รอยเตอร์ – ฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี ตกลงร่วมก่อตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย (Asian Infrastructure Investment Bank – AIIB) ซึ่งมีจีนเป็นผู้ริเริ่ม หลังจากที่อังกฤษแสดงเจตจำนงไปแล้วก่อนหน้านี้ นับเป็นความล้มเหลวอีกครั้งสำหรับสหรัฐฯ ซึ่งพยายามกีดกันไม่ให้ชาติตะวันตกหนุนสถาบันการเงินดังกล่าว หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์สรายงานวันนี้ (17 มี.ค.)
ไฟแนนเชียลไทม์สอ้างเจ้าหน้าที่ยุโรปซึ่งระบุว่า การที่ 4 ประเทศใหญ่ของยุโรปตัดสินใจเป็นสมาชิกเอไอไอบี ถือได้ว่าเป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่สำหรับวอชิงตัน ซึ่งแสดงความกังขาว่าธนาคารแห่งใหม่จะมีหลักธรรมาภิบาล ตลอดจนมาตรการป้องกันด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมที่ได้มาตรฐานสักแค่ไหน
ธนาคารเอไอไอบีเปิดตัวขึ้นที่กรุงปักกิ่งเมื่อปีที่แล้ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการลงทุนในภูมิภาคเอเชียทั้งในด้านการขนส่ง พลังงาน โทรคมนาคม และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ สถาบันการเงินแห่งนี้ถูกคาดเดาว่าจะกลายมาเป็นคู่แข่งของธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) และธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี)
รัฐบาลจีนแถลงเมื่อต้นปีนี้ว่า เอไอไอบีมีสมาชิกร่วมก่อตั้ง 26 ประเทศ โดยส่วนใหญ่เป็นประเทศแถบเอเชียและตะวันออกกลาง
ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ เป็นเพื่อนบ้านสำคัญของจีนที่ยังคงสงวนท่าที แต่นายกรัฐมนตรี โทนี แอบบ็อตต์ ออกมากล่าวเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ว่า ตนจะตัดสินใจเร็วๆ นี้ว่าจะนำออสเตรเลียเข้าเป็นสมาชิกเอไอไอบีหรือไม่
เกาหลีใต้อยู่ระหว่างหารือกับจีนและประเทศอื่นๆ เพื่อประเมินความเป็นไปได้ในการเข้าร่วมเอไอไอบี ส่วนญี่ปุ่นซึ่งได้ชื่อว่าเป็นคู่แข่งสำคัญของจีนในภูมิภาคนี้ถือหุ้นใหญ่สุดในธนาคารเอดีบีร่วมกับสหรัฐฯ อยู่แล้ว