เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีเอนดา เคนนี แห่งสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ชนะการลงมติไม่ไว้วางใจในวันอังคาร (9 ธ.ค.) แต่ถึงกระนั้นการถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีครึ่ง ของผู้นำรัฐบาลแดนยักษ์เขียว ได้สะท้อนถึงปัญหาที่รัฐบาลต้องเร่งหาทางแก้ไข
รายงานข่าวล่าสุดจากกรุงดับลินระบุว่า นายกรัฐมนตรีเคนนีได้รับคะแนนไว้วางใจให้บริหารประเทศต่อไป ด้วยคะแนน 86 ต่อ 55 เสียงจากสมาชิกรัฐสภาไอร์แลนด์ ขณะที่พรรคฝ่ายค้านระบุ แม้เคนนีจะรอดพ้นจากการลงมติไม่ไว้วางใจในสภาไปได้ แต่ผู้นำรัฐบาลไอร์แลนด์ยังคงต้องเผชิญกับ “ความไม่ไว้วางใจ” ของประชาชน
ทั้งนี้ รัฐบาลไอร์แลนด์ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีเอนดา เคนนี สามารถนำพาประเทศหลุดพ้นจากแผนรับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจจากสหภาพยุโรปได้เมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา และยังผลักดันให้เศรษฐกิจของไอร์แลนด์มีการเติบโตในอัตราที่สูงกว่าประเทศอื่นๆ ในยุโรป
อย่างไรก็ดี ปัญหาการฟื้นตัวที่ล่าช้าในหลายภาคส่วนทางเศรษฐกิจ รวมถึงความล้มเหลวของรัฐบาลในการแก้ปัญหาด้านแรงงานและสังคม กำลังฉุดรั้งให้คะแนนนิยมของรัฐบาลลดต่ำลง จนอาจนำไปสู่ความพ่ายแพ้แบบย่อยยับของรัฐบาลในการเลือกตั้งทั่วไปที่คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงต้นปี 2016
ทั้งนี้ สาธารณรัฐไอร์แลนด์เคยมีการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบร้อนแรงในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1995-2007 จนได้รับฉายาว่าเป็น “เสือเศรษฐกิจแห่งเซลติก” แต่วิกฤตในภาคการเงินที่เริ่มต้นเมื่อปี 2008 ส่งผลให้เศรษฐกิจแดนยักษ์เขียวประสบหายนะ จนอัตราการว่างงานและปัญหาอาชญากรรมเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว