xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ออสซี “ย้ายที่ทำการ” จากแคนเบอร์ราไปปักหลักในชุมชน “อะบอริจิน” นานนับสัปดาห์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรี โทนี แอบบ็อตต์ แห่งออสเตรเลีย ได้เปลี่ยนบรรยากาศจากการนั่งทำงานในออฟฟิศ มาตั้งเต็นท์ในชุมชนชาวอะบอริจินอันห่างไกลวันนี้ (15 ก.ย.) ซึ่งเป็นการทำตามสัญญาที่เขาเคยให้ไว้ตอนก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ แม้ว่าเขาจะเพิ่งตัดสินใจส่งกำลังทหารไปต่อสู้กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในตะวันออกกลางก็ตาม

แอบบ็อตต์เคยให้สัญญาไว้ว่า ทุกๆ ปีที่เขาจะย้ายมาปักหลักในชุมชนชาวอะบอริจินอันห่างไกลนาน 1 สัปดาห์ ตอนที่เขาสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อ 12 เดือนก่อน เพื่อให้ตัวเขาได้เป็น “นายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบกิจการให้ชาวอะบอริจิน”

เขาได้รักษาสัญญาด้วยการย้ายศูนย์กลางรัฐบาลในเมืองหลวงไปยังเต็นท์ในชุมชนแถบชานเมืองนูลอันบอย ดินแดนนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี ทางเหนือสุดของแดนจิงโจ้ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองดาร์วิน ไปทางตะวันออกเกือบ 1,000 กิโลเมตร

แม้ว่าตนเองจะอยู่ในพื้นที่ห่างไกล เขากล่าวว่าจะคอยติดต่อประสานงานกับส่วนราชการในกรุงแคนเบอร์ราอย่างใกล้ชิด และระบุว่าเขามีช่องทางสื่อสารที่เอื้ออำนวยต่อการปฏิบัติหน้าที่

หลังให้คำมั่นว่าจะส่งทหาร 600 นายไปเข้าร่วมกองกำลังนานาชาติเพื่อปราบปรามกลุ่มติดอาวุธมุสลิมสุหนี่ “รัฐอิสลาม” ในอิรักและซีเรียได้เพียงหนึ่งวัน เขาก็ให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุและโทรทัศน์เมื่อช่วงเช้าว่า “หากมีความคืบหน้าเร่งด่วน ผมก็สามารถกลับเข้าเมืองหลวงในยามจำเป็นได้อย่างแน่นอน”

การตัดสินใจเข้าร่วมภารกิจปราบปรามกลุ่มไอเอส มีขึ้นไม่กี่วันหลังแคนเบอร์รายกระดับการเตือนภัยก่อการร้ายเป็น “ขั้นสูง” ในช่วงที่ประเทศนี้วิตกกังวลว่าเหล่านักรบญิฮาดชาวออสเตรเลียที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับไอเอสในอิรักและซีเรียจะเดินทางกลับมาก่อเหตุไม่สงบในประเทศบ้านเกิดเมืองนอน

ทั้งนี้ ชาวอะบอริจินซึ่งมีจำนวนราว 500,000 คนจากจำนวนประชากร 23 ล้านคนทั่วออสเตรเลีย นับเป็นพลเมืองที่ด้อยโอกาสมากที่สุดในสังคม โดยพวกเขาต้องเผชิญโรคร้ายมากกว่าพลเมืองทั่วไปในแดนจิงโจ้ อีกทั้งถูกคุมขัง ประสบปัญหาสังคม ตลอดจนมีการศึกษาต่ำ ทั้งยังขาดโอกาสในหน้าที่การงาน และชีวิต

เมื่อ 2 ศตวรรษก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวอังกฤษเดินทางมาตั้งรกรากในออสเตรเลีย เชื่อกันว่ามีประชากรชาวอะบอริจินมากถึงราวหนึ่งล้านคน
นายกรัฐมนตรี โทนี แอบบ็อตต์ แห่งออสเตรเลีย
*** คนแปลกหน้าในประเทศตัวเอง ***

แอบบ็อตต์ ซึ่งเคยทำงานเป็นอาสาสมัครตามชุมชนชาติพันธุ์ก่อนจะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เขาต้องการให้ความสำคัญกับชาวอะบอริจินอย่างเต็มที่ “เพื่อให้ทราบถึงความต้องการของประชาชนที่อยู่อาศัยและทำงานในพื้นที่เหล่านั้น”

บรรดาสมาชิกรัฐสภาออสเตรเลีย ได้รับรองให้ชาวอะบอริจินมีฐานะเป็น “ชนกลุ่มแรก” ของออสเตรเลีย อย่างเป็นทางการเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญที่เกิดขึ้นหลังเมื่อ 5 ปีก่อน อดีตนายกรัฐมนตรี เควิน รัดด์ ออกมากล่าวขอโทษที่ชาวออสเตรเลียได้ล่วงเกินชาวอะบอริจิน ตั้งแต่สมัยที่กลุ่มผู้อพยพชาวอังกฤษเดินทางมาตั้งรกราก รวมไปถึงการที่รัฐบาลออสเตรเลียดำเนินนโยบายพรากเด็กๆ อะบอริจินออกจากพ่อแม่อยู่ช่วงหนึ่ง

ในเวลานี้ รัฐบาลออสซีกำลังวางแผนจะจัดการประชามติเพื่อรับรองสถานะและสิทธิของชาวอะบอริจินในรัฐธรรมนูญ

แอบบ็อตต์กล่าวเสริมว่า หนึ่งในภารกิจที่เขาต้องทำในสัปดาห์นี้คือ “การพยายามทำให้ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันให้มีเปลี่ยนแปลง โดยการเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้จะต้องสร้างความมั่นว่า ชนกลุ่มแรกในออสเตรเลียจะไม่รู้สึกว่าตนเป็นคนแปลกหน้าในประเทศตัวเองอีกต่อไป”

กำลังโหลดความคิดเห็น