เอเอฟพี - วันนี้ (29 ธ.ค.) นายกรัฐมนตรี อันโตนิส ซามาราส แห่งกรีซได้ขอให้ร่นกำหนดการเลือกตั้งเข้ามาเป็นวันที่ 25 มกราคมนี้ ในช่วงที่มีแววว่า การลงคะแนนเสียงในเดือนหน้านี้อาจนำชัยชนะมาสู่พรรคหัวซ้ายจัด ที่มีแนวทางต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด ภายหลังที่รัฐสภากรีกยังคงไม่สามารถหาผู้มาสืบทอดตำแหน่งต่อจาก ประธานาธิบดี คาร์ลอส ปาปูลิอัส ซึ่งกำลังจะสิ้นสุดวาระในเดือนมีนาคมนี้
ทั้งนี้ มีแนวโน้มที่การเลือกตั้งอย่างกะทันหันเช่นนี้จะสั่นคลอนเศรษฐกิจ และตลาดการเงิน ภายหลังที่สถานการณ์การเงินอันเลวร้ายของกรีซเกือบจะทำลายกลุ่มประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร มาแล้วในปี 2012
ผู้ลงสมัครท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝ่ายรัฐบาล ได้แก่ สตาฟรอส ดิมาส กรรมาธิการฝ่ายสิ่งแวดล้อมของสหภาพยุโรป ซึ่งได้คะแนนเสียง 168 จาก จากทั้งหมดที่ต้องได้รับอย่างน้อย 180 คะแนนจึงจะสามารถคว้าเก้าอี้ประธานาธิบดีมาครองได้ และตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ กรีซจะต้องยุบสภา ภายใน 10 วันข้างหน้า
ภายหลังการลงคะแนนเสียงในวันนี้ (29) หุ้นกรีกก็ร่วงลงไป 11 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเกิดกระแสหวั่นวิตกว่า พรรค “ซีริซา” ที่กำลังขึ้นนำ และมีจุดยืนต่อต้านนโยบายรัดเข็มขัดอาจประกาศล้มเลิกแผนปฏิรูปเศรษฐกิจมากมายของกรีซ หากพรรคนี้เป็นชนะการเลือกตั้ง
นายกฯ ซามาราส ระบุในการปราศรัยที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ หลังการลงคะแนนในสภาว่า “พรุ่งนี้ผมจะเข้าพบประธานาธิบดีเพื่อขอ...จัดการเลือกตั้งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในวันที่ 25 มกราคมนี้”
เมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ฌ็อง-โกลด จุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป และขุนคลังเมืองเบียร์ วูลฟ์กัง ชะออยเบิล ได้ออกมาเตือนไม่ให้กรีซเปลี่ยนแนวทาง และล้มเลิกแผนปฏิรูปเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ผลสำรวจความคิดเห็นชี้ให้ว่า พรรคร่วมรัฐบาลของซามาราส ยังมีคะแนนตามหลังพรรคซีริซา ซึ่งต้องการเจรจาต่อรองเงื่อนไขในการกู้ยืมเงิน และลดมาตรการรัดเข้มขัดของเจ้าหนี้ต่างชาติ ที่ไม่ได้รับความนิยมจากประชาชนชาวกรีก
ภายหลังเสร็จสิ้นการลงคะแนนเสียงในวันนี้ (29) อเล็กซิส ซีปราส หัวหน้าพรรคซีรีซา ได้ให้คำมั่นว่าจะยุตินโยบายรัดเข็มขัด หากพรรคของเขาคว้าชัยในการเลือกตั้ง
แม้ว่า แผนการปฏิรูปเศรษฐกิจของกลุ่มเจ้าหนี้จะช่วยพัฒนาสถานะการเงินการคลังของรัฐบาลกรีซ แต่กลับส่งผลกระทบต่อชาวกรีกอย่างเลวร้าย จนอัตราการว่างงานพุ่งทะลุ 27 เปอร์เซ็นต์ และประชาชนจำนวนมากต่างถูกปรับลดค่าแรง และเงินสงเคราะห์
พรรคซีริซา ซึ่งปฏิเสธไม่ขอออกเสียง ด้วยหวังที่จะบีบให้มีการจัดการเลือกตั้งกะทันกัน ต้องการขึ้นเงินเดือนและบำนาญ รวมทั้งระงับการแผนการปลดเจ้าหน้าที่รัฐ และแผนแปรรูปวิสาหกิจทรัพย์สินของรัฐ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เจ้าหนี้เรียกร้องต้องการจากกรีซ