ความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองของกรีซ ดินแดนซึ่งกำลังประสบวิกฤตเศรษฐกิจ ที่ส่อแววต้องเลือกตั้งใหม่ ฉุดให้ตลาดหุ้นสหัฐฯเมื่อวันจันทร์(29ธ.ค.) ปิดในกรอบแคบๆ แต่เอสแอนด์พี 500 ยังเดินหน้าทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่
ดาวโจนส์ ลดลง 15.48 จุด (0.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,038.23 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 1.80 จุด (0.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,090.57 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 0.05 จุด (0.00 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,806.91 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศกรีซ หลังจากมีรางานว่ารัฐสภากรีซไม่สามารถเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศได้สำเร็จในการลงคะแนนเสียงแบบขานชื่อ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 และเป็นรอบสุดท้ายในวันนี้ ซึ่งความล้มเหลวดังกล่าว จะส่งผลให้กรีซต้องจัดการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนดในช่วงปลายเดือนมกราคม หรือต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ตามรัฐธรรมนูญของประเทศ
สถานการณ์ทางการเมืองของกรีซเป็นที่จับตาของตลาดการเงิน หลังจากที่นายกรัฐมนตรี แอนโทนิส ซามาราส เดิมพันอนาคตทางการเมืองด้วยการประกาศเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ว่า รัฐสภากรีซจะลงคะแนนเสียงเลือกประธานาธิบดีคนใหม่เร็วกว่ากำหนดการเดิมสองเดือน ซึ่งหากรัฐสภาไม่สามารถเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ได้ นายซามาราสก็จำเป็นที่จะต้องประกาศจัดการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนด ซึ่งมีแนวโน้มว่าพรรคไซรีซา ซึ่งต่อต้านการรัดเข็มขัด จะคว้าชัยชนะ อันอาจนำไปสู่การผ่อนปรนนโยบายรัดเข็มขัดและยกเลิกการปฏิรูปแผนการคลังของกรีซ และจะเพิ่มความเสี่ยงต่อสถานะการเงินของประเทศ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะถึงช่วงปลายปี หลังจากที่ตลาดปิดบวกติดต่อกันหลายวันทำการก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากถ้อยแถลงในการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ว่า เฟดสามารถ "อดทน" รอต่อไปได้อีก ในการปรับนโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้นักลงทุนมองว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น แม้ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลงก็ตาม ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง นำโดยหุ้นไอบีเอ็ม หุ้นอินเทล และหุ้นไมโครซอฟท์ ที่ต่างก็ปรับตัวลงกว่า 0.9%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันอังคาร รวมถึงราคาบ้านของสหรัฐเดือนต.ค.จากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนธ.ค.จาก Conference Board
ดาวโจนส์ ลดลง 15.48 จุด (0.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,038.23 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 1.80 จุด (0.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,090.57 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 0.05 จุด (0.00 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,806.91 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศกรีซ หลังจากมีรางานว่ารัฐสภากรีซไม่สามารถเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศได้สำเร็จในการลงคะแนนเสียงแบบขานชื่อ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 และเป็นรอบสุดท้ายในวันนี้ ซึ่งความล้มเหลวดังกล่าว จะส่งผลให้กรีซต้องจัดการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนดในช่วงปลายเดือนมกราคม หรือต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ตามรัฐธรรมนูญของประเทศ
สถานการณ์ทางการเมืองของกรีซเป็นที่จับตาของตลาดการเงิน หลังจากที่นายกรัฐมนตรี แอนโทนิส ซามาราส เดิมพันอนาคตทางการเมืองด้วยการประกาศเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ว่า รัฐสภากรีซจะลงคะแนนเสียงเลือกประธานาธิบดีคนใหม่เร็วกว่ากำหนดการเดิมสองเดือน ซึ่งหากรัฐสภาไม่สามารถเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ได้ นายซามาราสก็จำเป็นที่จะต้องประกาศจัดการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนด ซึ่งมีแนวโน้มว่าพรรคไซรีซา ซึ่งต่อต้านการรัดเข็มขัด จะคว้าชัยชนะ อันอาจนำไปสู่การผ่อนปรนนโยบายรัดเข็มขัดและยกเลิกการปฏิรูปแผนการคลังของกรีซ และจะเพิ่มความเสี่ยงต่อสถานะการเงินของประเทศ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะถึงช่วงปลายปี หลังจากที่ตลาดปิดบวกติดต่อกันหลายวันทำการก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากถ้อยแถลงในการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ว่า เฟดสามารถ "อดทน" รอต่อไปได้อีก ในการปรับนโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้นักลงทุนมองว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น แม้ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลงก็ตาม ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง นำโดยหุ้นไอบีเอ็ม หุ้นอินเทล และหุ้นไมโครซอฟท์ ที่ต่างก็ปรับตัวลงกว่า 0.9%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันอังคาร รวมถึงราคาบ้านของสหรัฐเดือนต.ค.จากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนธ.ค.จาก Conference Board