เอเอฟพี - ไครเมียวางแผนที่จะเปิดสายการบินของตัวเองขึ้น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของระบบการขนส่งสาธารณะที่จะเชื่อมระหว่างรัสเซียและไครเมียเพื่อให้มีการเดินทางที่สะดวกมากขึ้น และหวังกระตุ้นการท่องเที่ยวให้ผู้คนเดินทางมาเยือนคาบสมุทรไครเมียในทะเลดำมากขึ้น 1 ปีหลังจากถูกรัสเซียผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐ
ทั้งนี้ ในแผนการตั้งสายการบินใหม่นี้ ไครเมียต้องการฝูงเครื่องบินที่มีจำนวน 6 เครื่อง รวมไปถึงนักบินอีก 40 คนเพื่อบินในเส้นทางการบินราว 14 เส้นทาง และภายหลังจะขยายไปจนครบ 36 เส้นทางในอนาคต รายงานจากเว็บไซต์ของรัฐบาลไครเมีย
“ในโปรเจกต์เปิดสายการบินไครเมียนี้ เราต้องการเม็ดเงินร่วม 1.45 ล้านรูเบิล หรือ 24 ดอลลาร์” เซอร์เก โตอูริก (Sergei Tourik) เจ้าหน้าที่จากบริษัทผลิตอากาศยานสัญชาติรัสเซีย United Aircraft กล่าวในการประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรีไครเมีย เซอร์เก อักซ์โยนอฟ (Sergei Aksyonov)
แต่อย่างไรก็ตาม โตอูริกเตือนว่า “สายการบินใหม่นี้จะยังไม่ทำกำไรจนกระทั่ง 3 ปีไปแล้ว”
เอเอฟพีรายงานว่า เครื่องบินประจำฝูงสายการบินไครเมียคาดว่าจะเป็น Superjet 100 ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ประกอบโดย United Aircraft และมีหลายส่วนมาจากบริษัทชาติตะวันตก
ทั้งนี้ ไครเมียนั้นแยกออกจากรัสเซียแผ่นดินหลักซึ่งหากต้องการเดินทางไปยังไครเมียนั้นทำได้เพียงทางเรือและทางอากาศเท่านั้น และมีการสร้างสะพานเชื่อมรัสเซียและไครเมียที่ยังค้างคาอยู่ โดยสะพานนี้จะข้ามช่องแคบเคียร์ชระหว่างทะเลดำและทะเลอาซอฟ
บริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติได้ถอนทุนออกจากไครเมียหมดหลังจากอียูและสหรัฐฯออกมาตรการคว่ำบาตรลงโทษรัสเซีย และในขณะนี้สนามบินซิมเฟโรโปล (Simferopol) นั้นเชื่อมแค่ระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งการเปิดสายการบินไครเมียจะทำให้มีเที่ยวบินจากภูมิภาคต่างๆของรัสเซียเชื่อมกับสนามบินแห่งนี้มากขึ้น รวมไปถึงเมืองอื่นๆที่อยู่ในต่างชาติทั้งใกล้และไกล ซึ่งก่อนที่จะถูกผนวก ไครเมียซึ่งถือเป็นแหล่งตากอากาศชั้นยอดมีนักท่องเที่ยวมาเยือนในปี 2013 ราว 5.9 ล้านคน ลดเหลือแค่ 3.8 ล้านคน ในปี 2014 ถึงแม้ว่ารัสเซียพยายามที่จะป้อนแพคเกจทัวร์เข้ามาก็ตาม
โดยอักซ์โยนอฟชี้ว่าจะเป็นการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวและการค้าให้มากขึ้นในไครเมีย