เอเอฟพี - เกิดเหตุระบบขัดข้องขึ้นกับเครื่องบินลำหนึ่งของ “แอร์เอเชีย เอ็กซ์” ในวันนี้ (8 ก.พ.) ขณะบินออกจากกัวลาลัมเปอร์ มุ่งหน้าสู่เจดดาห์ จนต้องยกเลิกการเดินทางแล้วบินวนอยู่บนฟ้านานหลายชั่วโมงบริเวณช่องแคบมะละกา ก่อนจะกลับมาเลเซีย
โทนี เฟอร์นันเดส ซีอีโอของแอร์เอเชียกรุ๊ป บอกกับเอเอฟพีว่า มีปัญหาแค่เล็กน้อย เกี่ยวกับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติทำงานผิดปกติ (*แก้ไขจากระบบปรับความดัน*) ซึ่งอันที่จริงแล้วยังสามารถบินต่อได้ แต่ก็มีการตัดสินใจให้บินกลับมาเลเซีย
เขายืนยันว่า เครื่องบินของแอร์เอเชียเอ็กซ์ลำดังกล่าว สามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัยที่สนามบินในกัวลาลัมเปอร์ช่วงเย็นวันอาทิตย์ (8 ก.พ.)
ทั้งนี้ บรรดาเว็บไซต์ที่บันทึกข้อมูลการบิน ต่างระบุตรงกันว่า เที่ยวบิน D7172 ของแอร์เอเชียเอ็กซ์ ที่ออกเดินทางจากสนามบินในกัวลาลัมเปอร์ตั้งแต่ช่วงเที่ยงๆ ต้องบินวนเป็นวงกลมอยู่ 4 ชั่วโมงบริเวณช่องแคบมะละกา เพื่อเผาผลาญเชื้อเพลิงก่อนจะกลับมาที่สนามบินในกัวลาลัมเปอร์ตอนเย็น
เฟอร์นันเดสบอกว่า การบินวนลักษณะนั้น เป็นการระวังภัยตามปกติที่ทำอยู่เป็นประจำ เพื่อลดน้ำหนักของเครื่องบิน ช่วยให้ลงจอดได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเครื่องบินลำดังกล่าวมีน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ในปริมาณมาก เพราะต้องบินเป็นเวลาหลายชั่วโมงในการเดินทางไปยังเมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย
ก่อนหน้านี้ เที่ยวบิน QZ8501 ของแอร์เอเชียเพิ่งจะประสบเหตุร้ายตกลงไปในทะเลชวา แถมยังมีเครื่องบินของมาเลเซียแอร์ไลน์สอีก 2 ลำที่ต้องพบกับโศกนาฏกรรมในปีที่แล้ว ทำให้บรรดานักเดินทางเริ่มที่จะกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเครื่องบินโดยสารในดินแดนเสือเหลือง
เที่ยวบิน QZ8501 ของแอร์เอเชีย ประสบกับสภาพอากาศที่ย่ำแย่ จนตกลงไปในทะเลชวาเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ขณะออกเดินทางจากสุราบายา มุ่งหน้าสู่สิงคโปร์
ส่วนทางด้านเครื่องบินของ “มาเลเซียแอร์ไลน์ส” เที่ยวบิน MH370 ได้หายสาบสูญไปในช่วงเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ระหว่างเส้นทางบิน กัวลาลัมเปอร์-ปักกิ่ง ซึ่งเชื่อกันว่าตกลงไปในทะเลอินเดีย แต่ยังไม่มีการพบร่องรอยใดๆ
นอกจากนี้ยังมีเที่ยวบิน MH17 ที่ร่วงในช่วงเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว บริเวณภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งเชื่อกันว่าโดนสอยด้วยขีปนาวุธจากพื้นดินสู่อากาศ