อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และมาเลเซีย เร่งค้นหาเครื่องบินของ “แอร์เอเชีย” ที่สูญหายไปพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 162 คนตั้งแต่ช่วงเช้าวันอาทิตย์ (28 ธ.ค.) หลังจากนักบินขอเปลี่ยนแผนการบินเพื่อหลีกเลี่ยงสภาพอากาศเลวร้ายระหว่างเดินทางจากเมืองสุราบายา ของอินโดนีเซีย สู่จุดหมายปลายทางที่สิงคโปร์ ล่าสุดหลังจากการค้นหาผ่านไป 11 ชั่วโมงโดยยังไม่พบอะไร ทางการแดนอิเหนาก็สั่งยุติเป็นการชั่วคราว และจะเริ่มปฏิบัติการใหม่ในเช้าวันจันทร์ (29)
เที่ยวบิน QZ8501 ของ อินโดนีเซีย แอร์เอเชีย ซึ่งเป็นกิจการในเครือของแอร์เอเชีย เดินทางด้วยเครื่องบินแอร์บัส-320-200 จากสุราบายา ไปยัง สิงคโปร์ ได้สูญหายไปขณะบินอยู่บริเวณด้านตะวันออกของทะเลชวา โดยขาดการติดต่อกับศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาศในกรุงจาการ์ตาเมื่อเวลา 05.17 น. วันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 06.17 น. เวลาไทย) หรือหลังบินขึ้นจากสนามบินนานาชาติสุราบายา ได้ราว 1 ชั่วโมง
แอร์เอเชียแถลงว่า เที่ยวบินดังกล่าวบินตามแผนการบินที่ส่งให้ศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศ แต่ได้ร้องขอเปลี่ยนเส้นทางเนื่องจากสภาพอากาศเลวร้ายก่อนที่จะขาดการติดต่อไปเกือบจะในทันที
โจโค มูร์จัตม็อดโจ ผู้อำนวยการกองการขนส่งทางอากาศ กรมการบินพลเรือน กระทรวงคมนาคมอินโดนีเซีย ระบุว่า นักบินไม่ได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น
อินโดนีเซีย แอร์เอเชียยังระบุว่า บนเครื่องบินดังกล่าวมีผู้โดยสาร 155 คน และลูกเรือ 7 คน ประกอบด้วยชาวอินโดนีเซีย 156 คน, เกาหลีใต้ 3 คน และ 1 คนจากสิงคโปร์ มาเลเซีย และฝรั่งเศส โดยเป็นเด็ก 16 คน และทารก 1 คน
แอร์เอเชียเสริมว่า นักบินเป็นชาวอินโดนีเซีย และผู้ช่วยนักบินเป็นชาวฝรั่งเศส โดยนักบินมีประสบการณ์การบิน 6,100 ชั่วโมง ส่วนผู้ช่วยนักบินมีประสบการณ์การบิน 2,275 ชั่วโมง
ทั้งนี้ แอร์เอเชียถือหุ้น 49% ในอินโดนีเซีย แอร์เอเชีย ที่เหลือเป็นของนักลงทุนท้องถิ่น และแอร์เอเชียที่ให้บริการในประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่เคยมีประวัติเครื่องบินตกมาก่อน รวมทั้งมีสถิติความปลอดภัยที่ดี
ขณะสูญหาย QZ8501 อยู่ระหว่างท่าเรือตันจุง ปันดัน ของอินโดนีเซีย กับเมืองปอนเตียนัก ในจังหวัดเวสต์กาลิมันตันบนเกาะบอร์เนียว โดย มูร์จัตม็อดโจ ผู้อำนวยการกองการขนส่งทางอากาศของแดนอิเหนาระบุว่า เพียงไม่นานก่อนจะสูญหายไป นักบินแจ้งศูนย์ควบคุม ขอเพิ่มระดับความสูงจาก 6,000 ฟุต เป็น 38,000 ฟูต เพื่อหลีกหนีกลุ่มเมฆที่หนาทึบ
มูร์จัตม็อดโจ ระบุรายละเอียดว่า “นักบินแจ้งศูนย์ควบคุมการจราจร ขอบินไปทางซ้าย ซึ่งก็ได้รับการอนุมัติ”
“แต่คำขอของพวกเขาที่จะบินไปที่ระดับ 38,000 ฟุต จากระดับ 32,000 ฟุตนั้น ไม่ได้รับการอนุมัติในขณะนั้น เนื่องจากการจราจร โดยที่ยังมีเที่ยวบินอีกเที่ยวบินหนึ่งอยู่ข้างบน และหลังจากนั้น 5 นาที เที่ยวบิน (QZ8501) ก็หายลับไปจากจอเรดาร์”
“เมื่อดูจากเรดาร์อากาศของเรา ปรากฏว่าอากาศไม่ดี มีกลุ่มเมฆมากในบริเวณนั้น” เขากล่าวต่อ
ขณะที่ซูนาร์ดี นักพยากรณ์อากาศของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาและภูมิฟิสิกส์ของอินโดนีเซีย เผยว่า ตรวจพบเมฆฝนหนาทึบที่ระดับ 44,000 ฟุตในบริเวณที่เครื่องบินขาดการติดต่อ และเมฆฝนเหล่านั้นอาจทำให้สภาพอากาศปั่นป่วน ฟ้าผ่า ลมแรงทั้งในแนวดิ่งและแนวนอนภายในก้อนเมฆ
ปกติแล้วเวลาในการบินจากสุราบายาไปยังสิงคโปร์ คือ 2 ชั่วโมงเล็กน้อย และเที่ยวบินดังกล่าวมีกำหนดถึงสิงคโปร์ในเวลา 8.30 น. (7.30 น. ตามเวลาไทย)
มูร์จัตม็อดโจ บอกว่า ภายหลังเครื่องบินลำนี้สูญหาย อินโดนีเซียก็ได้ระดมกำลังออกค้นหา โดยใช้เครื่องบิน 7 ลำ, เรือของกองทัพเรือ 3 ลำ, เรือจากสำนักงานค้นหาและกู้ภัยอีก 6 ลำ การค้นหานั้นโฟกัสไปที่น่านน้ำรอบๆ หมู่เกาะบังกา และหมู่เกาะเบลิตุง ในทะเลชวา ซึ่งอยู่คนละฟากทะเลกับจังหวัดเวสต์กาลิมันตัน บนเกาะบอร์เนียว
เขากล่าวด้วยว่า กระทรวงคมนาคมยังขอให้กองทัพบกแดนอิเหนาออกค้นหาทางบกด้วย โดยเฉพาะพวกพื้นที่เขตภูเขา
ขณะที่ เอฟ.เอช.บ.โซเอลิสต์โย ผู้อำนวยการสำนักงานค้นหาและกู้ภัย แถลงเพิ่มเติมว่า นอกจากใช้ทรัพยากรของทางสำนักงานของเขา, กองทัพ, และตำรวจแล้ว ยังได้ขอความช่วยเลือจากชุมชนต่างๆ ตลอดจนชาวประมง
เขาบอกด้วยว่า เรือ 3 ลำ และเครื่องบิน 3 ลำจากมาเลเซียจะเข้าร่วมการค้นหาในวันจันทร์ ส่วนเครื่องบินขนส่งแบบ ซี-130 ของสิงคโปร์นั้นได้เข้าร่วมปฏิบัติการตั้งแต่วันอาทิตย์แล้ว นอกจากนั้นสิงคโปร์จะส่งเครื่องบินมาช่วยอีก 2 ลำในวันจันทร์ ขณะที่ออสเตรเลียก็เสนอให้ความช่วยเหลือ
ภายหลังการปฏิบัติการค้นหาดำเนินมาได้ราว 11 ชั่วโมง ก็ต้องยุติลงชั่วคราวโดยยังไม่พบสัญญาณใดๆ ของเครื่องบินลำนี้ เนื่องจากท้องฟ้ามืดมิด และจะเริ่มการปฏิบัติการใหม่ในเวลา 07.00 น.วันจันทร์ (29) หรือกระทั่งเร็วกว่านั้น หากอากาศดี ฮาดี มุสโตฟา เจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคมอินโดนีเซียบอกกับเอเอฟพี
ทั้งที่สุราบายาและสิงคโปร์ ญาติผู้โดยสารบนเที่ยวบินดังกล่าวต่างเฝ้ารอข่าวคราวอย่างกังวล
ขณะที่ โทนี่ เฟอร์นันเดซ ประธานแอร์เอเชีย ซึ่งตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่งมาเลเซีย ได้มุ่งหน้าสู่สุราบายาทันทีที่ทราบข่าวพร้อมทีมผู้บริหารในอินโดนีเซีย
“ความคิดคำนึงของผมอยู่ที่ผู้โดยสารและลูกเรือ เราฝากความหวังไว้กับปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย และขอขอบคุณรัฐบาลอินโดนีเซีย สิงคโปร์ และมาเลเซีย” เขาโพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์
ทางด้านแอร์บัสแถลงว่า ได้ส่งมอบเครื่องบินลำดังกล่าวให้แอร์เอเชียเมื่อเดือนตุลาคม 2008 หรือเท่ากับว่า เครื่องบินใช้งานมาแล้ว 6 ปี ขณะที่แอร์เอเชียสำทับว่า เครื่องบินที่สูญหายมีชั่วโมงบินรวม 23,000 ชั่วโมง และเพิ่งทำการซ่อมบำรุงตามกำหนดเมื่อวันที่ 16 เดือนที่แล้ว
วิลเลียม วัลด็อก ผู้เชี่ยวชาญการค้นหาและกู้ภัยกรณีเครื่องบินตกจากมหาวิทยาลัยเอมบรี-แอโรโนติคัล ในเมืองเพรสคอตต์ รัฐแอริโซนา สหรัฐฯ แสดงความหวังว่า จะสามารถค้นพบ QZ8501 เพราะอย่างน้อยก็รู้ตำแหน่งที่เครื่องบินสูญหาย
ด้านประธานาธิบดีโจโค วิโดโด แถลงว่า อินโดนีเซียสวดอ้อนวอนขอให้ผู้ที่อยู่บนเครื่องบินปลอดภัย
ส่วนนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคแห่งมาเลเซีย ทวิตให้กำลังใจแอร์เอเชียและครอบครัวของผู้ที่อยู่บนเครื่องบินลำดังกล่าว ขณะที่ทำเนียบขาวเผยว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้รับแจ้งข่าวนี้แล้วและทางการสหรัฐฯ กำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นส่งท้ายปีแห่งหายนะการบินเอเชีย โดยที่ก่อนหน้านี้มาเลเซีย แอร์ไลน์สูญเสียเครื่องบินไป 2 ลำ
เที่ยวบิน MH370 หายสาบสูญเมื่อวันที่ 8 มีนาคมระหว่างบินจากกัวลาลัมเปอร์สู่ปักกิ่’พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คน และจนบัดนี้ยังคงไม่พบร่องรอยหรือเบาะแสใดๆ
วันที่ 17 กรกฎาคม เที่ยวบิน MH17 ถูกยิงตกในยูเครน ส่งผลให้ผู้โดยสารและลูกเรือ 298 คนเสียชีวิตทั้งหมด
***นายกฯ ไทยเสียใจ-พร้อมช่วยเหลือ
ร.อ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้แสดงความเสียใจและความห่วงใย และไทยพร้อมส่งความช่วยเหลือหากได้รับการร้องขอ จากเหตุการณ์เครื่องบินโดยสาร AirAsia เที่ยวบิน QZ8501 เที่ยวบินจากสุราบายา ประเทศอินโดนีเซียไปยังประเทศสิงคโปร์ ได้มีการรายงานว่า ขาดการติดต่อกับหอควบคุมการบินจาการ์ตา ระหว่างเดินทาง เมื่อเวลา 06.17 น. ขณะกำลังบินอยู่ระหว่างจังหวัดกาลิมันตันและเกาะเบลิตุง
อย่างไรก็ตาม จากการประสานงานไปยังสถานทูตไทยในอินโดนีเซียและสิงคโปร์ ไม่พบว่ามีคนไทยอยู่บนเครื่องบินแอร์บัสที่สูญหาย.
