เอเจนซีส์ – คณะสอบสวนอิสระเปิดเผยรายงานที่มีเนื้อหาครอบคลุมฉบับแรกเมื่อวันอาทิตย์ (8 มี.ค.) อันเป็นวันครบรอบ 1 ปีที่ เที่ยวบิน MH370 สูญหายอย่างปริศนา โดยมีการระบุว่า แบตเตอรี่ซึ่งจ่ายไฟฟ้าให้แก่ตัวส่งสัญญาณบอกตำแหน่งอุปกรณ์บันทึกข้อมูลของเครื่องบินสายการบินมาเลเซียลำนี้ ได้หมดอายุก่อนเครื่องบินหายไปกว่า 1 ปี ขณะที่ทางด้านรัฐบาลออสเตรเลีย มาเลเซีย และ จีน ต่างประสานเสียงจะยังไม่เลิกปฏิบัติการค้นหาเครื่องบินลำนี้
นอกจากประเด็นแบตเตอรี่แล้ว รายงานความยาว 584 หน้าที่ถูกนำออกเปิดเผยคราวนี้ ไม่ได้ระบุความผิดปกติอื่นใดทั้งในส่วนเครื่องบินและลูกเรือของเที่ยวบิน MH370 ของมาเลเซีย แอร์ไลนส์ (MAS) ที่สูญหายไปเมื่อวันที่ 8 มีนาคมปีที่แล้ว ระหว่างอยู่ในเส้นทางจากกัวลาลัมเปอร์ สู่ปักกิ่ง และกลายเป็นปริศนาลึกลับที่สุดในวงการการบิน เนื่องจากแม้ระดมค้นหาอย่างเต็มที่ แต่ยังคงไม่พบเบาะแสใดๆ และปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา รัฐบาลมาเลเซียประกาศอย่างเป็นทางการว่า MH370 ตก โดยสันนิษฐานได้ว่า ผู้โดยสารและลูกเรือทั้ง 239 คนเสียชีวิต
ขณะนี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า การที่แบตเตอรี่ตัวส่งสัญญาณระบุตำแหน่งอุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบินของเครื่องหมดอายุนี้ มีนัยสำคัญอย่างไร เว้นแต่บ่งชี้ว่า การค้นหามีโอกาสน้อยลงที่จะพบเครื่องบินในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งเชื่อว่าเป็นจุดตกของ MH370
กระนั้น รายงานระบุว่า แม้แบตเตอรี่หมด แต่ตัวอุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบินยังคงทำงานตามปกติ ขณะที่แบตเตอรี่ของตัวสัญญาณระบุตำแหน่งของอุปกรณ์บันทึกเสียงในห้องนักบิน ก็ทำงานเป็นปกติเช่นเดียวกัน
รายงานที่จัดทำโดยคณะสอบสวนอิสระ 19 คนจากนานาชาติ อาทิ อเมริกา จีน อังกฤษ ฝรั่งเศส และ ออสเตรเลีย ยังให้รายละเอียดเกี่ยวกับชีวิตของลูกเรือ ซึ่งรวมถึงประวัติการรักษาพยาบาล ประวัติทางการเงิน และการฝึกอบรม รวมทั้งบันทึกการซ่อมบำรุงเครื่องบิน สภาพอากาศ ระบบการสื่อสาร และแง่มุมต่างๆ เกี่ยวกับเที่ยวบินที่ประสบเหตุ ซึ่งสรุปว่า ไม่มีสิ่งใดผิดปกตินอกจากเรื่องการหมดอายุของแบตเตอรี่ไฟสัญญาณระบุตำแหน่งอุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบิน
ทั้งนี้ รายงานอธิบายว่า สาเหตุที่ฝ่ายซ่อมบำรุงตรวจไม่พบว่า แบตเตอรี่ดังกล่าวหมดอายุตั้งแต่เดือนธันวาคม 2012 เนื่องจากระบบข้อมูลคอมพิวเตอร์ผิดพลาด
รายงานยังระบุถึงการวิเคราะห์ทางจิตวิทยาและความเป็นอยู่ของนักบินและลูกเรือทั้งหมด ซึ่งไม่พบว่า บุคคลเหล่านั้นเคยมีอาการเซื่องซึม กังวล ฉุนเฉียว และไม่พบว่า มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินชีวิตและพฤติกรรม การเสพยาเสพติดหรือดื่มเหล้า ความขัดแย้งกับบุคคลอื่น หรือปัญหาครอบครัว รวมถึงปัญหาการเงินแต่อย่างใด
คาดกันว่า จะยังไม่มีการจัดทำรายงานฉบับสุดท้ายจนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสมบูรณ์ ระหว่างนี้ทีมสอบสวนจะเผยแพร่รายงานชั่วคราวทุกวาระครบรอบปีที่เครื่องบินสูญหาย เพื่อเปิดเผยความคืบหน้าในการค้นหาและประเด็นด้านความปลอดภัยต่างๆ
สำหรับความเคลื่อนไหวของประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้องนั้น ที่นครซิดนีย์, ออสเตรเลีย นายกรัฐมนตรี โทนี แอ็บบอตต์ ประกาศว่า การค้นหา MH370 จะดำเนินต่อไป โดยระบุว่า หากทีมค้นหาไม่พบเบาะแสใดๆ ในบริเวณค้นหาปัจจุบัน 60,000 ตารางเมตรทางตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งคาดว่า จะปฏิบัติการเสร็จสิ้นในเดือนพฤษภาคมนี้ ก็อาจขยายพื้นที่ค้นหาออกไปอีก 60,000 ตารางเมตรหากมีเหตุผลสมควร
ขณะเดียวกัน กลุ่มวอยซ์ 370 เป็นเจ้าภาพจัดงานรำลึกครบรอบ 1 ปีที่เที่ยวบินนี้สูญหายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงกัวลาลัมเปอร์, มาเลเซีย โดยครอบครัวผู้โดยสารและลูกเรือของ MH370 ต่างยืนยันว่า จะไม่ยอมสิ้นหวังและจะรอคอยการไขปริศนาลึกลับนี้ต่อไป
ด้านนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค ของมาเลเซีย แถลงว่า กัวลาลัมเปอร์ยังคงมุ่งมั่นในการค้นหา MH370 และยังมีความหวังที่จะพบเครื่องบินลำนี้
ส่วนที่ปักกิ่ง หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน แถลงว่า รัฐบาลจะจัดหาความช่วยเหลือทั้งหมดที่จำเป็นให้แก่ญาติพี่น้องของผู้โดยสาร MH370 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนจีน และยืนยันว่า ความพยายามในการค้นหาจะยังคงดำเนินต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ตำรวจจีนปะทะกับญาติผู้โดยสาร MH370 กลุ่มหนึ่งที่ไปสวดมนตร์ในวัดและพยายามให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวต่างประเทศ และมีคนกลุ่มเล็กๆ รวมตัวประท้วงและวิพากษ์วิจารณ์ MAS และรัฐบาลมาเลเซียในการจัดการวิกฤตครั้งนี้ที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตมาเลเซีย
