เอเอฟพี - ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้มีคำสั่งยุบพรรคการเมืองซ้ายจัดในวันนี้ (19 ธ.ค.) ด้วยข้อหาให้การสนับสนุนเกาหลีเหนือ
คณะผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเห็นชอบ 8-1 เสียงให้ยุบพรรค ยูนิฟายด์ โปรเกรสซีฟ ปาร์ตี (ยูพีพี) ตามคำร้องของรัฐบาลโซล และสั่งเพิกถอนที่นั่งในสภาทั้ง 5 ที่นั่งซึ่งพรรคยูพีพีครอบครองอยู่
ศาลวินิจฉัยว่า จุดยืนของพรรคยูพีพีขัดแย้งต่อหลักประชาธิปไตยขั้นพื้นฐานที่ระบุในรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ แต่กลับไปสนับสนุนค่านิยมเผด็จการของเกาหลีเหนือ
“ผมหวังว่าคำตัดสินของศาลในวันนี้จะช่วยยุติการถกเถียงอันยืดเยื้อเกี่ยวกับค่านิยมในประเทศนี้” พัค ฮัน-ชุล ประธานคณะผู้พิพากษา กล่าวก่อนจะอ่านคำวินิจฉัย
“ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยุบพรรคยูพีพี... เนื่องจากหลักการและกิจกรรมของพรรคเป็นอันตรายต่อหลักประชาธิปไตยที่เรายึดถือ” พัคกล่าว พร้อมชี้ว่ากิจกรรมใดๆ ซึ่งเป็นการสนับสนุนรัฐโสมแดงจะต้องถูกแบน เพราะในทางเทคนิคแล้วสองประเทศยังอยู่ในภาวะสงคราม
คณะกรรมการการเลือกตั้งเกาหลีใต้ไม่รอช้าที่จะดำเนินการอายัดทรัพย์สินของพรรคยูพีพีทันที
ตำรวจปราบจลาจลราว 1,000 นายตรึงกำลังคุ้มกันศาลรัฐธรรมนูญ ขณะที่ประชาชนซึ่งทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการยุบพรรคได้มาชุมนุมบนท้องถนนใกล้เคียง
นักเคลื่อนไหวอนุรักษนิยมราว 200 คน รวมถึงอดีตนายทหารที่สวมเครื่องแบบ ต่างโบกสะบัดธงชาติด้วยความดีใจหลังทราบว่าศาลมีคำสั่งยุบพรรคยูพีพี ส่วนที่ถนนฝั่งตรงข้ามก็มีผู้สนับสนุนพรรคยูพีพีประมาณ 400 คนยืนปรามาสด่าทอประธานาธิบดี พัค กึน-ฮเย และกล่าวหาว่ารัฐบาลเหยียบย่ำประชาธิปไตย
“วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้เปิดประตูสู่ยุคมืด โดยการประกาศคำตัดสินแบบเผด็จการ” ลี จุง-ฮี ประธานพรรคยูพีพีซึ่งเคยลงสมัครชิงเก้าอี้ผู้นำเกาหลีใต้ในปี 2012 และเคยดีเบตโจมตีพัคอย่างรุนแรงผ่านสื่อโทรทัศน์กล่าว
ด้านนายกรัฐมนตรี จุง ฮอน-วอน ได้เอ่ยชมคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าเป็นหลักฐานชี้ชัดว่าพรรคยูพีพีพยายามที่จะ “ล้มล้างระบอบประชาธิปไตย และสถาปนาระบอบสังคมนิยมเหมือนเกาหลีเหนือ”
อย่างไรก็ดี นักสิทธิมนุษยชนกลับมองว่าคำสั่งยุบพรรคยูพีพีเข้าข่ายละเมิดเสรีภาพในการแสดงออก
“การยุบพรรคยูพีพีทำให้เกิดคำถามว่า รัฐบาลเกาหลีใต้มีเจตนาที่จะส่งเสริมเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการรวมกลุ่มหรือไม่” โรเซียนน์ ไรฟ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยขององค์การนิรโทษกรรมสากลประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออก กล่าว
ด้าน ฮิวแมนไรต์วอตช์ ก็ประณามคำตัดสินนี้ว่า “โหดร้ายทารุณ”
“ประธานาธิบดี พัค กึน-ฮเย ไม่ควรใช้กฎหมายความมั่นคงมาปิดกั้นสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมือง และสิทธิในการแสดงออกทางการเมือง และยิ่งไม่ควรขจัดผู้ที่เห็นต่าง” ฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการฮิวแมนไรต์วอตช์ประจำภูมิภาคเอเชีย แถลง
“กลยุทธ์การเมืองที่ทารุณโหดร้ายเช่นนี้ควรถูกใช้โดยผู้นำเผด็จการอย่างบิดาของเธอ (พัค จุง-ฮี) เมื่อหลายสิบปีก่อนมากกว่า ไม่ใช่ผู้นำสมัยใหม่ในประเทศที่เป็นประชาธิปไตยอย่างเกาหลีใต้ในศตวรรษที่ 21”
จุดยืนของพรรคยูพีพีกลายเป็นประเด็นวิพากษ์ร้อนแรงในแวดวงการเมืองเกาหลีใต้ หลังจาก ลี ซ็อก-กี ส.ส.ในสังกัดพรรคนี้ ถูกจับกุมเมื่อปีที่แล้วฐานยุยงให้เกิดการปฏิวัติโดยใช้อาวุธเพื่อดำเนินรอยตามโสมแดง