เอเอฟพี - ผลตรวจสอบพบนักบินผู้ช่วยของสายการบินเยอรมันวิงส์ เคยทดลองลดระดับความสูงอย่างรวดเร็วมาแล้วในเที่ยวบินก่อนหน้า ก่อนจงใจบังคับเครื่องบินพุ่งชนเทือกเขาแอลป์ในฝรั่งเศสเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม คณะสืบสวนของฝรั่งเศสเปิดเผยในวันพุธ(6พ.ค.)
สำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศของฝรั่งเศส (บีอีเอ) เผยว่านายอันเดรียส ลูบิตซ์ นักบินผู้ช่วยวัย 27 ปี เคยทดลองบินในลักษณะดังกล่าวบนเที่ยวบินจากดุสเซลดอร์ฟ ของเยอรมนี สู่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ไม่กี่ชั่วโมงก่อนลงมือฆ่าตัวตายจริงๆในเที่ยวบินขากลับ
"บันทึกข้อมูลการบินของเที่ยวบินก่อนหน้าประสบอุบัติเหตุ พบว่ามีการเลือกลดระดับการบินลงสู่ 100 ฟุตหลายครั้ง ในช่วงเวลาที่นักบินผู้ช่วยอยู่ภายในห้องควบคุมเพียงลำพัง" รายงานระบุ โดยอ้างข้อมูลในกล่องดำของเครื่องบิน
นายเรมี จูตี ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจสอบอุบัติเหตุการบินของฝรั่งเศส บอกกับผู้สื่อข่าวต่อว่าการกระทำดังกล่าวมันไม่ก่อผลกระทบพอที่จะสังเกตได้ เนื่องจากนายลูบิตซ์ ฉวยโอกาสตอนที่เครื่องบินเริ่มลดระดับลงสู่เมืองบาร์เซโลนา ดำเนินการทดลอง
เครื่องบินแอร์บัส320ของสายการบินเยอรมันวิงส์ พุ่งชนเทือกเขาแอลป์เมื่อวันที่ 24 มีนาคม คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือยกลำ 150 ศพ โดยผลสืบสวนอุบัติเหตุยืนยันข้อสงสัยเบื้องต้นที่ว่านายลูบิตซ์ตั้งใจบังคับเครื่องบินโหม่งโลก
ในเที่ยวบินมรณะที่มุ่งหน้ากลับสู่ดุสเซลดอร์ฟ ที่มีกำหนดออกเดินทางตอน 9.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ขั้นตอนทุกอย่างดำเนินไปตามปกติ แม้กระทั่งนายลูบิตซ์ ก็ยังรับประทานอาหาร หลังเครื่องบินขึ้นบินไปแล้ว 15 นาที
จากนั้นตอนเวลาประมาณ 9.30 น. กัปตันออกไปเข้าห้องน้ำ และมีการเลือกระดับความสูงบนแผงควบคุมการบิน โดยมีการปรับภายในเวลาไม่กี่วินาที จากระดับความสูงสำหรับการเดินทางปกติ (cruising altitude) ที่ 38,000 ฟุตสู่ 100 ฟุต อันเป็นระดับความสูงขั้นต่ำสุดของเครื่องบินแอร์บัสเอ320 และความเร็วของเครื่องบินก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นตามลำดับ
ระหว่างที่เครื่องบินลดระดับการบินอย่างฉับพลัน เจ้าหน้าที่หอควบคุมการสัญจรทางอากาศของเมืองมาร์กเซย์พยายามติดต่อเครื่องบินถึง 11 ครั้ง เช่นเดียวกับทางกองทัพอากาศที่พยายามติดต่อเครื่องบินลำนี้อีก 3 ครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนอง
บันทึกการสนทนาในห้องควบคุมพบว่า นักบินพยายามอย่างลนลานเพื่อกลับเข้าไปในห้องให้ได้ ได้ยินเสียงโทรศัพท์ภายในดังขึ้น 3 ครั้ง และเสียงสัญญาณดังขึ้นภายในห้องควบคุมหลังจากเขาใส่รหัสเพื่อเปิดประตูห้องซึ่งเสริมความแข็งแรงเพื่อป้องกันเหตุจี้เครื่องบิน ต่อมาก็ได้ยินเสียงคนเคาะประตูอีก 6 ครั้งและเสียงพูดพึมพำร้องขอให้เปิดประตู
จากนั้นก็ได้ยินเสียงคล้ายทุบประตูอย่างรุนแรงอีก 5 ครั้งในช่วงราวๆ 2 นาทีก่อนเครื่องบินจะถึงจุดจบ และระบบสัญญาณเตือนก็ดังขึ้นไปจนถึงวาระสุดท้าย
อัยการเปิดเผยว่าเมื่อนายลูบิตซ์เคยเข้าบำบัดทางจิตเกี่ยวกับแนวโน้มจะฆ่าตัวตาย หลายปีก่อน ก่อนหน้าที่เขาจะได้รับใบอนุญาตนักบิน ขณะที่ลุฟท์ฮันซ่า บริษัทแม่ของเยอรมันวิงส์ ยอมรับว่าเขาเคยแจ้งกับเจ้าหน้าที่โรงเรียนฝึกบินของลุฟท์ฮันซ่าในปี 2009 ว่าเขาเคยป่วยเป็นโรคซึมเศร้ารุนแรง
ลุฟท์ฮันซ่าบอกว่านายลูบิตซ์ เคยต้องระงับการอบรมหลักสูตรฝึกบินเป็นเวลานานหลายเดือน แต่จากนั้นก็ผ่านการตรวจร่างกายที่ยืนยันว่าเขาเหมาะสมสำหรับขึ้นบิน โดยเมื่อครั้งที่กลับมาเข้ารับการฝึกอบรมอีกรอบ เขาได้มอบเอกสารทางการแพทย์แก่โรงเรียนการบินของลุฟท์ฮันซ่าที่ระบุว่าเคยป่วยเป็นโรคซึมเศร้ารุนแรง
อย่างไรก็ตาม คณะแพทย์บอกว่าเมื่อเร็วๆนี้ไม่พบว่าเขามีอาการตั้งใจที่จะทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น แต่กำลังเข้ารับการรักษาจากนักประสาทวิทยาและนักจิตแพทย์ที่เซ็นเอกสารให้เขาหยุดงานหลายครั้งในนั้นรวมถึงวันที่เครื่องบินประสบเหตุ แต่เขาปกปิดอาการป่วยจากนายจ้าง โดยตำรวจพบใบรับรองแพทย์ที่ถูกฉีกทิ้งระหว่างการตรวจค้นที่พักของเขาหลังจากเกิดเหตุด้วย