เจ๊งตั้งแต่ยังไม่เริ่ม! ชาวบ้านโวยแผน “สุ่มตรวจวีซ่า” ในเมลเบิร์น-ชี้ ออสเตรเลีย “ไม่ใช่รัฐตำรวจ”

เอเอฟพี - โครงการสุ่มตรวจวีซ่าชาวต่างชาติตามท้องถนนในนครเมลเบิร์น เพื่อป้องกันอาชญากรรม ต้องมีอันยกเลิกตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มวันนี้ (28 ส.ค.) หลังมีกระแสต่อต้านอย่างหนักจากชุมชนที่ไม่ต้องการเห็นออสเตรเลียกลายเป็น “รัฐตำรวจ”

เสียงวิพากษ์วิจารณ์เริ่มดังกระหึ่มขึ้นทันที หลังกองกำลังป้องกันชายแดนออสเตรเลีย (ABF) มีคำแถลงวันนี้ (28) ว่า จะสนธิกำลังกับตำรวจและเจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคมออกตรวจตราตามสถานที่ต่าง ๆ ในช่วงสุดสัปดาห์ และขอ “พูดคุยกับบุคคลที่เราพบเจอ” เพื่อดูว่ามีพวกที่ใช้วีซ่าปลอมหรือไม่

“คุณจะต้องตรวจสอบสถานะวีซ่าของตัวคุณเอง ถ้ามีการปลอมแปลงก็ขอให้ทราบไว้ด้วยว่า คุณจะต้องถูกจับไม่ช้าก็เร็ว” ดอน สมิธ ผู้บัญชาการกองกำลังเอบีเอฟประจำรัฐวิกตอเรียและเกาะแทสเมเนีย ระบุ

เอบีเอฟซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงผู้อพยพออสเตรเลีย ระบุว่า เป้าหมายของการตรวจ คือ ผู้คนที่เดินทางไปมาในเมือง “โดยจะสังเกตคนที่มีพฤติกรรมต่อต้านสังคม เรื่อยไปจนถึงพวกที่มีหมายจับติดตัว”

ทันทีที่ข่าวนี้แพร่ออกไป ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์จำนวนมากก็ตั้งคำถามว่า เจ้าหน้าที่ใช้หลักเกณฑ์อะไรในการขอตรวจค้น และพลเมืองที่หน้าตาละม้ายคล้ายต่างชาติจะถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษหรือไม่

“เยี่ยมเลย... เอาอย่างนั้นสินะ... เห็นใครหน้าตาเหมือนผู้อพยพเข้าหน่อยก็ไปเรียกตรวจวีซ่าเขางั้นเหรอ” ผู้ใช้ทวิตเตอร์นามว่า เซเนอร์ สแน็ป ตั้งคำถามประชด

ตามกฎหมายคนเข้าเมืองแดนจิงโจ้ เจ้าหน้าที่สามารถขอตรวจเอกสารยืนยันความเป็นพลเมืองหรือวีซ่า หากพบบุคคลที่ต้องสงสัยหรือมั่นใจว่าไม่ใช่ชาวออสเตรเลีย

อดัม แบนดต์ ส.ส. เมลเบิร์น จากพรรคกรีนส์ เตือนว่า ปฏิบัติการสุ่มตรวจเช่นนี้จะทำให้ภาพลักษณ์ของเมืองเสียหายได้

“กองกำลังป้องกันชายแดนจะแยกออกได้อย่างไรว่าใครเป็นคนท้องถิ่น และใครเป็นนักท่องเที่ยวที่ต้องถือวีซ่า” เขาตั้งคำถามผ่านผู้สื่อข่าว

“ทุกคนในเมลเบิร์นจะต้องแสดงเอกสารระบุตัวตนเวลาไปไหนมาไหนใช่หรือไม่ หรือว่าเจ้าหน้าที่จะเพ่งเล็งคนที่สีผิว”

หลังมีเสียงวิจารณ์หนักเข้า เอบีเอฟ ก็ได้ออกคำแถลงฉบับที่สองเพื่อ “อธิบายเพิ่มเติมให้กระจ่าง” โดยยืนยันว่า เจ้าหน้าที่จะไม่ใช้วิธี “สุ่มตรวจ” แต่จะขอดูวีซ่าเฉพาะบุคคลที่ทางตำรวจ และหน่วยงานอื่น ๆ แจ้งเข้ามาเท่านั้น

“เอบีเอฟจะไม่สุ่มตรวจเอกสารจากประชาชนตามท้องถนน และไม่ได้เพ่งเล็งเชื้อชาติ ศาสนา หรือสีผิวใด ๆ เลย”

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (28) ได้มีผู้ประท้วงหลายร้อยคนชุมนุมปิดสี่แยกใจกลางนครเมลเบิร์น พร้อมร้องตะโกนว่า “ไม่กีดกันเชื้อชาติ ไม่เอาความเกลียดชัง นี่ไม่ใช่รัฐตำรวจ”

เหตุวุ่นวายที่เกิดขึ้นทำให้เจ้าหน้าที่ต้องระงับการแถลงข่าวด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย และหลังจากนั้นสำนักงานตำรวจรัฐวิกตอเรียก็ตัดสินใจประกาศยกเลิกโครงการตรวจวีซ่า

“เราเข้าใจว่าประชาชนให้ความสนใจและเป็นห่วงโครงการนี้มาก ซึ่งเราก็ได้พิจารณาข้อนี้จนนำมาสู่การตัดสินใจ” ตำรวจแถลง