รอยเตอร์ - สภาล่างของรัสเซีย รุดผ่านร่างกฎหมายฉบับหนึ่งในวันศุกร์(19ธ.ค.) ซึ่งจะเปิดทางให้ภาคธนาคารสามารถเพิ่มทุนได้สูงสุดถึง 1 ล้านล้านรูเบิล(ราว16,500ล้านดอลลาร์สหรัฐฯหรือปะมาณ 5.4 แสนล้านบาท) ความพยายามป้องกันระบบธนาคารพังครืนจากวิกฤตค่าเงินรูเบิลดำดิ่ง
ภาคการเงินของรัสเซียกำลังลื่นไถลเข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะที่ค่าเงินรูเบิลที่ดำดิ่งและมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกต่อวิกฤตยูเครน ซึ่งจำกัดธนาคารต่างๆของแดนหมีขาวเข้าถึงตลาดทุนระหว่างระเทศ กำลังส่งผลให้ต้นทุนของการกู้ยืมพุ่งกระฉุด
นายอันโตน ซีลูอานอฟ รัฐมนตรีคลังรัสเซียบอกกับผู้สื่อข่าวในวันศุกร์(19ธ.ค.) ว่าธนาคารต่างๆจะเริ่มได้รับการอัดฉีดทุนเพิ่มเติมในช่วงต้นปีหน้า และด้วยกฎหมายฉบับนี้นั่นหมายความว่าบัญชีงบประมาณจะดิ่งเข้าสู่ภาวะขาดดุลราวร้อยละ 0.8 ของจีดีพี "เงิน 1 ล้านล้านรูเบิลนี้ เป็นไปได้ว่าจะช่วยเพิ่มทุนแก่ระบบธนาคารราว 13 เปอร์เซนต์" เขากล่าว
เมื่อกฎหมายผ่านความเห็นชอบจากสภาบนและประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แล้ว มันจะเปิดทางให้กระทรวงการคลังออก OFZ (พันธบัตรเงินกู้ของรัฐบาลกลาง) มูลค่า 1 ล้านล้านรูเบิล ซึ่งจะส่งมอบไปยังสถาบันประกันเงินฝาก จากนั้นหน่วยงานแห่งนี้จะให้พันธบัตรเหล่านี้แก้ธนาคารต่างๆโดยแลกกับหุ้นกู้ด้อยสิทธิหรือหุ้นบุริมสิทธิของธนาคารเหล่านั้น
ซีลูอานอฟ บอกว่าค่าเงินรูเบิลที่ตกต่ำ ทำให้ธนาคารต่างๆยากต่อการมีเงินหมุนเวียนเพียงพอสำหรับชำระเงินกู้ต่างประเทศ และหมายความว่าแบงค์จะมีอัตราส่วนของสินทรัพย์เสี่ยงต่อเงินกองทุนไม่ได้ตามที่กำหนดไว้
เหล่านักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากบอกว่ารัสเซียจะดิ่งเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า และจะถลำลึกลงไปมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันและมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ ขณะดียวกันก็ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าธนาคารกลางแดนหมีขาวจะคงอัตราดอกเบี้ยระดับร้อยละ 17 ไว้นานแค่ไหนในความพยายามสนับสนนค่าเงินรูเบิล เนื่องจากอีกด้านหนึ่งมันก็เป็นปัจจัยที่บีบรัดเศรษฐกิจของประเทศ
นอกจากนี้แล้วเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ธนาคารกลางรัสเซียยังคลายกฎระเบียบภาคธนาคารเพื่อช่วยคืนเสถียรภาพแก่สกุลเงินรูเบิล ซึ่งนับตั้งแต่ต้นปี เมื่อเทียบกับดอลลาร์แล้ว ร่วงลงมาแล้วกว่าร้อยละ 45 ขณะที่ ปูติน ให้สัญญานิรโทษกรรมธุรกรรมทั้งหมดให้ใครก็ตามที่เอาเงินกลับเข้ามาประเทศ