รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้ (4 เม.ย.) ฝรั่งเศสแถลงยุติการค้นหาร่างเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินเยอรมันวิงส์เที่ยวบิน 4U9525 ที่สังหารเหยื่อ 150 คน แต่ทว่ายังยืนยันว่าจะยังคงค้นหาทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตต่อ หลังจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยสามารถรวบรวมตัวอย่าง DNA 150 ตัวอย่าง และอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ
อัยการฝรั่งเศสเชื่อว่า แอนเดรียส ลูบิตซ์ ผู้ช่วยนักบินวัย 27 ปี จงใจขับเครื่องบินแอร์บัส A320 พุ่งเข้าชนเทือกเขาแอลป์ และทำให้การกู้ภัยนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก จากการค้นพบล่าสุดพบว่าลูบิตซ์เร่งเครื่องพาเครื่องบินโหม่งโลกด้วยความเร็ว 700 กิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วยความตั้งใจ
“การค้นหาร่างผู้เสียชีวิตนั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่การค้นหาทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตยังดำเนินต่อไป” โฆษกรัฐบาลท้องถิ่นอาลป์-เดอ-โอต-พรอว็องส์แถลง “ลุฟท์ฮันซ่าได้ว่าจ้างบริษัทผู้เชี่ยวชาญพิเศษเพื่อนำซากเครื่องบินออกจากที่เกิดเหตุ ภายใต้การควบคุมของอัยการฝรั่งเศส และผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม”
นอกจากนี้ การพิสูจน์หาเอกลักษณ์บุคคลของเหยื่อผู้เสียชีวิตจาก DNA จำนวน 150 ตัวอย่างที่รวบรวมได้จากจุดเหิดเหตุยัวดำเนินต่อไป ซึ่งคาดว่าอาจต้องใช้เวลาต่อไปอีกหลายสัปดาห์ ซึ่งอัยการฝรั่งเศสที่ทำคดีสอบสวนเยอรมันวิงส์ได้เตือนว่า จำนวนตัวอย่าง DNA ที่พบไม่ได้หมายความรวมว่าจะมาจากเหยื่อทั้ง 150 คนที่อยู่บนเครื่อง และในทันทีที่ตัวอย่าง DNA ตรงกับเหยื่อผู้เสียชีวิต ครอบครัวของเหยื่อผู้นั้นจะได้รับทราบทันที
งานเคลื่อนย้ายซากเครื่องบินแอร์บัส A320C และทำความสะอาดจะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า และคาดว่าจะต้องใช้เวลาถึง 2 เดือนจึงจะเสร็จสิ้น พล.ต.อ.เดวิด กาลติเออร์ (David Galtier) ผู้บัญชาการตำรวจควบคุมปฏิบัติงานแถลง
ก่อนหน้านี้เอเอฟพีรายงานว่า บันทึกจากกล่องดำกล่องที่ 2 ที่เพิ่งถูกพบท่ามกลางซากหักพังของเครื่องบินเยอรมันวิงส์ที่ดิ่งลงสู่เทือกเขาแอลป์เมื่อสัปดาห์ก่อน ยืนยันนักบินผู้ช่วยเร่งเครื่องพาเครื่องบินโหม่งโลกด้วยความเร็ว 700 กิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วยความตั้งใจ
“จากการอ่านบันทึกข้อมูลกล่องดำรอบแรกพบว่านักบินในห้องนักบินใช้ระบบควบคุมการบินอัตโนมัติให้เครื่องบินลดระดับเพดานบินสู่ความสูง 100 ฟุต (30 เมตร)” พนักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศของฝรั่งเศส (บีอีเอ) ระบุในถ้อยแถลง “จากนั้นเมื่อระหว่างเครื่องบินลดระดับลง นักบินได้กำหนดระบบควบคุมการบินอัตโนมัติปรับเร่งความเร็วของเครื่องบินขึ้นอีกหลายรอบ” จนกระทั่งเครื่องบินพุ่งลงกระแทกเทือกเขาข้างล่าง
เจ้าหน้าที่พบกล่องดำกล่องที่ 2 ซึ่งบรรจุข้อมูลการบินเมื่อวันพฤหัสบดี (2) ในวันที่ 9 ของปฏิบัติการค้นหาตามแถบเทือกเขาที่ดำเนินการอย่างยากลำบาก จากนั้นกล่องดำกล่องนี้ที่อยู่ในภาพดำสนิทจากการถูกไฟเผาไหม้และถูกฝังอยู่ใต้กองเศษหินบนภูเขาก็ถูกส่งไปยังปารีสในช่วงค่ำวันเดียวกัน และเหล่าคณะสืบสวนที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษได้เริ่มต้นวิเคราะห์ข้อมูลในทันที