รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีมิลอส เซมาน แห่งสาธารณรัฐเช็ก สั่งห้ามทูตอเมริกันเหยียบย่างเข้า “ปราสาทแห่งกรุงปราก” (Prague Castle) ซึ่งใช้เป็นทำเนียบประธานาธิบดี หลังถูกอีกฝ่ายวิจารณ์เรื่องความไม่เหมาะสมที่ตนจะไปร่วมงานรำลึกสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่กรุงมอสโก สื่อท้องถิ่นรายงานวานนี้ (5 เม.ย.)
ในขณะที่ผู้นำสหภาพยุโรปต่างบอยคอตงานรำลึกซึ่งรัสเซียจะจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมเพื่อตอบโต้การแทรกแซงปัญหายูเครน แต่ เซมาน กลับตอบรับคำเชิญของมอสโก ตามวิสัยของเขาซึ่งมักจะ “แตกแถว” กับผู้นำอียูบ่อยๆ
“ผมไม่คิดว่าเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเช็กประจำกรุงวอชิงตันจะกล้าแนะนำประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่าสมควรเดินทางไปไหนหรือไม่” เซมานให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว ปาร์ลาเมนต์นี ลิสตี
“เพราะฉะนั้น ตัวผมเองก็ไม่ยอมให้ทูตคนไหนมาออกความคิดเห็นเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศของผมเช่นกัน... ทำเนียบประธานาธิบดีจะไม่เปิดประตูต้อนรับเอกอัครราชทูต (แอนดรูว์) ชาปิโร อีก”
อย่างไรก็ตาม โฆษกประธานาธิบดีได้ชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า ชาปิโร ยังสามารถมาร่วมงานสังสรรค์ต่างๆ ที่จัดขึ้นภายในปราสาทแห่งกรุงปรากได้
ก่อนหน้านี้ เอกอัครราชทูตชาปิโรได้ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น โดยเตือนว่า หาก เซมาน จะเป็นผู้นำยุโรปเพียงคนเดียวที่ไปร่วมพิธีรำลึกที่รัสเซียจัดขึ้น ก็จะดูประดักประเดิดไม่น้อย
เซมานซึ่งเคยเป็นนายกรัฐมนตรีมาก่อน มักพูดจาขัดแย้งกับนโยบายของอียูบ่อยๆ รวมถึงวิจารณ์มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียด้วย ทว่าในส่วนของรัฐบาลสาธารณรัฐเช็กยังมีนโยบายต่างประเทศที่สอดคล้องกับจุดยืนของอียูอย่างเต็มที่
แม้ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเช็กจะเป็นเพียงตำแหน่งเชิงพิธีการ แต่ เซมาน ซึ่งถือว่าตนเป็น “ประธานาธิบดีคนแรก” ที่เข้ารับตำแหน่งในปี 2013 จากการเลือกตั้งโดยตรง มักจะพูดจาขวานผ่าซากเสมอทั้งในด้านกิจการภายในและนโยบายต่างประเทศ
