ฟิลิปปินส์อ่วมซ้ำซ้อน !! พายุโซนร้อน "ฟงวอง" ทำกรุงมะนิลาจมใต้บาดาล

เอเอฟพี - ชาวฟิลิปปินส์หลายหมื่นคนต้องพากันหนีน้ำท่วมที่สูงถึงหลังคา ขณะที่มีเด็กหญิงรายหนึ่งจมหายไปในวันนี้ (19 ก.ย.) เมื่อพายุอีกลูกได้เข้าถล่มประเทศที่กำลังประสบภัยพิบัติอยู่แล้วในตอนนี้

เจ้าหน้าที่กู้ภัยบนรถบรรทุกและเรือบดยางพากันช่วยเหลือประชาชนที่อยู่บนหลังคาบ้านที่ถูกน้ำท่วม หลังจากที่บรรดาแม่น้ำสายหลักๆ มีระดับน้ำสูงจนเอ่อล้นออกมาท่วมพื้นที่ในเขตตะวันออกที่มีผู้คนหนาแน่น

มินา มาราสิกาน โฆษกหญิงของสภาบริหารจัดการและลดระดับความเสี่ยงภัยพิบัติแห่งชาติ ระบุว่า เจ้าหน้าที่กำลังรับมือกับน้ำที่ท่วมเป็นบริเวณกว้าง ผู้รับผิดชอบดูแลทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศกำลังพยายามดำเนินการช่วยเหลือชาวบ้านอยู่

เธอระบุอีกว่า ตอนนี้ทราบว่ามีผู้เสียชีวิตรายแรกแล้ว เป็นเด็กหญิงที่จมน้ำที่กำลังท่วมอยู่แถวชุมชนแออัดทางตอนเหนือของกรุงมะนิลา

พายุโซนร้อน "ฟงวอง" มีกระแสลมหมุนที่ค่อนข้างเบา โดยมีการบันทึกความเร็วสูงสุดเอาไว้ที่ 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่พัดผ่านพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ที่สุดของฟิลิปปินส์เมื่อตอนเที่ยง (11.00 น. ตามเวลาประเทศไทย)

เจเนอร์ ควิทลอง นักพยากรณ์อากาศบอกกับเอเอฟพีว่า แม้กระแสลมจะไม่รุนแรง แต่ก็ได้ทำให้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักทั่วกรุงมะนิลา ครอบคลุมพื้นที่กว่า 400 กิโลเมตรลงไปทางใต้

จุดที่ท่วมหนักที่สุดคือบริเวณแม่น้ำมาริกินาซึ่งอยู่ทางตะวันออกของกรุงมะนิลา ที่มีกระแสน้ำสีคล้ำ ไหลรวดเร็วและรุนแรง เข้าท่วมชุมชนในละแวกนั้น ด้วยระดับน้ำที่สูงเท่ากับกับอาคาร 1 ชั้นเป็นอย่างต่ำ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ใช้เรือบดยาง ซึ่งบางลำใช้เครื่องยนต์ บางลำใช้ฝีพาย เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วม

บรรดาผู้ประสบภัยพากันเกาะเชือกดึงตัวขึ้นสู่ที่สูงเพื่อความปลอดภัยและป้องกันไม่ให้ถูกกระแสน้ำที่ไหลแรงพัดพาไป ขณะที่ทหาร 2 นายที่มีส่วนร่วมกับการช่วยเหลือ นั่งอยู่ข้างบนรถบรรทุกของกองทัพที่ดูเหมือนจะจมน้ำจนใช้การไม่ได้แล้ว โดยมีหลังคาของรถคันอื่นๆ ที่มีขนาดเล็กกว่า ลอยผลุบๆ โผล่ๆ ขึ้นมาเหนือผิวน้ำ

เดล เดอ กัซแมน นายกเทศมนตรีของมากิรินา บอกกับทีวีท้องถิ่น "เอบีเอส-ซีบีเอ็น" ว่ามีชาวบ้านในเขตปกครองของเขาอย่างน้อย 27,000 รายที่ต้องอพยพหนีภัย

คิต นีโต นายกเทศมนตรีของเขตเกนตาที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งมีชาวบ้านต้องอพยพอีกกว่า 7,000 ราย บอกกับทางสถานีโทรทัศน์ดังกล่าวว่า สถานการณ์ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ระดับน้ำกำลังท่วมสูงขึ้น ทีมกู้ภัยกำลังช่วยผู้คนอยู่ในบริเวณที่เป็นเส้นทางสัญจรหลัก

ทางด้านรัฐมนตรีสวัสดิการสังคม "คอราซอน โซลิมาน" ระบุในการแถลงข่าวว่า โดยรวมแล้วมีประชาชนอย่างน้อย 50,000 ราย ทั้งในมะนิลาและบริเวณรอบๆ ที่ต้องอพยพหนีภัย

เกลีเน เดล โรซาริโอ ทนายความหญิงเจ้าของบังกาโลทางตอนเหนือของกรุงมะนิลา ที่โดนน้ำท่วมระดับอก ระบุว่า เธอโกรธมากที่ต้องเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ฝนตกหนัก

เธอกล่าวในขณะที่กำลังอุ้มสุนัข ว่าเธอและแม่ รวมถึงยายของเธอที่มีอายุ 80 แล้ว ต้องลุยน้ำตั้งแต่ไก่โห่เพื่อไปอาศัยอยู่บนชั้น 2 ของบ้านใกล้เคียง โดยมีสุนัขของเธออีก 2 ตัวว่ายน้ำไปด้วย

โดยเฉลี่ยแล้ว ในแต่ละปีจะมีพายุพัดถล่มฟิลิปปินส์ประมาณ 20 ลูก ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยราย ต้องทุกข์ยากอีกนับล้าน

ทั้งนี้ ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ซูเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับฟิลิปปินส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายกว่า 7,300 ราย

รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ประกาศให้หยุดการเรียนการสอนในวันศุกร์ (19 ก.ย.) และให้เจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องการการกู้ภัยและการแพทย์ฉุกเฉินหยุดงานกลับไปเฝ้าบ้าน ขณะที่บรรดาตลาดทุนต่างก็ปิดทำการ

คำแถลงของเจ้าหน้าที่สนามบินมะนิลา ระบุว่า ได้ยกเลิก 21 เที่ยวบินภายในประเทศ ทั้งยังมี 6 เที่ยวบินระหว่างประเทศที่ต้องบินไปลงยังสนามบินอื่น อันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่เลวร้าย

อลิสซา อัลเดีย เสมียนวัย 22 ปี ที่ตัวเปียกโชก ตัดสินใจกลับบ้านหลังจากที่พบว่าถนนด้านนอกของออฟฟิศที่เธอทำงานอยู่ ถูกน้ำท่วมมิดเข่า

"ฉันยอมถูกหักค่าจ้างดีกว่าที่จะต้องล้มป่วยเพราะลุยน้ำท่วม" เธอบอกกับเอเอฟพี ขณะที่กำลังคิดคำนึงถึงรถบัสที่จะพาเธอกลับบ้าน