เอเอฟพี - ฟิลิปปินส์ออกมาแถลงวันนี้ (17 ธ.ค.) ว่าสหรัฐฯ ได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องของรัฐบาล ที่ต้องการให้มอบอำนาจในการควบคุมตัวนาวิกโยธินอเมริกัน ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมสาวประเภทสองชาวแดนตากาล็อกให้แก่มะนิลา
วานนี้ (16) ศาลฟิลิปปินส์มีคำสั่งให้จับกุม ส.ต.โจเซฟ สกอตต์ เพมเบอร์ตัน เพื่อดำเนินคดีเขาในข้อหาฆาตกรรม เจฟฟรีย์ เลาเด หรือ เจนนิเฟอร์ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม โดยคดีนี้ได้สุมไฟให้กระแสความเกลียดชังชาวอเมริกันในประเทศนี้โหมรุนแรงขึ้น และเป็นบททดสอบสายสัมพันธ์ทางการทหารของสองชาติพันธมิตร
นาวิกโยธินนายนี้ถูกควบคุมตัวไว้ที่ฐานทัพฟิลิปปินส์ ในกรุงมะนิลา ภายใต้ข้อตกลงระหว่างสองประเทศ แต่ (กระทรวง) การต่างประเทศแดนอินทรีได้พยายามนำตัวพลเมืองของตนเองกลับไปคุมขังที่ประเทศบ้านเกิด ภายหลังถูกศาลแดนตากาล็อกออกหมายจับ
ชาร์ลส์ โฆเซ รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ระบุว่า “เรารู้สึกผิดหวังที่สหรัฐฯ เลือกที่จะอ้างสิทธิตามข้อตกลงกำลังทหารที่มาเยือน (VFA) เพื่อขอเป็นฝ่ายควบคุมตัวจำเลยต่อไป” ทั้งนี้เป็นการระบุถึง ข้อตกลงทางการทหารที่ทั้งสองชาติพันธมิตรลงนามร่วมกันเมื่อปี 1998
นอกจากนี้ เขากล่าวว่า สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ได้รับปากว่าจะปฏิบัติตามข้อผูกกันที่กำหนดให้ เพมเบอร์ตัน “ปฏิบัติตามข้อบังคับในการสอบสวน หรือกระบวนการตุลาการใดๆ ที่สอดคล้องกับกฎหมายฟิลิปปินส์”
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม เลาเด และเพมเบอร์ตัน พบกันที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งในเมืองโอลองกาโป ทางตอนเหนือของประเทศ จากนั้นทั้งสองก็พากันไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่ที่พบศพของเลาเดในห้องน้ำ สารวัตรใหญ่ กิล โดมิงโก ชี้ว่า เห็นได้ชัดเจนว่าเธอถูกจับกดน้ำในชักโครกจนเสียชีวิต
ตำรวจระบุว่า เพมเบอร์ตัน ซึ่งขณะก่อเหตุอยู่ในวัย 19 ปี เพิ่งเสร็จสิ้นจากภารกิจซ้อมรบสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกร่วมระหว่างสหรัฐฯ กับฟิลิปปินส์ ใกล้เมืองโอลองกาโป และเขาเป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับ เลาเด
เคิร์ต โฮเยอร์ โฆษกสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ กล่าวกับเอเอฟพีว่า คณะผู้แทนมีแผนจะออกคำแถลงเกี่ยวกับคดีนี้ในภายหลัง
วานนี้ (16) สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ออกคำแถลงเตือนว่า ตามข้อตกลงว่าด้วยกำลังทหารที่มาเยือน “สหรัฐฯ สามารถสงวนสิทธิในการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด จนกว่ากระบวนการตุลาการจะแล้วเสร็จ”
โฆเซ ระบุในคำแถลงวันนี้ (17) ว่า “เราคาดหวังว่า สหรัฐฯ จะเคารพในพันธกรณี ... และรับรองว่า ส.ต.เพมเบอร์ตัน จะสามารถเดินทางมาปรากฏตัวต่อทางการฟิลิปปินส์ได้ทุกครั้งตามที่กำหนด เพื่อเข้ารับการสอบสวนและพิจารณาคดี” ฆาตกรรม
“ส.ต.เพมเบอร์ตันจะยังคงอยู่ในความควบคุมของฟิลิปปินส์ที่มีอำนาจอธิปไตย และกองกำลังติดอาวุธของเราจะร่วมมืออย่างจริงจัง เพื่อให้มั่นใจได้ว่า เขาจะยังคงอยู่ในสถานกักกันตามที่ได้เคยตกลงกันไว้”
การตายของเลาเด ได้จุดชนวนให้เกิดการประท้วงตามท้องถนนในฟิลิปปินส์ ประเทศที่เป็นอดีตอาณานิคมของแดนอินทรี ก่อนจะได้รับเอกราชเมื่อปี 1946 แต่ยังรักษาคามเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ จวบจนทุกวันนี้
เมื่อปี 1992 สหรัฐฯ ได้สั่งปิดฐานทัพใหญ่ 2 แห่งในแดนตากาล็อก แต่เมื่อปี 1998 ทั้งสองประเทศได้ลงนามข้อตกลงกำลังทหารที่มาเยือน เพื่ออนุญาตให้สหรัฐฯ สามารถส่งทหารไปร่วมซ้อมรบบนแผ่นดินฟิลิปปินส์ได้
ในแต่ละปี มีทหารสหรัฐฯ เดินทางไปเข้าร่วมการซ้อมรบที่ฟิลิปปินส์หลายพันนาย