รอยเตอร์ – ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย ให้สัมภาษณ์สื่อแดนอินทรี ระบุกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ซึ่งยึดครองพื้นที่กว้างขวางในซีเรียและอิรักดึงดูดแนวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่สหรัฐฯ เริ่มใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเมื่อปีที่แล้ว
จากบทสัมภาษณ์ อัสซาด ในรายการ 60 Minutes ทางสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสซึ่งออกอากาศเมื่อวานนี้ (29 มี.ค.) เมื่อพิธีกรถามว่าซีเรียได้รับประโยชน์มากน้อยเพียงใดจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อเดือนกันยายนปี 2014 อัสซาด ตอบว่า “บางครั้งเราก็ได้ประโยชน์ในระดับท้องถิ่น... แต่โดยภาพรวม ถ้าคุณจะพูดถึงผลกระทบต่อไอเอส ความจริงพวกเขามีสมาชิกเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำตั้งแต่การโจมตีทางอากาศเริ่มขึ้น”
อัสซาด ซึ่งทำสงครามกลางเมืองกับกลุ่มอิสลามิสต์และฝ่ายกบฏต่อต้านรัฐบาลยืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2011 เผยด้วยว่า จากการประเมินพบว่าไอเอสในซีเรียดึงดูดสมาชิกใหม่ได้ราวๆ 1,000 คนต่อเดือน
“ในอิรักพวกเขาก็มีจำนวนเพิ่มขึ้น แล้วในลิเบียอีก... กลุ่มที่เป็นเครือข่ายอัลกออิดะห์ก็เริ่มประกาศสวามิภักดิ์ต่อไอเอส สถานการณ์มันเป็นอย่างนี้”อัสซาด กล่าว
สหรัฐฯ พยายามที่จะหาวิธียุติเหตุนองเลือดในซีเรียโดยไม่มี อัสซาด เข้าร่วม แต่ขณะเดียวกันก็ประกาศชัดเจนว่า นโยบายหลักต่อซีเรียในเวลานี้คือการกวาดล้างกลุ่มไอเอส
เมื่อพิธีกรถามว่า ในสถานการณ์เช่นใดบ้างที่เขาจะตัดสินใจสละอำนาจ อัสซาด ตอบว่า “เมื่อประชาชนไม่สนับสนุนผมอีกต่อไป และเมื่อตัวผมเองไม่ได้เป็นตัวแทนผลประโยชน์และค่านิยมของชาวซีเรีย”
เมื่อถูกถามต่อว่า เขาเอาอะไรมาชี้วัดว่าตัวเองยังมีคะแนนนิยมจากประชาชนชาวซีเรียอยู่ อัสซาด ก็ตอบแบบง่ายๆ ว่า “ผมไม่ได้วัดอะไรทั้งสิ้น แต่ผมรู้สึก ผมสัมผัสได้ เพราะผมติดต่อสัมพันธ์กับประชาชนตลอดเวลา”