xs
xsm
sm
md
lg

อดีตผอ.ข่าวกรองเกาหลีใต้โดน “คุก 3 ปี” ฐานแทรกแซงเลือกตั้งปีที่ ปธน.พัคคว้าชัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

(คนกลาง) วอน เซฮุน อดีตผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ (NIS)
เอเอฟพี - อดีตผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ถูกตัดสินจำคุก 3 ปีในวันนี้ (9 ก.พ.) ภายหลังศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาว่า เขาจงใจปั่นป่วนผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2012

เมื่อเดือนกันยายน ปีที่แล้ว วอน เซฮุน วัย 64 ปีถูกศาลชั้นต้นตัดสินว่า มีความผิดฐานเข้าแทรกแซงกระบวนการทางการเมืองอย่างผิดกฎหมาย ในขณะที่เขายังดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ (NIS)

ข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นผลมาจากการที่เจ้าหน้าที่หน่วย NIS ได้โพสต์ข้อความป้ายสีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งจากพรรคฝ่ายค้าน ที่ปราชัยให้กับ พัค กึน-ฮเย ประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนปัจจุบันในศึกเลือกตั้งปี 2012 ไปอย่างเฉียดฉิว

ก่อนหน้านี้ ศาลแขวงโสมขาวได้สั่งให้รอลงอาญาวอนเป็นเวลา 2 ปีครึ่ง โดยตัดสินว่า ถึงแม้จะมีหลักฐานว่าเขากระทำผิดอย่างชัดเจน แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่า เขาเขามีเจตนาจะปั่นป่วนผลการเลือกตั้งครั้งนั้นโดยตรง

อย่างไรก็ตาม ศาลอุทธรณ์กรุงโซลได้เพิกเฉยต่อคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้น และเล็งเห็นว่า ความผิดของวอนนั้นร้ายแรงพอที่จะได้รับโทษจำคุก

สำนักข่าวยอนฮัปรายงานคำตัดสินของผู้พิพากษา คิม ซางฮวาน ผู้ระบุว่า “กล่าวได้ว่า วอนมีเจตนาที่จะเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งในอดีต”

ก่อนที่เขาจะถูกคุมตัวออกจากศาล วอนยืนกราน เขาเพียงแต่ทำไป “เพื่อความปลอดภัยของประเทศและประชาชนชาวเกาหลีใต้”

ทั้งนี้ หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ซึ่งเปลี่ยนชื่อครั้งแล้วครั้งเล่า ได้กลายเป็นที่โจษจันมานานหลายสิบปี ในช่วงที่เกาหลีใต้อยู่ภายใต้อำนาจของผู้นำเผด็จการ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยในทศวรรษที่ 1980

แม้กระนั้น สำนักข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ก็ยังคงตกเป็นข่าวอื้อฉาวครั้งแล้วครั้งเล่า รวมทั้งกรณีล่าสุดนี้ที่ NIS ปลอมแปลงเอกสารเพื่อใส่ร้ายป้ายสีอดีตข้าราชการเกาหลีใต้คนหนึ่ง ซึ่งอพยพหลบหนีมาจากเกาหลีเหนือตั้งแต่ปี 2004 ว่า เขาลอบเป็นสปายให้โสมแดง

นัม แจจุน ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ ซึ่งขึ้นมาสืบทอดตำแหน่งต่อจากวอน ได้ออกมากล่าวขอโทษต่อสาธารณชน ถึงการใส่ร้ายป้ายสีเดือนเมษายน ปีที่แล้ว พร้อมทั้งลั่นวาจาว่าจะจัดระเบียบสำนักข่าวกรองที่ถูกประณามแห่งนี้เสียใหม่

หนึ่งเดือนต่อมา ลี บยุงกี ก็ก้าวขึ้นมาสืบทอดตำแหน่งต่อจาก นัม โดยผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองคนใหม่ได้ให้สัญญาว่าจะไม่ปล่อยให้การเมืองภายในประเทศเข้ามาพัวพันกับกิจการภายในหน่วยงาน


กำลังโหลดความคิดเห็น