เอเจนซีส์ – ตามติดหลังจากกฎหมาย “เสรีภาพทางศาสนาที่อื้อฉาวของรัฐอินเดียนา เมื่อวานนี้(31 มีนาคม) สมาชิกรัฐสภาแห่งรัฐอาร์คันซอลงมติเห็นชอบกฏหมาย “เสรีภาพทางศาสนา” ที่ให้สิทธิห้างร้าน และผู้ประกอบการใช้ข้ออ้างความเชื่อทางศาสนาปฎิเสธให้บริการต่อกลุ่มคน เช่นเกย์ เลสเบียน และผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอประกาศสนับสนุนพร้อมจะลงนามบังคับใช้ในกฏหมายนี้
NBC News สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้(31 มีนาคม)ว่า สมาชิกสภาล่างรัฐอาร์คันซอลงคะแนนเสียง 67-21 ผ่านกฎหมาย “เสรีภาพทางศาสนา” ตามหลังจากสภาสูงรัฐอาร์คันซอที่ได้มีมติเห็นชอบในวันศุกร์(27 มีนาคม)
ซึ่งผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอ อาซา ฮัตชินสัน (Asa Hutchinson)เคยประกาศก่อนหน้านี้ว่า เขาจะลงนามกฎหมายฉบับนี้เพื่อบังคับใช้ โดยฮัตชินสันได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น KARK ว่ากฎหมายเสรีภาพทางศาสนาในรัฐแห่งนี้เพื่อทำให้สมดุลระหว่าง “เสรีภาพทางศาสนา” และ “การได้รับการปกป้องทางกฎหมาย” โดยเขาระบุว่า “นี่เป็นจุดประสงค์ของกฎหมายฉบับนี้ และไมได้มีอะไรซับซ้อนมากไปกว่านี้”
ซึ่งสื่อสหรัฐฯระบุว่า ความหลากหลายทางเพศไม่ได้ถูกคุ้มครองภายใต้กฎหมายต่อต้านการแบ่งแยกกีดกันของรัฐใดๆทั่วสหรัฐฯ และพบว่ากฎหมายเสรีภาพทางศาสนานั้นปรากฏอยู่ใน 19 รัฐทั่วสหรัฐฯ รวมถึงรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่ถูกบังคับใช้เป็นกฎหมายในปี 1993 ในสมัยประธานาธิบดี บิล คลินตัน แต่ทว่าผู้เชี่ยวชาญทางศาสนาระบุว่า “กฎหมายเสรีภาพทางศาสนาของรัฐอินเดียนาและรัฐอาร์คันซอ” จะเปิดช่องให้มีการกีดกันและแบ่งแยกได้กว้างขวางกว่าเดิม เพราะเนื้อหากฎหมายของทั้งสองรัฐนี้อนุญาตให้ร้านค้าปฎิเสธการให้บริการกับใครก็ได้ ที่ทางผู้ประกอบการสามารถใช้ข้ออ้างทางศาสนาในการต่อสู้ในชั้นศาลกับกลุ่มที่ถูกกระทำ ซึ่งคือลูกค้าที่ถูกปฎิเสธ และไม่ใช่แค่การกระทำของรัฐ
และในเช้าวันอังคาร(31 มีนาคม) กลุ่มผู้ประท้วงรวมตัวหน้าที่พักของฮัตชินสันในลิเติลล็อก ในขณะรอการออกเสียงลงคะแนนในรัฐสภารัฐอาร์คันซอ
และเป็นที่น่าสนใจว่า วอลมาร์ต ธุรกิจค้าปลีกข้ามชาติที่มีสำนักงานใหญ่ในรัฐอาร์คันซอได้ออกมาแสดงจุดยืน “ไม่เห็นด้วย” ในกฎหมายเสรีภาพศาสนาฉบับนี้ และกระตุ้นให้ผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอใช้สิทธิ์วีโต้ “ในวันนี้กฎหมายเสรีภาพทางศาสนา B1228 คุกคามการร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวทั่วรัฐอาร์คันซอ และอีกทั้งยังไม่แสดงถึงคุณค่าสิ่งที่เราชาวอาร์คันซอยึดถือ” ดัก แมคมิลลอน(Doug McMillon) ซีอีโอวอลมาร์ต กล่าวผ่านแถลงการณ์ในบ่ายวันอังคาร(31 มีนาคม)
ในขณะที่กฎหมายเสรีภาพทางศาสนาของรัฐอินเดียนาที่ผ่านการลงนามของผู้ว่าการรัฐอินเดียนา ไมค์ เพนซ์ ที่เมื่อวานนี้(31 มีนาคม)ออกมาประกาศว่า จะต้องมีการปรับปรุง หลังโดนกดดันจากทุกด้านนั้น สื่อสหรัฐฯชี้ว่า กฎหมายเสรีภาพทางศาสนาของทั้ง 2 รัฐมีขึ้นเพื่อไม่ให้อำนาจของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับศาสนา แต่ฝ่ายต่อต้านได้ชี้ว่า กฎหมายเหล่านี้ถูกใช้บังหน้าเป็นข้ออ้างในการกีดกันเชื้อชาติ กลุ่มคน และความเชื่อ อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งทำให้บรรดาร้านค้าภายในรัฐอินเดียนาและรัฐอาร์คันซอสามารถปฎิเสธให้บริการแก่กลุ่มรักร่วมเพศ ซึ่งถือเป็นเรื่องร้ายแรงในสหรัฐฯ เพราะในพื้นที่บางแห่งในสหรัฐฯ มีร้านค้าตั้งอยู่ไม่มากนัก และหากถูกปฎิเสธการให้บริการ ผู้ที่ได้รับผลกระทบต้องขับรถไกลออกไป บางทีถึง 40 ไมล์
นอกจากนี้ในกระแสต้าน พบว่า ทิม คุก เจ้าพ่อแอปเปิลที่ประกาศยอมรับเป็นเกย์อย่างเปิดเผยในปีที่ผ่านมา ได้ออกแถลงการณ์ประณามกฎหมายเสรีภาพทางศาสนาของรัฐอินเดียนาเช่นกัน รวมไปถึง NCAA สมาพันธ์การกีฬาสหรัฐฯ ที่มีฐานอยู่ในเมืองอินเดียนาโปลิส รัฐอินเดียนา ประกาศที่จะพักการจัดงานต่างๆที่รัฐอินเดียนาเนื่องมาจากกฎหมายต่อต้านรักร่วมเพศฉบับนี้
ทางด้านผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก รัฐคอนเนกติกัต และรัฐวอชิงตัน พร้อมใจร่วมกันประกาศไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่รัฐเหล่านี้เดินทางไปยังรัฐอินเดียนาเพื่อเป็นการแสดงจุดยืนบอยคอตไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของรัฐอินเดียนา
แดนเนล มาลลอย (Dannel Malloy) ผู้ว่าการรัฐคอนเนกติกัตได้ให้สัมภาษณ์กับ MSNBC เน็ตเวิร์กทีวีสหรัฐฯว่า “พวกเขารู้ดีว่ากำลังทำอะไรอยู่ พวกเขากำลังจะทำให้ถูกกฎกำหมายเพื่อปฎิเสธการให้บริการกับเกย์และเลสเบียน ต้องมีใครบางคนจัดการในเรื่องนี้”
นอกจากนี้ซีอีโอบริษัท Acxiom ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงฮัตชินสันว่า “กฎหมายต่อต้านกลุ่มรักร่วมเพศจะทำให้ประชาชนชาวอาร์คันซอบางส่วนรู้สึกเจ็บปวด รวมไปถึงทำให้ผองเราทั้งหมดในรัฐที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้รู้สึกอับอาย”
ผู้ประท้วงยังรวมตัวที่แคปิตอล ฮิล รัฐนิวยอร์ก ในวันจันทร์(30 มีนาคม) พร้อมกับถือป้ายข้อความ “การแบ่งแยกกีดกันไม่ใช่คุณค่าที่ชาวคริสต์ยึดถือ” และ “การกีดกันแบ่งแยกเป็นเสมือนโรคร้าย”