เอเอฟพี - บันทึกจากกล่องดำกล่องที่ 2 ที่เพิ่งถูกพบท่ามกลางซากหักพังของเครื่องบินเยอรมันวิงส์ที่ดิ่งลงสู่เทือกเขาแอลป์เมื่อสัปดาห์ก่อน ยืนยันนักบินผู้ช่วยเร่งเครื่องพาเครื่องบินโหม่งโลกด้วยความเร็ว 700 กิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วยความตั้งใจ
"จากการอ่านบันทึกข้อมูลกล่องดำรอบแรกพบว่านักบินในห้องนักบินใช้ระบบควบคุมการบินอัตโนมัติให้เครื่องบินลดระดับเพดานบินสู่ความสูง 100 ฟุต(30 เมตร" นักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศของฝรั่งเศส (บีอีเอ) ระบุในถ้อยแถลง "จากนั้น ระหว่างเครื่องบินลดระดับลง นักบินได้กำหนดระบบควบคุมการบินอัตโนมัติปรับเร่งความเร็วของเครื่องบินขึ้นอีกหลายรอบ" จนกระทั่งเครื่องบินพุ่งลงกระแทกเทือกเขาข้างล่าง
ข้อมูลล่าสุดนี้จะเป็นการยืนยันอย่างชัดเจนต่อทฤษฎีที่ว่านายแอนเดรียส ลูบิตซ์ นักบินผู้ช่วยตั้งใจบังคับเครื่องบินพุ่งชนภูเขา คร่าชีวิตทุกคนบนเครื่องยกลำ
เจ้าหน้าที่พบกล่องดำกล่องที่ 2 ซึ่งบรรจุข้อมูลการบินเมื่อวันพฤหัสบดี(2เม.ย.) ในวันที่ 9 ของปฏิบัติการค้นหาตามแถบเทือกเขาที่ดำเนินการอย่างยากลำบาก จากนั้นกล่องดำกล่องนี้ที่อยู่ในภาพดำสนิทจากการถูกไฟเผาไหม้และถูกฝังอยู่ใต้กองเศษหินบนภูเขา ก็ถูกส่งไปยังปารีสในช่วงค่ำวันเดียวกัน และเหล่าคณะสืบสวนที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษได้เริ่มต้นวิเคราะห์ข้อมุลในทันที
ข้อมูลจากกล่องดำกล่องแรกที่พบซึ่งบันทึกข้อมูลการสนทนาในห้องนักบิน บ่งชี้ว่านายลูบิตซ์ วัย 27 ปี ล็อคประตูห้องควบคุมไม่ให้กัปตันกลับเข้ามาภายใน จากนั้นก็ตั้งใจกำหนดให้เครื่องบินพุ่งชนภูเขาด้วยความเร็ว 700 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คร่าชีวิตยกลำ 150 ศพ โดยครึ่งหนึ่งเป็นชาวเยอรมนีและมากกว่า 50 คนเป็นชาวสเปน
การค้นพบดังกล่าวมีขึ้นขณะที่อัยการเยอรมนีเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติการค้นหาในคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตที่พบระหว่างเข้าตรวจค้นที่พักของเขาในเมืองดุสเซลดอร์ฟ โดยระบุว่าผู้ใช้เคยค้นหา “วิธีรักษาทางการแพทย์ แนวทางฆ่าตัวตายเช่นเดียวกับประตูห้องนักบิน และข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของประตูห้องนักบิน”
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ อัยการเปิดเผยว่าเมื่อนายลูบิตซ์เคยเข้าบำบัดทางจิตเกี่ยวกับแนวโน้มจะฆ่าตัวตาย หลายปีก่อน ก่อนหน้าที่เขาจะได้รับใบอนุญาตนักบิน ขณะที่ในวันอังคาร (31 มี.ค.) ลุฟท์ฮันซ่า บริษัทแม่ของเยอรมันวิงส์ ยอมรับว่าเขาเคยแจ้งกับเจ้าหน้าที่โรงเรียนฝึกบินของลุฟท์ฮันซ่าในปี 2009 ว่าเขาเคยป่วยเป็นโรคซึมเศร้ารุนแรง
ลุฟท์ฮันซ่าบอกว่านายลูบิตซ์ เคยต้องระงับการอบรมหลักสูตรฝึกบินเป็นเวลานานหลายเดือน แต่จากนั้นก็ผ่านการตรวจร่างกายที่ยืนยันว่าเขาเหมาะสมสำหรับขึ้นบิน โดยเมื่อครั้งที่กลับมาเข้ารับการฝึกอบรมอีกรอบ เขาได้มอบเอกสารทางการแพทย์แก่โรงเรียนการบินของลุฟท์ฮันซ่าที่ระบุว่าเคยป่วยเป็นโรคซึมเศร้ารุนแรง
อย่างไรก็ตาม คณะแพทย์บอกว่าเมื่อเร็วๆนี้ไม่พบว่าเขามีอาการตั้งใจที่จะทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น แต่กำลังเข้ารับการรักษาจากนักประสาทวิทยาและนักจิตแพทย์ที่เซ็นเอกสารให้เขาหยุดงานหลายครั้งในนั้นรวมถึงวันที่เครื่องบินประสบเหตุ แต่เขาปกปิดอาการป่วยจากนายจ้าง โดยตำรวจพบใบรับรองแพทย์ที่ถูกฉีกทิ้งระหว่างการตรวจค้นที่พักของเขาหลังจากเกิดเหตุด้วย