ASTVผู้จัดการรายวัน-รองกงสุลอเมริกาพบผู้ว่าฯ ภูเก็ต ตามเรื่องเจ้าหน้าที่ไอซีทีอเมริกันพลัดตกเรือท่องเที่ยว สูญหายในทะเลอันดามัน 6 วัน แต่ยังไม่มีความคืบหน้า เผยเจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าค้นหาต่อเนื่อง แต่ยอมรับว่ายาก ด้านภรรยาชาวไทยเปิดใจกับ NBC News ไม่คิดว่าจะพบสามีขณะยังมีชีวิต ขณะที่ครอบครัวชาวอเมริกันขอระดมทุนเป็นค่าใช้จ่ายเดินทางมาไทย เพื่อออกค้นหาเอง
กรณีนายโจว์ชัวร์ ไมเคิล ดีไวน์ อดีตทหารประจำรัฐคอนเนตทิกัต และเจ้าหน้าที่วิศวกรไอทีพลเรือนกองกำลังสหรัฐอเมริกา ที่ปฏิบัติหน้าที่ในประเทศอิรัก พลัดตกจากเรือชลธารา บีช ระหว่างเดินทางไปดำน้ำที่หมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา ห่างจากอ่าวบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ประมาณ 17 ไมล์ทะเล เหตุเกิดวันที่ 11 เม.ย. ซึ่งยังค้นหาร่างไม่พบนั้น
ล่าสุด วานนี้ (16 เม.ย.) ตำรวจน้ำและทัพเรือภาคที่ 3 นำเรือและเฮลิคอปเตอร์ออกค้นหาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่พ.ต.อ.ศิริพงษ์ เพ็ชรศิริรักข์ ผกก. 8 บก.รน. พ.ต.ท.ปัญญา ชัยชนะ สว.ส.รน. 3 กก. 8 บก.รน. นำนายจัสติน ที. วอลส์ รองกงสุลสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย เข้าพบนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อรับฟังข้อมูลทั้งก่อนและหลังที่นายโจว์ชัวร์ ไมเคิล ดีไวน์ พลัดตกเรือสูญหายไปในทะเล โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนร่วมรับฟัง
ทั้งนี้ ก่อนเข้าพบนายนิสิต นายจัสติน ที. วอลส์ ได้ไปยังสถานีตำรวจน้ำภูเก็ต เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์จากนางทัศนะ ดีไวน์ อายุ 35 ปี ภรรยาผู้สูญหาย รวมถึงติดตามการสอบสวนจากร้อยเวรสภ.เชิงทะเล และตำรวจน้ำ
พ.ต.อ.ศิริพงษ์ กล่าวภายหลังเข้าพบนายนิสิตว่า หลังได้รับแจ้งเหตุ ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทางเรือของตำรวจน้ำ เฮลิคอปเตอร์ ทัพเรือภาคที่ 3 และเจ้าท่าสาขาภูเก็ต ออกค้นหาผู้สูญหาย และเมื่อวันที่ 15 เม.ย. นายนิสิตได้ลงเรือตำรวจน้ำพร้อมภรรยาผู้สูญหาย ออกค้นหาในพิกัดที่ได้รับแจ้ง ซึ่งห่างจากฝั่งหลายสิบกิโลเมตร ส่วนทางเฮลิคอปเตอร์ ก็ขึ้นไปด้วย ซึ่งขณะนี้เราค้นหาเป็นวันที่ 6 แล้ว จะพยายามให้พบให้ได้
นอกจากนี้ จังหวัดได้ประสานงานไปเรือท่องเที่ยวของเอกชน เรือประมงที่ได้ออกไปทำกิจการบริเวณพิกัดที่สูญหายช่วยค้นหา ถ้ามีศพถูกคลื่นซัดเข้าฝั่ง ให้ทุกท้องที่แจ้งเข้ามาทันที เพื่อไปพิสูจน์ทราบต่อไป
นายนิสิต กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าการค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากภรรยาผู้สูญหายก็ไม่ทราบพิกัดที่ชัดเจน ว่าสามีพลัดตกจากเรือบริเวณใด เนื่องจากค่อนข้างมืด ประกอบกับทราบเรื่องหลังสามีหายตัวไปประมาณ 20 นาทีแล้ว ส่วนสาเหตุที่ไม่ส่งนักประดาน้ำลงไป เนื่องจากบริเวณที่ได้รับแจ้งนั้นมีความลึกถึง 80 เมตร
"การป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีกนั้น อยู่ระหว่างการพูดคุยกับทางเจ้าท่าว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะกำหนดเวลาเข้าออกของเรือ โดยหลีกเลี่ยงเดินทางช่วงกลางคืน รวมไปการดื่มสุราบนเรือด้วย แต่เบื้องต้นทางเจ้าท่า ภูเก็ตจะพักใบอนุญาตนายท้ายเรือลำที่้เกิดเหตุก่อน"
ด้าน NBC News สื่อสหรัฐอเมริกา รายงานเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ว่า ตามการให้การของนางทัศนะที่ว่าสามีมึนเมาอย่างหนัก หลังจากร่วมดื่มกับเพื่อนร่วมทริป และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งคาดว่าพลัดตกทะเลนั้น ครอบครัวฝ่ายสามียังไม่ปักใจเชื่อ โดยนางทัศนะ เปิดเผยว่า นายโจว์ชัวร์ ไมเคิล ดีไวน์ ไม่เคยมีพฤติกรรมดื่มจัดก่อนลงน้ำ อีกทั้งยังมีความเชี่ยวชาญในการดำน้ำและเป็นครูฝึกสอนดำน้ำแบบสคูบ้า พร้อมตั้งคำถามถึงหน่วยงานของไทยว่าทำไมคนที่อยู่บนเรือต้องรอถึง 6 ชั่วโมงจึงเข้าแจ้งความ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ออกตามหา แต่ก็ยกเลิกในเวลาต่อมา เนื่องจากอยู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นวันหยุดยาวของไทย
นางทัศนะให้สัมภาษณ์ NBC News ว่า หลังจากตามหาสามีเป็นเวลา 3 วันแต่ยังไร้ร่องรอย เกรงว่าอาจจะไม่พบสามีขณะที่ยังมีชีวิต เพราะในบริเวณที่สามีหายไปนั้นเป็นทะเลเปิด ดังนั้น การที่จะยังมองในแง่ดีนั้นคงเป็นเรื่องยากมาก
นางทัศนะเล่าเหตุการณ์ก่อนเกิดเหตุว่า เธอเข้านอนก่อนที่เรือชลธาราบีชจะออกจากภูเก็ตในเวลา 22.00 น. และเมื่อตื่นขึ้นในเวลา 04.00 น. ซึ่งสามีเดินเข้ามาภายในห้อง ตะโกนโวยวาย และราดเบียร์ไปทั่วห้อง รื้อข้าวของกระจุยกระจาย ฟาดหลอดไฟจนแตก ดึงสายไฟออก เพราะเชื่อว่าเป็นกล้องที่แอบติดตั้งไว้จับภาพของเขา และยังกระชากผมของตนอีกด้วย
นอกจากนี้ สามียังพยายามที่จะเดินเข้าห้องตรงข้าม คนบนเรือจึงพยายามทำให้สามีสงบลง ขณะที่ตนก็อ้อนวอนขอให้หยุดเอะอะโวยวาย จากนั้นสามีถูกคนบนเรือ 2 คนนำตัวไปด้านหลังเพื่อให้สงบอารมณ์ ส่วนตนกลับไปนอนต่อ แต่ไม่นานก็มีคนมาเคาะประตูห้อง และถามว่าสามีกลับเข้าห้องแล้วใช่หรือไม่ เพราะสามีขออยู่ตามลำพัง และเมื่อผ่านไป 15 นาทีได้กลับไปดูอีกครั้ง พบว่าสามีหายตัวไปแล้ว
ทั้งนี้ NBC News รายงานเพิ่มเติมว่า ครอบครัวของนายโจว์ชัวร์ ไมเคิล ดีไวน์ ได้ระดมทุนเป็นค่าใช้จ่ายเดินทางมาไทย ผ่านเว็บไซต์ gofundme ได้เงินราว 10,000 ดอลลาร์ภายในเพียง 1 วัน มารดาของนายโจว์ชัวร์ ไมเคิล ดีไวน์ แถลงว่า ต้องการเงินเพื่อไปค้นหาลูกชายเอง เพราะที่ผ่านมา ทางการไทยค้นหาอย่างผิวเผินเท่านั้น ขณะที่โฆษกประจำครอบครัวแถลงว่าทางครอบครัวจะเดินทางออกจากสหรัฐอเมริกามาไทยคืนวันที่ 16 เม.ย. และจะเริ่มออกค้นหาด้วยตัวเองวันที่ 18 เม.ย.นี้
กรณีนายโจว์ชัวร์ ไมเคิล ดีไวน์ อดีตทหารประจำรัฐคอนเนตทิกัต และเจ้าหน้าที่วิศวกรไอทีพลเรือนกองกำลังสหรัฐอเมริกา ที่ปฏิบัติหน้าที่ในประเทศอิรัก พลัดตกจากเรือชลธารา บีช ระหว่างเดินทางไปดำน้ำที่หมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา ห่างจากอ่าวบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ประมาณ 17 ไมล์ทะเล เหตุเกิดวันที่ 11 เม.ย. ซึ่งยังค้นหาร่างไม่พบนั้น
ล่าสุด วานนี้ (16 เม.ย.) ตำรวจน้ำและทัพเรือภาคที่ 3 นำเรือและเฮลิคอปเตอร์ออกค้นหาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่พ.ต.อ.ศิริพงษ์ เพ็ชรศิริรักข์ ผกก. 8 บก.รน. พ.ต.ท.ปัญญา ชัยชนะ สว.ส.รน. 3 กก. 8 บก.รน. นำนายจัสติน ที. วอลส์ รองกงสุลสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย เข้าพบนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อรับฟังข้อมูลทั้งก่อนและหลังที่นายโจว์ชัวร์ ไมเคิล ดีไวน์ พลัดตกเรือสูญหายไปในทะเล โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนร่วมรับฟัง
ทั้งนี้ ก่อนเข้าพบนายนิสิต นายจัสติน ที. วอลส์ ได้ไปยังสถานีตำรวจน้ำภูเก็ต เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์จากนางทัศนะ ดีไวน์ อายุ 35 ปี ภรรยาผู้สูญหาย รวมถึงติดตามการสอบสวนจากร้อยเวรสภ.เชิงทะเล และตำรวจน้ำ
พ.ต.อ.ศิริพงษ์ กล่าวภายหลังเข้าพบนายนิสิตว่า หลังได้รับแจ้งเหตุ ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทางเรือของตำรวจน้ำ เฮลิคอปเตอร์ ทัพเรือภาคที่ 3 และเจ้าท่าสาขาภูเก็ต ออกค้นหาผู้สูญหาย และเมื่อวันที่ 15 เม.ย. นายนิสิตได้ลงเรือตำรวจน้ำพร้อมภรรยาผู้สูญหาย ออกค้นหาในพิกัดที่ได้รับแจ้ง ซึ่งห่างจากฝั่งหลายสิบกิโลเมตร ส่วนทางเฮลิคอปเตอร์ ก็ขึ้นไปด้วย ซึ่งขณะนี้เราค้นหาเป็นวันที่ 6 แล้ว จะพยายามให้พบให้ได้
นอกจากนี้ จังหวัดได้ประสานงานไปเรือท่องเที่ยวของเอกชน เรือประมงที่ได้ออกไปทำกิจการบริเวณพิกัดที่สูญหายช่วยค้นหา ถ้ามีศพถูกคลื่นซัดเข้าฝั่ง ให้ทุกท้องที่แจ้งเข้ามาทันที เพื่อไปพิสูจน์ทราบต่อไป
นายนิสิต กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าการค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากภรรยาผู้สูญหายก็ไม่ทราบพิกัดที่ชัดเจน ว่าสามีพลัดตกจากเรือบริเวณใด เนื่องจากค่อนข้างมืด ประกอบกับทราบเรื่องหลังสามีหายตัวไปประมาณ 20 นาทีแล้ว ส่วนสาเหตุที่ไม่ส่งนักประดาน้ำลงไป เนื่องจากบริเวณที่ได้รับแจ้งนั้นมีความลึกถึง 80 เมตร
"การป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีกนั้น อยู่ระหว่างการพูดคุยกับทางเจ้าท่าว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะกำหนดเวลาเข้าออกของเรือ โดยหลีกเลี่ยงเดินทางช่วงกลางคืน รวมไปการดื่มสุราบนเรือด้วย แต่เบื้องต้นทางเจ้าท่า ภูเก็ตจะพักใบอนุญาตนายท้ายเรือลำที่้เกิดเหตุก่อน"
ด้าน NBC News สื่อสหรัฐอเมริกา รายงานเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ว่า ตามการให้การของนางทัศนะที่ว่าสามีมึนเมาอย่างหนัก หลังจากร่วมดื่มกับเพื่อนร่วมทริป และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งคาดว่าพลัดตกทะเลนั้น ครอบครัวฝ่ายสามียังไม่ปักใจเชื่อ โดยนางทัศนะ เปิดเผยว่า นายโจว์ชัวร์ ไมเคิล ดีไวน์ ไม่เคยมีพฤติกรรมดื่มจัดก่อนลงน้ำ อีกทั้งยังมีความเชี่ยวชาญในการดำน้ำและเป็นครูฝึกสอนดำน้ำแบบสคูบ้า พร้อมตั้งคำถามถึงหน่วยงานของไทยว่าทำไมคนที่อยู่บนเรือต้องรอถึง 6 ชั่วโมงจึงเข้าแจ้งความ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ออกตามหา แต่ก็ยกเลิกในเวลาต่อมา เนื่องจากอยู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นวันหยุดยาวของไทย
นางทัศนะให้สัมภาษณ์ NBC News ว่า หลังจากตามหาสามีเป็นเวลา 3 วันแต่ยังไร้ร่องรอย เกรงว่าอาจจะไม่พบสามีขณะที่ยังมีชีวิต เพราะในบริเวณที่สามีหายไปนั้นเป็นทะเลเปิด ดังนั้น การที่จะยังมองในแง่ดีนั้นคงเป็นเรื่องยากมาก
นางทัศนะเล่าเหตุการณ์ก่อนเกิดเหตุว่า เธอเข้านอนก่อนที่เรือชลธาราบีชจะออกจากภูเก็ตในเวลา 22.00 น. และเมื่อตื่นขึ้นในเวลา 04.00 น. ซึ่งสามีเดินเข้ามาภายในห้อง ตะโกนโวยวาย และราดเบียร์ไปทั่วห้อง รื้อข้าวของกระจุยกระจาย ฟาดหลอดไฟจนแตก ดึงสายไฟออก เพราะเชื่อว่าเป็นกล้องที่แอบติดตั้งไว้จับภาพของเขา และยังกระชากผมของตนอีกด้วย
นอกจากนี้ สามียังพยายามที่จะเดินเข้าห้องตรงข้าม คนบนเรือจึงพยายามทำให้สามีสงบลง ขณะที่ตนก็อ้อนวอนขอให้หยุดเอะอะโวยวาย จากนั้นสามีถูกคนบนเรือ 2 คนนำตัวไปด้านหลังเพื่อให้สงบอารมณ์ ส่วนตนกลับไปนอนต่อ แต่ไม่นานก็มีคนมาเคาะประตูห้อง และถามว่าสามีกลับเข้าห้องแล้วใช่หรือไม่ เพราะสามีขออยู่ตามลำพัง และเมื่อผ่านไป 15 นาทีได้กลับไปดูอีกครั้ง พบว่าสามีหายตัวไปแล้ว
ทั้งนี้ NBC News รายงานเพิ่มเติมว่า ครอบครัวของนายโจว์ชัวร์ ไมเคิล ดีไวน์ ได้ระดมทุนเป็นค่าใช้จ่ายเดินทางมาไทย ผ่านเว็บไซต์ gofundme ได้เงินราว 10,000 ดอลลาร์ภายในเพียง 1 วัน มารดาของนายโจว์ชัวร์ ไมเคิล ดีไวน์ แถลงว่า ต้องการเงินเพื่อไปค้นหาลูกชายเอง เพราะที่ผ่านมา ทางการไทยค้นหาอย่างผิวเผินเท่านั้น ขณะที่โฆษกประจำครอบครัวแถลงว่าทางครอบครัวจะเดินทางออกจากสหรัฐอเมริกามาไทยคืนวันที่ 16 เม.ย. และจะเริ่มออกค้นหาด้วยตัวเองวันที่ 18 เม.ย.นี้