เอเอฟพี - ธนาคารกลางรัสเซียเปิดเผยในวันนี้ (9 ธ.ค.) ว่าได้ใช้จ่ายเงินไปกว่า 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อพยุงค่าเงินรูเบิลของดินแดนหมีขาว ที่ร่วงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ตามราคาน้ำมันดิบ
ธนาคารแห่งประเทศรัสเซีย ระบุในวันนี้ (9 ธ.ค.) ว่าได้ยื่นมือเข้าแทรกแซง เพื่อพยุงค่าเงินรูเบิลในสัปดาห์ที่แล้ว โดยใช้เงินไป 700 ล้านดอลลาร์ในวันจันทร์ 1.9 พันล้านดอลลาร์ในวันพุธ กับอีก 1.9 พันล้านดอลลาร์ในวันศุกร์
ทั้งนี้ ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ธนาคารกลางของรัสเซียได้เปลี่ยนกลยุทธ์จากเดิมที่เคยเข้าแทรกแซงทุกครั้งที่ค่าเงินอ่อนตัว กลายมาเป็นเข้าพยุงค่าเงินเฉพาะกรณีที่พิจารณาดูแล้วว่ารูเบิลกำลังถูกคุกคาม เพื่อที่จะตอบโต้นักเก็งกำไรค่าเงิน
อย่างไรก็ตาม รัสเซียยังคงมีเงินทุนสำรองมากกว่า 4 แสนล้านดอลลาร์อยู่ในกระเป๋า แต่ถึงกระนั้น มันก็เป็นตัวเลขที่ลดลงถึง 20 เปอร์เซ็นต์จากที่เคยมีเมื่อช่วงต้นปีนี้ ซึ่งการร่อยหรอของเงินส่วนนี้นั้นมาจากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก กรณีวิกฤติการสู้รบในยูเครน รวมถึงผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ตกต่ำลง
อีกหนึ่งกลไกที่ธนาคารกลางรัสเซียใช้เพื่อเพิ่มเพิ่มความเข้มแข็งให้กับสกุลเงินรูเบิล ก็คือการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้น 4 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา ทำให้อัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันอยู่ที่ 9.5 เปอร์เซ็นต์ และอาจจะมีการเพิ่มให้สูงขึ้นไปอีกในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดี (11 ธ.ค.)
เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา สกุลเงินรูเบิลของรัสเซียมีมูลค่าที่ลดลงเกือบ 1 ใน 4 และยังคงมีแนวโน้มที่จะดำดิ่งต่อไปในเดือนธันวาคม โดยปัจจัยที่ฉุดค่าเงินรูเบิลให้อ่อนตัวลงนั้นก็คือการตกต่ำของราคาน้ำมันดิบและวิกฤติการสู้รบในยูเครน
รัสเซียเป็นประเทศที่พึ่งพารายได้จำนวนมหาศาลจากธุรกิจพลังงาน ซึ่งมากถึงครึ่งหนึ่งของผลผลิตมวลรวมของประเทศในแต่ละปี (จีดีพี)
ขณะที่ราคาน้ำมันในวันนี้ (9 ธ.ค.) ก็ยังคงดำดิ่งลงไปอยู่จุดต่ำสุดในรอบ 5 ปี ส่วนรูเบิลมีการเคลื่อนตัวอยู่ในวงแคบๆ ใกล้เคียงกับในสัปดาห์ที่แล้ว โดยเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. (16.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) ค่าเงินรูเบิลมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนกันที่ 54.23 รูเบิลต่อดอลลาร์ และ 67.05 รูเบิลต่อยูโร