นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงถึงกรณีนายเดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวพาดพิงกรณีการถอดถอน น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าถูกการเมืองแทรกแซงและมีผลกระทบต่อความปรองดองว่า ไม่รู้สึกแปลกใจที่นายแดเนียล มาพบปะในเชิงที่ไม่ถูกต้องในระเบียบทางการทูต ซึ่งลักษณะแบบนี้กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาทำเป็นประจำ แต่ก็ยังดีกว่าการที่ส่งสปายสายลับซีไอเอที่ส่งไปแทรกแซงกิจการภายในของประเทศต่างๆ ซึ่งเห็นว่าการใช้นโยบายดังกล่าวนี้เพราะถือว่าตัวเองเป็นประเทศมหาอำนาจ
ประธาน สนช.กล่าวด้วยว่า การเดินหน้าประชาธิปไตยของประเทศไทยอาจมีมิติมุมมองที่ไม่เหมือนกันในบางเรื่อง เช่น อเมริกาเข้าไปในหลายประเทศ ทั้งในตะวันออกกลาง เอเชีย โดยอเมริกามองเพียงอย่างเดียวว่าการเลือกตั้งคือประชาธิปไตย ซึ่งมีการเลือกตั้งเมื่อไรก็พอใจแล้ว โดยไม่สนใจบริบทอย่างอื่น
นอกจากนี้ นายพรเพชร ยังได้กล่าวถึงกรณีที่นายแดเนียล แสดงความเห็นกรณีการลงมติถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และการประกาศใช้กฎอัยการศึก ว่า การดำเนินการถอดถอนเป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย โดยยึดหลักนิติธรรม ยืนยันว่ากระบวนการถอดถอนเป็นกระบวนการส่วนใหญ่ในรัฐสภา ซึ่งสหรัฐอเมริกาเองก็เคยมีการถอดถอนเช่นกัน
ส่วนกรณีที่นายแดเนียล มองว่าการถอดถอนครั้งนี้เป็นการไล่ล่านักการเมืองฝ่ายตรงข้ามนั้น นายพรเพชร กล่าวว่า สนช.ไม่ได้เกิดขึ้นมาเพื่อไล่ล่าใคร
ประธาน สนช.กล่าวด้วยว่า การเดินหน้าประชาธิปไตยของประเทศไทยอาจมีมิติมุมมองที่ไม่เหมือนกันในบางเรื่อง เช่น อเมริกาเข้าไปในหลายประเทศ ทั้งในตะวันออกกลาง เอเชีย โดยอเมริกามองเพียงอย่างเดียวว่าการเลือกตั้งคือประชาธิปไตย ซึ่งมีการเลือกตั้งเมื่อไรก็พอใจแล้ว โดยไม่สนใจบริบทอย่างอื่น
นอกจากนี้ นายพรเพชร ยังได้กล่าวถึงกรณีที่นายแดเนียล แสดงความเห็นกรณีการลงมติถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และการประกาศใช้กฎอัยการศึก ว่า การดำเนินการถอดถอนเป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย โดยยึดหลักนิติธรรม ยืนยันว่ากระบวนการถอดถอนเป็นกระบวนการส่วนใหญ่ในรัฐสภา ซึ่งสหรัฐอเมริกาเองก็เคยมีการถอดถอนเช่นกัน
ส่วนกรณีที่นายแดเนียล มองว่าการถอดถอนครั้งนี้เป็นการไล่ล่านักการเมืองฝ่ายตรงข้ามนั้น นายพรเพชร กล่าวว่า สนช.ไม่ได้เกิดขึ้นมาเพื่อไล่ล่าใคร