เอเจนซีส์ - ทัศนะ ดีไวน์ วัย 34 ปี ภรรยาของอดีตทหารประจำรัฐคอนเนตทิกัต และเจ้าหน้าที่วิศวกรไอทีพลเรือนทำงานให้กับกองกำลังสหรัฐฯ ในคูเวต โจชัวร์ ไมเคิล ดีไวน์ (Joshua Michael Devine) วัย 36 ปี เปิดใจกับ NBC News สื่อสหรัฐฯ ว่า “ไม่คิดว่าจะพบสามีในขณะที่ยังมีชีวิตหลังจากตามหาเป็นเวลา 3 วันแล้ว” โดยดีไวน์หายตัวอย่างไร้ร่องรอยบนเรือท่องเที่ยวเพื่อดำน้ำ “ชลธาราบีช” ในขณะที่มุ่งหน้าไปยังหมู่เกาะสิมิลันในวันที่ 11 เมษายน หลังจากก่อนหน้านี้ครอบครัวชาวอเมริกันของสามีให้สัมภาษณ์ข้องใจหนักถึงข่าวลูกชายดื่มหนักก่อนเกิดเหตุ แย้งไม่เคยมีพฤติกรรมเช่นนี้ และยังเป็นครูฝึกดำน้ำแบบสคูบ้า พร้อมได้ขอความช่วยเหลือผ่านการระดมทุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเดินทางมาไทยเพื่อตามหา ซึ่งคาดว่าจะเดินทางออกจากสหรัฐฯ ในคืนวันนี้ (16)
NBC News สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้ (15)ว่า โจชัว ไมเคิล ดีไวน์ (Joshua Michael Devine) วัย 36 ปี นักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน อดีตเจ้าหน้าที่ไอทีพลเรือนทำงานให้กับกองกำลังสหรัฐฯ ในคูเวตที่ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยบนเรือนำเที่ยวดำน้ำ “ชลธาราบีช” หมู่เกาะสิมิลันในวันเสาร์ (11) ที่ผ่านมา ในขณะที่ข่าวเผยแพร่ออกไปตามการให้การของภรรยาชาวไทย ทัศนะ ดีไวน์ วัย 34 ปี ว่านักท่องเที่ยวชาวอเมริกันที่เดินทางมาไทยและร่วมทริปดำน้ำพร้อมภรรยา มีอาการมึนเมาหนักหลังจากร่วมดื่ม และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหลังจากนั้น ซึ่งภรรยาสาวชาวไทยคาดว่า สามีชาวสหรัฐฯ อาจเกิดอาการมึนเมาและพลัดตกน้ำไป
ทว่า ก่อนหน้านี้ครอบครัวชาวสหรัฐฯ ฝ่ายสามียังไม่ปักใจเชื่อ พร้อมเปิดเผย โจชัว ดีไวน์ไม่เคยมีพฤติกรรมเช่นนี้ในการดื่มจัดก่อนลงน้ำ ซึ่งต่างยืนยันว่าดีไวน์ที่เชี่ยวชาญในการดำน้ำ และเป็นครูฝึกสอนดำน้ำแบบสคูบ้า ซึ่งเป็นทริปดำน้ำครั้งที่ 2 พร้อมตั้งคำถามถึงหน่วยงานไทย เหตุใดคนที่อยู่ในเหตุการณ์บนเรือรอถึง 6 ชม.ก่อนเข้าแจ้งความ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ออกตามหาแต่ยกเลิกในเวลาต่อมาเนื่องจากอยู่ในเทศกาลสงกรานต์ซึ่งเป็นวันหยุดยาวของไทย
ล่าสุดทัศนะ ดีไวน์ให้สัมภาษณ์กับ NBC News สื่อสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (15) พร้อมเปิดใจว่า หลังจากตามหาสามี โจชัว เป็นเวลาถึง 3 วันแต่ยังไร้ร่องรอย และเกรงว่าอาจจะไม่พบสามีในขณะที่ยังมีชีวิต “หลังจากที่ในวันนี้ดิฉันได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อตามหา ทำให้เป็นการยากที่จะยังมีความหวังอยู่” พร้อมเสริมต่อโดยชี้ว่า “เพราะในบริเวณที่โจว์ชัวหายไปนั้นเป็นทะเลเปิดซึ่งเป็นพื้นที่กว้าง มหาสมุทรใหญ่ ดังนั้นการที่จะยังมองในแง่ดีนั้นคงเป็นการยากมากๆ”
ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่าดีไวน์เป็นวิศวกรด้านไอทีสังกัดบริษัทเอกชนที่ทำงานให้กับกองทัพสหรัฐฯ ในคูเวต และก่อนหน้านี้ในช่วงปี 2002-2006 สิบเอกดีไวน์ทำหน้าที่เป็นทหารแนชันแนลการ์ดของรัฐคอนเนตทิกัต และยังเป็นครูสอนดำน้ำที่เชี่ยวชาญการดำน้ำแบบสคูบ้า ซึ่งในขณะที่เจ้าหน้าที่สอบสวนฝ่ายไทยกำลังปะติดปะต่อว่าเกิดอะไรขึ้นกับดีไวน์ในไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่เขาจะหายตัวไปจากเรืออย่างลึกลับ
ด้านครอบครัวดีไวน์ในอเมริกาซึ่งประกอบไปด้วยมารี เมเจอร์ (Marie Major) แม่ และเจนนิเฟอร์ บากอว์สกี (Jennifer Bakowski) พี่สาวที่ให้สัมภาษณ์กับ NBC News ก่อนหน้านี้เล่าถึงดีไวน์ วิศวกรไอที วัย 36 ปี ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขาก่อนสูญหายตามที่ได้รับฟังจากพยานหลายคนในที่เกิดเหตุว่า ดีไวน์ดื่มจนมึนเมาและโวยวาย กระสับกระส่ายวิตกกังวล พร้อมกับแสดงความก้าวร้าวก่อนจะหายไป และทำให้ผู้ร่วมทริปดำน้ำ 2 คนนำตัวโจชัว ดีไวน์ไปสงบสติที่ห้องเก็บของ และทิ้งไว้เป็นเวลา 15 นาทีก่อนที่จะกลับไป และพบว่าดีไวน์ได้หายไปแล้ว
ในขณะที่ทัศนะภรรยาวัย 34 ปีที่แต่งงานมาได้ 5 ปีแล้วได้เปิดเผยอย่างละเอียดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เธอได้เข้านอนก่อนที่เรือชลธาราบีชขนาดบรรทุกผู้โดยสาร 24 คนจะออกจากภูเก็ตในเวลา 22.00 น. คืนก่อนวันเกิดเหตุ และเมื่อเธอตื่นขึ้นในเวลา 04.00 น.ซึ่งเป็นเวลาที่สามีครูฝึกดำน้ำมือฉกาจเดินเข้ามาภายในห้อง เธอได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า โดยก่อนหน้านี้สามีชาวอเมริกันได้นั่งร่วมดื่มกับเพื่อนร่วมเดินทางคนอื่นๆ และจากพฤติกรรมการแสดงออกของดีไวน์ ทำให้ทัศนะมั่นใจว่า สามีของเธอนั้นอยู่ในอาการมึนเมา “เขาตะโกนโวยวาย และราดเบียร์ไปทั่วห้อง รวมไปถึงรื้อข้าวของกระจุยกระจาย” และยังเผยต่อว่า สามีของเธอนั้นดูไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิงด้วยเชื่อว่าไฟที่อยู่ภายในห้องเคบินผู้โดยสารบนเรือนั้น แท้จริงแล้วเป็นกล้องที่แอบติดตั้งไว้เพื่อลอบจับภาพของเขา โดยทัศนะอ้างว่า “เขาได้ฟาดหลอดไฟจนแตก พร้อมยังดึงสายไฟออกกระจาย และยังกระชากผมของดิฉันอีกด้วย”
นอกจากนี้ ภรรยาชาวไทยยังเผยต่อว่า สามีชาวสหรัฐฯ ยังพยายามที่จะเดินเข้าห้องตรงกันข้าม และทำให้คนบนเรืออื่นๆ รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และได้พยายามทำให้โจชัว ดีไวน์สงบ พร้อมกับยืนยันกับสามีว่า ไม่มีกล้องลับติดตั้งอยู่บนเรือนี้อย่างแน่นอน โดยทัศนะเสริมว่า “ดิฉันร้องไห้ เพราะตกใจ และอ้อนวอนขอให้เขาหยุด”
หลังจากนั้นสามีถูกคนบนเรือจำนวน 2 คนนำไปด้านหลังเพื่อทำให้สงบ และทัศนะกลับไปนอนต่อที่ห้องเคบิน แต่ไม่นานหลังจากนั้น 1 ใน 2 เดินกลับมาพร้อมกับเคาะประตูห้องเคบิน และถามว่า สามีของเธอได้กลับเข้าห้องแล้วใช่หรือไม่ และในภายหลังผู้โดยสารที่อยู่บนเรือชลธาราบีชได้ให้ข้อมูลกับทัศนะว่า ดีไวน์ได้ขออยู่ตามลำพัง และเมื่อกลับไปอีกครั้ง 15 นาทีหลลังจากนั้น ดีไวน์ได้หายตัวไปแล้ว
ด้านกัปตันเรือนำเที่ยวได้ให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่สอบสวนว่า โจชัว ดีไวน์นั้นนั่งดื่มก่อนหน้านั้น และทำให้ผู้โดยสารเรือคนอื่นๆ ต้องทำให้สงบหลังเกิดโวยวายเสียงดังขึ้น พ.ต.อ.ศิริพงษ์ เพ็ชรศิริรักษ์ ผกก.8 บก.ตำรวจน้ำ แถลง
NBC News รายงานเพิ่มเติมว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งเรือตำรวจน้ำออกติดตามหานักท่องเที่ยวต่างชาติรายนี้ในบริเวณที่พบครั้งสุดท้ายทุกวันนับตั้งแต่ได้รับแจ้งการสูญหาย โดย พ.ต.อ.ศิริพงษ์ให้สัมภาษณ์กับสื่อสหรัฐฯ ว่า ดีไวน์นั้นหายตัวไปในเวลา 5.00 น. และเรือได้ออกค้นหาขยายออกไปทั่ว ก่อนที่จะวกไปยังจุดเดิมที่ได้รับแจ้งว่าสูญหาย
สื่อออนไลน์ไทยภาคภาษาอังกฤษประจำภาคใต้ phuketwan รายงานว่าจุดที่สูญหายนั้นอยู่ห่างจากหาดบางเทา จ.ภูเก็ต ราว 17 ไมล์ โดยเรือตำรวจน้ำของไทยได้ออกติดตามค้นหาทุกวันในบริเวณนั้น แต่นักประดาน้ำชี้ว่า ด้วยระดับน้ำที่ลึกถึง 230 ฟุต เป็นระดับความลึกที่ลึกมากเกินกำลังที่ทางนักประดาน้ำจะสามารถออกตามหาได้ พ.ต.อ.ศิริพงษ์แถลงต่อ และชี้ว่าในขณะที่เฮลิคอปเตอร์ได้ออกติดตามค้นหาทางอากาศตั้งแต่วันอาทิตย์ (12) วันอังคาร (14) และวันพุธ (15)
แต่ทว่าแม่และพี่สาวชาวอเมริกันของดีไวน์ที่แถลงว่า ไม่ติดใจในเหตุการณ์ก่อนเกิดเหตุ แต่เคลือบแคลงการทำงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยที่ได้ยกเลิกการค้นหาเนื่องมาจากติดวันขึ้นปีใหม่ไทยในวันที่ 13 เมษายน และความล่าช้าในการแจ้งการสูญหายของโจว์ชัว ดีไวน์ ซึ่งใช้เวลานานถึง 6 ชม. ก่อนที่จะเข้าแจ้งกับเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ สื่อสหรัฐฯ ชี้ว่า ครอบครัวดีไวน์ได้ระดมทุนหาเงินสมทบทุนช่วยเหลือค่าใช้จ่ายเดินทางมาไทยเพื่อค้นหา โจว์ชัว ดีไวน์ ผ่านเว็บไซต์ gofundme ได้เงินราว 10,000 ดอลลาร์ภายในเพียง 1 วัน ซึ่งเมเจอร์ แม่ของดีไวน์แถลงว่า ต้องการเงินเพื่อไปค้นหาลูกชายเอง เพราะที่ผ่านมาทางไทยทำการค้นหาอย่างเร่งรีบและผิวเผินเท่านั้น
และแอลิสัน โพดวอร์สกี (Alison Podworski )ทางโฆษกประจำครอบครัวของดีไวน์ได้แถลงรับรู้ว่า ทัศนะ ภรรยาคนไทยได้ร่วมออกค้นหาโจชัว ดีไวน์ในวันอังคาร(14) “เธอได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์และลงเรือเพื่อค้นหาทั้งทางอากาศและทางน้ำ” และเสริมว่า “ทางครอบครัวดีไวน์จะเดินทางออกจากสหรัฐฯ ในคืนนี้ เพื่อเดินทางมาไทยและจะเริ่มออกติดตามค้นหาโจชัว ดีไวน์ด้วยตนเองในวันเสาร์ที่จะถึง ซึ่งพวกเขาหวังว่าจะได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย”