ยูเอ็นเผยปีนี้มีผู้อพยพทางเรือตายขณะไปยุโรปมากเป็นประวัติการณ์

เอเอฟพี - หน่วยงานดูแลผู้ลี้ภัยของยูเอ็นเปิดเผยในวันนี้ (10 ธ.ค.) ว่ามีผู้คนต้องเสียชีวิตไปกว่า 3,400 รายในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ขณะพยายามเดินทางอพยพไปยุโรปปีนี้

สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ระบุว่า ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา มีคนมากกว่า 207,000 คน ที่ยอมเสี่ยงเดินทางอพยพข้ามทะเลดังกล่าว ซึ่งนับเป็นจำนวนที่มากกว่าสถิติเดิมเกือบ 3 เท่า ที่เคยมีตัวเลขราวๆ 70,000 คน ช่วงเกิดสงครามกลางเมืองที่ลิเบียในปี 2011

จากจำนวนตัวเลขผู้อพยพกว่า 2 แสนรายเหล่านั้น มีผู้ที่ต้องเสียชีวิตระหว่างทางข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมากถึง 3,419 ราย ขณะที่ตัวเลขรวมของผู้เสียชีวิตจากการอพยพทางเรือทั้งหมดทั่วโลกอยู่ที่ 4,272 รายในปีนี้

ผู้อพยพเหล่านั้นส่วนใหญ่มาจากลิเบีย โดยมีจุดหมายปลายทางคืออิตาลีและมอลตา พวกเขามุ่งหวังที่จะหางานทำและลี้ภัย นอกจากนี้ยังมีชาวซีเรีย 60,051 คน และชาวเอริเทรีย 34,561 คน

ตัวเลขเหล่านี้ถูกเปิดเผยในการประชุมที่เจนีวา ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน โดยนาย อันโตนิโอ กูเตียร์เรซ ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ เพื่อพูดคุยหาวิธีปกป้องคุ้มครองชีวิตแก่ผู้อพยพเหล่านี้

ก่อนที่การประชุมจะเริ่มขึ้น กูเตียร์เรซ ได้ระบุว่า มีหลายประเทศมัวแต่ห่วงเรื่องความมั่นคงปลอดภัยตามแนวชายแดนของตนมากกว่าที่จะปกป้องคุ้มครองชีวิตของผู้คน

เขากล่าวโดยไม่ได้เอ่ยชื่อประเทศใดเป็นการเจาะจงว่า นั่นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เป็นการตอบสนองที่ผิดพลาดอย่างชัดเจน สำหรับในยุคที่ผู้คนต้องหลบลี้หนีภัยสงคราม มากมายเป็นประวัติการณ์

"การให้ความปลอดภัยและบริหารจัดการดูแลผู้อพยพเป็นเรื่องที่หลายประเทศเป็นกังวล แต่นโยบายต่างๆ ควรจะต้องออกแบบให้เป็นไปในทิศทางที่จะต้องไม่ลงเอยด้วยการสูญเสียชีวิตของผู้คน" กูเตียร์เรซ กล่าว

ทั้งนี้ การสู้รบใน ลิเบีย , ยูเครน , ซีเรียและอิรัก คือปัจจัยที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องอพยพเข้าสู่ยุโรปขณะนี้

สำหรับผู้อพยพจำนวนมากมายเหล่านี้ อิตาลีคือจุดหมายแรก ซึ่งประเทศนี้ก็ได้ช่วยเหลือผู้อพยพไปแล้วกว่า 150,000 รายในปีนี้

สัปดาห์ที่แล้ว เรือของกองทัพเรือและยามฝั่ง พบเรือบดยางลอยเคว้งคว้างอยู่แถวเกาะลัมเปดูซา พวกเขาได้ช่วยเหลือผู้อพยพ 75 คนพร้อมทั้งเก็บกู้ศพผู้เสียชีวิตอีก 17 ราย ที่ตายเพราะความหนาวเย็นและขาดน้ำ

อย่างไรก็ตาม อิตาลีได้ยุติภารกิจ "มาเร นอสตรุม" ที่เป็นปฏิบัติการค้นหาและกู้ชีพไปแล้ว หลังจากที่บรรดาชาติสมาชิกสหภาพยุโรปปฏิเสธที่จะช่วยสนับสนุนด้านเงินทุน พร้อมทั้งวิจารณ์อีกด้วยว่าภารกิจช่วยผู้อพยพยิ่งเป็นการส่งเสริมให้พวกเขาอยากลองเสี่ยงดวงออกเดินทาง

แต่กูเตียร์เรซก็ยังยืนยันว่า ไม่มีทางที่จะห้ามผู้คนให้อพยพหนีภัยเพื่อชีวิตของพวกเขาได้ มีเพียงแค่จัดการกับรากเหง้าของปัญหาที่แท้จริงเท่านั้น ซึ่งนั่นหมายความว่าจะต้องหาให้พบว่าทำไมผู้คนเหล่านี้ถึงต้องอพยพ จึงจะสามารถป้องกันการอพยพได้

ขณะที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็นเส้นทางอพยพที่แสนอันตราย แต่ก็ยังไม่ได้มีแค่เส้นทางนี้เท่านั้น ที่มีผู้คนใช้ในการอพยพ โดยทางยูเอ็นเอชซีอาร์ รายงานว่า มีผู้อพยพทางเรือในปีนี้รวมทั้งสิ้น 348,000 คน

มีอย่างน้อย 242 รายที่เสียชีวิตในทะเลแดงและอ่าวเอเดน จากผู้อพยพทั้งหมด 82,680 คนในเส้นทางนี้ พวกเขาส่วนใหญ่มาจากเอธิโอเปียและโซมาเลีย โดยมีเยเมนเป็นจุดหมายปลายทาง ซึ่งอาจจะมุ่งหน้าต่อไปยังซาอุดิอาระเบียและประเทศอื่นๆ

นอกจากนี้ยังมีผู้คนอีก 540 รายที่เสียชีวิตในปีนี้ ในการเดินทางข้ามอ่าวเบงกอล จากผู้อพยพทั้งหมด 54,000 คน ส่วนที่ทะเลแคริเบียนก็มีผู้เสียชีวิต 71 รายจากผู้อพยพทั้งหมด 4,775 คน