เอเจนซีส์ - สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นประกาศเตือนให้จำกัดการเข้าถึงสถานตากอากาศน้ำพุร้อนชื่อดังในเมืองฮาโกเน จ.คานากาวา ในช่วงวันหยุด “โกลเดน วีก” หลังตรวจพบสัญญาณกิจกรรมภูเขาไฟที่รุนแรงขึ้น
ฝ่ายบริหารเมืองฮาโกเนสั่งปิดเส้นทางเดินเทร็กกิงบริเวณภูเขาไฟฮาโกเนยามา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงโตเกียว ตั้งแต่เวลา 05.00 น.ของวันจันทร์ (4 พ.ค.) โดยสำนักอุตุฯ ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าไปสังเกตกิจกรรมของภูเขาไฟในวันเดียวกัน
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (5) เกิดแรงสั่นสะเทือนขนาด 2.0 และ 2.4 ตามมาตราแมกนิจูดบริเวณภูเขาไฟฮาโกเนยามา ซึ่งทำให้สำนักอุตุฯ ต้องประกาศเตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้ล่วงล้ำเข้าไปในพื้นที่อันตราย
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ภูเขาไฟฮาโกเนยามาซึ่งตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดคานากาวากับชิสุโอกะยังไม่มีความเสี่ยงร้ายแรง และยังคงระดับเตือนภัยขั้นที่ 1 ในวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ทางสำนักอุตุฯ ขอร้องให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติตามคำแนะนำของเมืองอย่างเคร่งครัด และให้งดเข้าไปยังพื้นที่ต้องห้าม เนื่องจากไอน้ำที่ร้อนจัดอาจพลุ่งขึ้นจากพื้นดินได้ตลอดเวลาโดยไม่มีสัญญาณเตือน
ระหว่างวันที่ 1-25 เม.ย. สำนักอุตุฯ ตรวจพบการเกิดแผ่นดินไหวถึง 9 ครั้งบริเวณหุบเขา “โอวาคุดานิ” บนภูเขาไฟฮาโกเนยามา และเริ่มถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็น 30 กว่าครั้งในช่วงวันที่ 2 และ 3 พ.ค.
“กิจกรรมภูเขาไฟที่ฮาโกเนอยู่ในขั้นไม่เสถียร” สำนักอุตุฯ ระบุในคำแนะนำ
“เป็นไปได้ที่จะเกิดการปะทุขนาดย่อมๆ ขึ้นโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า... ดังนั้น โปรดอย่าเข้าไปในพื้นที่อันตราย”
เนื่องจากเวลานี้เป็นช่วงวันหยุด โกลเดน วีก ในฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น คำเตือนดังกล่าวจึงอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและต่างชาติแห่แหนกันมาเยือนรีสอร์ตน้ำพุร้อนที่ฮาโกเนมากถึง 20 ล้านคน
สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นจะเตือนให้จำกัดการเข้าถึงพื้นที่ภูเขาไฟ ก็ต่อเมื่อมีสัญญาณว่ากิจกรรมภูเขาไฟเริ่มรุนแรงพอที่จะมีการปลดปล่อยลาวา เถ้าถ่าน ไอน้ำร้อนจัด ก๊าซพิษ และหินร้อนออกมา
เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ภูเขาไฟออนทาเกะทางตอนกลางของญี่ปุ่นก็ได้เกิดปะทุอย่างกะทันหันและรุนแรงจนคร่าชีวิตนักปีนเขาไป 57 คน และยังมีที่สูญหายอีก 6 คน ซึ่งถือเป็นการระเบิดครั้งใหญ่ของภูเขาไฟลูกนี้ในรอบเกือบ 90 ปี