xs
xsm
sm
md
lg

สมาคมสายการบินระบุปีที่แล้วสถิติความปลอดภัยดีสุด ถึงแม้เกิดเหตุ MH370-MH17

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - สมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศบอกว่า ปี 2014 เป็นปีที่การบินพาณิชย์ทั่วโลกมีความปลอดภัยที่สุด แม้เกิดโศกนาฏกรรมเลวร้ายถึงสองครั้งสองครากับสายการบินแห่งชาติแดนเสือเหลืองก็ตาม ขณะเดียวกัน สำนักงานทนายความอเมริกันที่เป็นตัวแทนของครอบครัวผู้สูญหาย แถลงว่าสามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายให้ครอบครัวผู้โดยสารและลูกเรือบนเที่ยวบิน MH370 ได้ จากการที่ผลสอบสวนเบื้องต้นของคณะกรรมการอิสระระบุว่า แบตเตอรี่ของตัวส่งสัญญาณระบุตำแหน่งอุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบินของเครื่องบินโดยสารลำนี้หมดอายุไปตั้งแต่ก่อนที่มันจะตก แต่ทางด้านมาเลเซียแอร์ไลนส์ออกมาแถลงโต้ทันควันในวันจันทร์ (9 มี.ค.)ว่า เรื่องนี้ไม่ได้ส่งผลต่อการค้นหาแต่อย่างใด

มาเลเซีย แอร์ไลนส์ (MAS) สายการบินแห่งชาติของมาเลเซีย แถลงว่า ตัวส่งสัญญาณระบุตำแหน่งอุปกรณ์บันทึกเสียงในห้องนักบิน (SSCVR) และแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ดังกล่าว ยังคงทำงานเป็นปกติขณะที่เครื่องบินประสบเหตุสูญหายไร้ร่องรอยเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2014 และสามารถส่งสัญญาณได้นาน 30 วันหลังจากจมน้ำ

สืบเนื่องจากรายงานเบื้องต้นที่คณะสอบสวนอิสระเผยแพร่ออกมาในวันอาทิตย์ (8) ในวาระครบรอบ 1 ปีที่เที่ยวบิน MH370 สูญหายไประหว่างเส้นทางกัวลาลัมเปอร์-ปักกิ่งนั้น ระบุว่า แบตเตอรี่ของตัวส่งสัญญาณระบุตำแหน่งอุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบินของเที่ยวบิน ได้หมดอายุตั้งแต่เดือนธันวาคม 2012 ต่อมาในวันเดียวกันนั้นเอง สำนักกฎหมายจากอเมริกา ไครนด์เลอร์ แอนด์ ไคลนด์เลอร์ ที่เป็นตัวแทนของครอบครัวผู้สูญหาย 20 ครอบครัว แถลงว่า อาจใช้ประเด็นนี้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาค่าเสียหาย หากเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อปฏิบัติการค้นหาเครื่องบินที่หายไป

ทั้งนี้อุปกรณ์บันทึกข้อมูลประจำเครื่องบินหรือที่เรียกกันว่า “กล่องดำ” นั้น ประกอบด้วยอุปกรณ์ 2 ชุดแยกจากกัน ได้แก่ อุปกรณ์บันเสียงในห้องนักบิน และ อุปกรณ์บันทึกการบินของเที่ยวบิน

รายงานการสอบสวนเบื้องต้นระบุว่า กรณีแบตเตอรี่หมดอายุนี้เป็นความผิดพลาดในการอัพเดตระบบคอมพิวเตอร์ในแผนกวิศวกรของ MAS

จัสติน กรีน ทนายความคดีเกี่ยวกับการบินของสำนักกฎหมายไคลนด์เลอร์ระบุว่า ทั้งๆ ที่ MAS ปล่อยให้ลูกเรือและเครื่องบินขึ้นบินโดยที่แบตเตอรี่ของอุปกรณ์สำคัญหมดอายุ แต่แล้วยังคงปฏิเสธที่จะจ่ายค่าชดเชยอย่างเหมาะสมให้แก่ครอบครัวผู้สูญเสีย หากบุคคลเหล่านี้ไม่สามารถพิสูจน์ถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้น รวมทั้งหากปราศจากหลักฐานที่แท้จริงยืนยันว่าเครื่องบินตก

“ขณะนี้ มีความชัดเจนมากขึ้นว่า สายการบินแห่งนี้น่าจะต้องรับผิดชอบด้วย ต่อการที่การค้นหา MH370 ต้องประสบความล้มเหลว” เขาชี้

เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา MAS ประกาศอย่างเป็นทางการว่า การสูญหายของ MH370 เป็นอุบัติเหตุ ซึ่งเปิดทางให้สายการบินจ่ายค่าชดเชยให้แก่ญาติผู้สูญหายขณะที่การค้นหายังคงดำเนินต่อไป

ทางเจ้าหน้าที่สอบสวนเชื่อว่า เครื่องบินโบอิ้ง 777 ลำดังกล่าวที่บรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือรวม 239 คน ได้บินออกนอกเส้นทางหลายพันกิโลเมตรก่อนตกในมหาสมุทรอินเดียบริเวณนอกชายฝั่งของออสเตรเลีย

ทว่า การค้นหาใต้ทะเลในบริเวณค้นหา 60,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเพิร์ท,ออสเตรเลีย ไปทางตะวันตกราว 1,600 กิโลเมตร ยังคงไม่พบร่องรอยใดๆ และการค้นหาในพื้นที่นี้จะสิ้นสุดลงในเดือนพฤษภาคม

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคของมาเลเซีย รวมทั้งรัฐบาลจีนประกาศว่า ยังคงมุ่งมั่นตามหาเครื่องบินลำนี้ต่อไป

ขณะเดียวกัน ในอีกด้านหนึ่ง สมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) เผยแพร่รายงานประจำปีเมื่อวันจันทร์ ซึ่งระบุว่า ภาพรวมการบินพาณิชย์ในปีที่ผ่านมามีความปลอดภัยที่สุดในประวัติศาสตร์ แม้ MAS ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงถึงสองครั้งก็ตาม

รายงานความปลอดภัยประจำปีของ IATA แจกแจงว่า แม้มีผู้เสียชีวิตในอุบัติเหตุทางอากาศมากกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่จำนวนอุบัติเหตุร้ายแรงถึงชีวิตเมื่อเทียบกับจำนวนเที่ยวบินต้องถือว่า ต่ำเป็นประวัติการณ์

โทนี่ ไทเลอร์ ผู้อำนวยการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของ IATA ซึ่งเป็นสมาคมตัวแทนของสายการบิน 250 แห่งทั่วโลก แถลงว่า ในปีที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง 12 ครั้ง โดยมีผู้เสียชีวิตรวม 641 ราย เทียบกับอุบัติเหตุ 19 ครั้งและผู้เสียชีวิต 517 รายต่อปี ในช่วง 5 ปีระหว่างปี 2009-2013

ตัวเลขดังกล่าวแปลงเป็นอัตราอุบัติเหตุที่เรียกว่า “hull losses” (อุบัติเหตุขั้นจำหน่ายเครื่อง) ต่อ 1 ล้านเที่ยวบินได้เท่ากับ 0.023 หรือก็คือ เกิดอุบัติเหตุ 1 ครั้งต่อเที่ยวบินทุก 4.4 ล้านเที่ยว เทียบกับสถิติปี 2013 ซึ่งอยู่ที่ 0.41 และสำหรับค่าเฉลี่ยรอบ 5 ปีก่อนหน้าก็อยู่ที่ 0.58

อย่างไรก็ดี สถิตินี้ไม่รวมกรณี MH17 ของ MAS ที่ถูกขีปนาวุธจากพื้นดินสู่อากาศยิงตกในยูเครนเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ถือเป็นอุบัติเหตุ

ไทเลอร์กล่าวถึงกรณี MH17 ว่า เป็นความก้าวร้าวรุนแรงที่ยอมรับไม่ได้ และสำทับว่า รัฐบาลและอุตสาหกรรมสายการบินควรหาวิธีลดความเสี่ยงในการบินเหนือพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง ด้วยการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยง ให้วงการบินพลเรือนได้รับทราบ

ภายหลังกรณีการสูญหายของ MH370 ที่ถือเป็นหนึ่งในปริศนาลึกลับที่สุดของวงการการบิน องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดสหประชาชาติ ได้เสนอให้ปรับปรุงระบบติดตาม เพื่อให้มีการระบุตำแหน่งเครื่องบินพาณิชย์ทุก 15 นาที จากเดิมคือทุก 30-40 นาที เป็นการยกระดับขีดความสามารถในการค้นหาเครื่องบินพาณิชย์ทั่วโลก

IATA บอกว่าสนับสนุนแนวทางดังกล่าว แต่ไม่เห็นด้วยกับเส้นตายที่เสนอให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนธันวาคมปีนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น