เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เผยในวันจันทร์ (17 พ.ย.) ระบุ จำนวนผู้อพยพชาว “เอริเทรีย” ที่ต้องการลี้ภัยในยุโรปช่วง 10 เดือนแรกของปี 2014 นี้เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตัวเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว
ข้อมูลของยูเอ็นเอชซีอาร์ระบุ ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ จำนวนชาวเอริเทรีย ที่พยายามเดินทางออกนอกประเทศในฐานะผู้ลี้ภัยเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในทวีปยุโรปมีจำนวนสูงถึงเกือบ 37,000 คน ถือเป็นตัวเลขที่สูงกว่า 3 เท่าตัวเมื่อเทียบกับจำนวนเกือบ 13,000 รายในปีก่อน
รายงานข่าวระบุว่า ชาวเอริเทรียส่วนใหญ่ต้องการเดินทางไปลี้ภัยในสวีเดน เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ โดยส่วนใหญ่ใช้ช่องทางเดินทางทางบกผ่านประเทศเพื่อนบ้านอย่างเอธิโอเปียและซูดาน ก่อนจะไปลงเรือข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่ชายฝั่งแอฟริกาตอนเหนือเพื่อหาทางลักลอบเข้าสู่แผ่นดินยุโรปต่อไป โดยมีข้อมูลว่าราว 22 เปอร์เซ็นต์ของผู้อพยพทางเรือเหล่านี้เป็นชาวเอริเทรีย และส่วนใหญ่มุ่งหน้าไปยังชายฝั่งของอิตาลี
นอกจากนั้น ข้อมูลของยูเอ็นเอชซีอาร์ยังพบว่า ขณะนี้มีผู้อพยพชาวเอริเทรียมากกว่า 216,000 คน ที่ยังคงตกค้างอยู่ในเอธิโอเปียและซูดานด้วยเหตุผลต่างๆ ซึ่งรวมถึงการถูกทางการของทั้งสองประเทศควบคุมตัวไว้ในค่ายกักกัน
ทั้งนี้ เอริเทรียซึ่งเป็นบ้านของประชากรราว 6.5 ล้านคนถูกผนวกรวมเป็นส่วนหนึ่งของเอธิโอเปีย ตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ.1947 ก่อนมีการจัดลงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชในเดือนเมษายน ปี 1993 อย่างไรก็ดี การเป็นเอกราชของเอริเทรียมิได้ส่งผลให้ความเป็นปฏิปักษ์กับเอธิโอเปียจางหายไปแต่อย่างใด เห็นได้จากการเกิดสงครามใหญ่ระหว่างทั้งสองประเทศนานกว่า 3 ปีระหว่างปี 1998–2000
