กก.สิทธิมนุษยชนชี้ ออสซีถนัดส่งคนอะบอริจิน “เข้าคุก” มากกว่าเข้าโรงเรียน

เอเอฟพี - กรรมาธิการด้านสิทธิชาติพันธุ์ของออสเตรเลียวันนี้ (5 ธ.ค.) ชี้ว่า แดนจิงโจ้ถนัดเรื่องส่งคนอะบอริจินเข้าคุกมากกว่า ส่งพวกเขาเข้าโรงเรียน พร้อมกับระบุว่า ปรากฏการณ์นี้เป็นประเด็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร่งด่วน

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนออสเตรเลียระบุในรายงานว่า ในช่วง 10 ปีให้หลังมานี้ อัตราการคุมขังชาวอะบอริจินได้ขยับขึ้นสู่ที่ 58 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงกว่าอัตราการเข้าศึกษาของชาวอะบอริจิน นับตั้งแต่ปีการศึกษาแรกจวบจนสำเร็จการศึกษาภาคบังคับที่ 46.5 เปอร์เซ็นต์

มิก กูดดา กรรมาธิการด้านความยุติธรรมทางสังคมของชาวอะบอริจิน และชาวเกาะช่องแคบตอร์เรสระบุในรายงาน “ความยุติธรรมทางสังคมและสิทธิชนพื้นเมือง” (Social Justice and Native Title Report) ว่า “ผมว่านี่เป็นปรากฏการณ์ที่น่าตกตะลึง”

เขากล่าวสำทับ ขณะเปิดตัวรายงานฉบับนี้ว่า “เป็นเรื่องน่าละอายจริงๆ ที่เราถนัดเรื่องส่งคนอะบอริจินเข้าคุกมากกว่าเข้าโรงเรียนและมหาวิทยาลัย”

รายงานฉบับนี้ระบุว่า หนึ่งในประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนของออสเตรเลียที่จำเป็นต้องจัดการแก้ไขอย่างเร่งด่วนที่สุดคือ อัตราการกักขังชาวอะบอริจินที่สูงกว่าชนกลุ่มใหญ่ทั่วไปถึงราว 15 เท่า

กูดดา ระบุในรายงานว่า “เมื่อสำรวจดูในประเทศแล้ว พบว่าชาวเผ่าอะบอริจิน และชาวเกาะช่องแคบตอร์เรสมีแนวโน้มจะถูกจำคุกมากกว่าชาวออสเตรเลียที่ไม่ได้เป็นชาวชาติพันธุ์ถึง 15 เท่า ขณะที่เยาวชนที่ถูกคุมตัวในสถานพินิจก็เป็นชาวอะบอริจิน และชาวเกาะช่องแคบตอร์เรสไปแล้วครึ่งหนึ่ง”

“นอกจากนี้ ยังเป็นเรื่องรับไม่ได้เลยที่มีหญิงอะบอริจิน และหญิงชาวเกาะช่องแคบตอร์เรส ถูกส่งเข้าโรงพยาบาล เพราะตกเป็นเหยื่อการใช้ความรุนแรงในครอบครัวสูงกว่า หญิงที่ไม่ได้มีเชื้อสายชาติพันธุ์ถึง 31 เท่า”

ทั้งนี้ รายงานฉบับนี้เผยแพร่ออกมา หลังจากเดือนที่แล้ว คณะกรรมาธิการผลิตภาพของรัฐบาลออสซีพบว่า ในช่วงปี 2000 ถึง 2013 ที่ผ่านมา อัตราการคุมขังชาวชาติพันธุ์ที่บรรลุนิติภาวะแล้วพุ่งพรวดขึ้น 57 เปอร์เซ็นต์

กูดดาชี้ว่า “ผมคิดว่าเป็นเรื่องน่าเศร้า หากคุณลองนึกภาพเด็กๆ นั่งเรียนหนังสือในคุก แทนที่จะได้เข้าโรงเรียนมัธยมปลาย”

นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการชุดนี้ยังบอกด้วยว่า อัตราการจำคุกที่สูงเช่นนี้กำลังจะส่งผลกระทบโดยอ้อมต่อชนรุ่นหลัง

กูดดาตั้งข้อสังเกตว่า “เป็นที่รับรู้กันว่า คนที่มีคนที่บ้านหรือคนในครอบครัวติดคุกนั้นมีแววที่จะ (เจริญรอยตาม) ด้วยการติดคุกเสียเอง”

ทั้งนี้ ชาวอะบอริจิน ซึ่งมีจำนวนราว 500,000 คน จากประชากรทั้งหมด 23 ล้านคนในแดนจิงโจ้ คือกลุ่มคนที่ด้อยโอกาสมากที่สุดในออสเตรเลีย ดังสังเกตได้จากการที่พวกเขามีความเสียงที่จะเป็นโรคสูงกว่า เผชิญปัญหาสังคมมากกว่า ตลอดจนได้รับโอกาสทางการศึกษา และการจ้างงานที่ต่ำกว่า ทั้งยังมีช่วงอายุสั้นกว่าคนทั่วไป