่านน้ำในทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด โดยชี้ว่าเป็นการอ้างที่ขัดต่อกฎหมาย
“เราขอเรียกร้องให้จีนยุติโครงการถมทะเลนี้เสีย และจงตระหนักถึงความรับผิดชอบในฐานะเป็นประเทศหนึ่งที่อ้างกรรมสิทธิ์ และเป็นสมาชิกที่สำคัญของประชาคมโลก” โฆเซ กล่าว
ด้านประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ระบุว่าจีนกำลังใช้ “ขนาดและอิทธิพล” ข่มเหงประเทศเพื่อนบ้าน หลังทราบรายละเอียดโครงการถมทะเลเชื่อมเกาะเล็กเกาะน้อยในทะเลจีนใต้ ที่จีนอ้างว่าเพื่อใช้ป้องกันทางทหารและบริการพลเรือนซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศอื่นๆ ด้วย