เอเอฟพี / เอเจนซีส์ - บริษัทสายการบินลุฟต์อันซาเจ้าของสายการบินโลว์คอส “เยอรมันวิงส์” แถลงในวันอังคาร(31)ว่า บริษัทประกันภัยได้กำหนดวงเงินต่างหากร่วม 300 ล้านดอลลาร์ หรือ 279 ล้านยูโรในการสอบสวนสาเหตุการตกของเที่ยวบิน 4U 9525 นอกจากนี้เงินจำนวนนี้ยังรวมไปถึง เงินทดแทนให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตบนเครื่อง และทดแทนความเสียหายของเครื่องบินแอร์บัส A320 ที่ประกันอยู่ที่ 6.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในเบื้องต้นสายการบินเยอรมันวิงส์จะจ่ายค่าชดเชยให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตครอบครัวละ 50,000 ยูโร ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและการบินชี้ว่า ลุฟต์ฮันซาอาจตกอยู่ในสภาพที่ถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายไม่จำกัดวงจำนวนเงิน หากพิสูจน์ได้ว่า แอนเดรียส ลูบิตซ์ ผู้ช่วยนักบินคนขับ เป็นผู้ขับเครื่องบินแอร์บัส A320 พุ่งชนยอดเทือกเขาแอลป์
โฆษกหญิงลุฟต์ฮันซาได้ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีวันนี้(31)ว่า จำนวนวงเงิน 300 ล้านดอลลาร์ หรือ 279 ล้านยูโร ที่บริษัทประกันกำหนดนั้นจะถูกใช้ในการจ่ายค่าทดแทนให้กับญาติของเหยื่อผู้เสียชีวิตเที่ยวบิน U 9525 ของเสายการบินโลว์คอส เยอรมันวิงส์ ที่ตกในขณะชนกับยอดเทือกเขาแอล์ปเกือบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา และในจำนวนเม็ดเงินนี้จะใช้เป็นค่าทดแทนความเสียหายของตัวเครื่องบินรุ่น แอร์บัส A320 ที่ปัจจุบันมีราคาอยู่ที่ 93.9 ล้านดอลลาร์ แต่ถูกประกันไว้ที่วงเงิน 6.5 ล้านดอลลาร์ รวมไปถึงการสอบสวนสาเหตุการตกของเที่ยวบินมรณะนี้
ทั้งนี้โฆษกหญิงลุฟต์ฮันซายืนยันรายงานข่าวชิ้นนี้ในหนังสือพิมพ์ธุรกิจเยอรมัน ฮานเดลชบลาตต์ (Handelsblatt) ซึ่งสื่อเยอรมันรายงานว่า สหภาพบริษัทประกันภัยนั้นนำโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจการประกัน Allianz
นอกจากนี้ในวันจันทร์(30) ผู้อำนวยการฝ่ายปฎิบบัติการของเยอรมันวิงส์ โอลิเวอร์ วากเนอร์ (Oliver Wagner) ทางบริษัทพร้อมจะจ่ายค่าชดเชยให้ทันทีต่อครอบครัวผู้โดยสาร 1 คน ครอบครัวละ 50,000 ยูโร หรือ 54,000 ดอลลาร์ แต่ยอดตัวเลขนี้จะไม่ถูกหักออกจากเงินก้อนชดเชยสุดท้ายที่จะให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต
ซึ่งสื่อดิอินดีเพนเดนต์ได้รายงานในวันจันทร์(30)ว่า มีความเป็นไปได้ที่ลุฟต์ฮันซาอาจต้องพบกับฝันร้ายที่ ตัวเลขวงเงินค่าชดเชยความเสียหาย “จะไม่จำกัดวงเงิน” ถ้าหากพิสูจน์ได้ว่าเที่ยวบิน 4U 9525 ตกเพราะความรับผิดชอบของบริษัท ลุฟต์ฮันซา โดยผู้เชี่ยวชาญในแวดวงระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่ค่าชดเชยความเสียหายแก่ญาติผู้โดยสารนั้นถูกจำกัดที่ 100,000 ปอนด์นั้นจะไม่ถูกนำมาใช้ในกรณีของเยอรมันวิงส์ และญาติผู้โดยสารเหล่านั้นสามารถฟ้องร้องเรียกร้องเพิ่มเติมได้จากทางลุฟต์ฮันซา
และในทางที่บริษัทสายการบินสัญชาติเยอรมันแห่งนี้จะเลี่ยงพ้นได้ก็ต่อเมื่อ ทางบริษัทต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า การตกของเที่ยวบินมรณะนี้ “ไม่ใช่เกิดจากการเพิกเฉยหรือการทำพลาดของพนักงานสายการบินในสังกัด” ตามมาตรา 21 ของความตกลงมอนทรีออลปี 1999
แต่ทว่าสื่ออังกฤษชี้ว่า ในชั้นนี้อาจเป็นการยากสำหรับทางลุฟต์อันซาที่จะพ้นผิด หากการสอบสวนอย่างเต็มรูปแบบสรุปว่า แอนเดรียส ลูบิตซ์ ผู้ช่วยนักบินคนขับ เป็นผู้ขับเครื่องบินแอร์บัส A320 ในความเร็ว 430 ไมล์ต่อชม. พุ่งชนยอดเทือกเขาแอล์ป และเป็นสาเหตุทำให้เครื่องตก ที่มีคนร่วม 150 คนอยู่บนเครื่อง
“ไม่ว่าอย่างใดก็ตาม ต้องพบกับตัวเลขความเสียหายทางการเงินที่ไม่มีวงเงินจำกัด” Marco Abate ทนายความด้านการบินให้ความเห็น
นอกจากนี้ สื่อยูโรนิวส์ได้รายงานเพิ่มเติมเมื่อวานนี้(30)ว่า มีการเกรงว่าอาจจะไม่สามารถค้นพบกล่องดำที่ 2 ซึ่งบรรจุข้อมูลการบินของเที่ยวบิน4U 9525 ของสายการบินเยอรมันวิงส์ที่ตกนี้ “เป็นความรับผิดชอบของพนักงานบริษัท”
โดยทางผู้จัดการของลุฟต์ฮันซาได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เยอรมันว่า กล่องดำที่ 2 ซึ่งบันทึกข้อมูลการบินอาจเกิดความเสียหายหนักในระหว่างการตก จึงทำให้ไม่สรามารถติดตามหาสัญญาณได้ ในขณะที่กล่องดำแรกที่เก็บข้อมูลภายในห้องนักบินได้ถูกค้นพบก่อนหน้านี้แล้ว
