แห่ร่วมพิธีศพวัยรุ่นหญิงเยอรมนีพลีชีพปกป้องเหยื่อข่มขืน-ร้อง รบ.มอบเครื่องราชฯ เชิดชู

เอเอฟพี - ชาวเยอรมนีในวันพุธ (3 ธ.ค.) หลั่งไหลไปร่วมพิธีศพของวัยรุ่นหญิงเชื้อสายตุรกีคนหนึ่ง ที่กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญ หลังเธอเสียสละชีวิตตนเองเพื่อปกป้องเด็กสาว 2 คน ให้พ้นจากการตกเป็นเหยื่อถูกรุมโทรม

มีเสียงเรียกร้องบนโลกออนไลน์และสื่อมวลชนของเยอรมนี ทูเช อัลไบรัก พลเมืองชาวเยอรมนีเชื้อสายตุรกี วัย 23 ปี ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์จากรัฐบาล จากความกล้าหาญเข้าช่วยเหลือเด็กสาว 2 คนที่กำลังตกเป็นเหยื่อถูกรุมข่มขืนในร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดแห่งหนึ่ง

รายงานข่าวระบุว่า นักศึกษาจากเมืองเกล์นเฮาเซินคนนี้ได้ตรงเข้าช่วยเหลือเด็กสาว 2 คนที่ถูกชาย 3 คนรุมขืนใจใกล้ห้องน้ำร้านแมคโดนัลด์ ภายหลังเธอได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ หลังจากนั้นชายคนหนึ่งก็วกกลับไปทำร้ายทูเช ที่ลานจอดรถของร้านฟาสต์ฟู้ด โดยเธอถูกชกจนล้มคว่ำหัวฟาดหิน สมองได้รับบาดเจ็บรุนแรงอาการโคม่า

ครอบครัวของเธอยอมให้ถอดเครื่องช่วยหายใจเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (28 พ.ย.) ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 23 ปีของเธอ กระตุ้นให้เกิดกระแสความสงสารทั่วเยอรมนี ไม่ว่าจะบนสื่อสังคมออนไลน์หรือสื่อมวลชนกระแสหลัก รวมถึงการแสดงความรังเกียจต่อกลุ่มคนร้ายอย่างกว้างขวาง

ณ พิธีศพซึ่งจัดขึ้นในวันพุธ (3 ธ.ค.) กระแสลมพัดธงชาติเยอรมนีและตุรกีปลิวไสว โดยมุขมนตรีแห่งรัฐเฮสเซและผู้ร่วมงานคนอื่นๆที่อยู่ในความโศกเศร้าพากันยืนสงบนิ่งท่ามกลางอุณหภูมิที่หนาวเหน็บเพื่อสวดมนต์ภาวนาในพิธีการแบบอิสลามที่จัดขึ้นด้านนอกมัสยิดที่เมืองเมืองวีชเตอร์สบัช ที่มีการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์เอ็นทีวี จากนั้นโลงศพถูกนำไปยังสุสานใกล้ๆ แบด โซเดน-ซัลมูเอ็นสเตอร์ ถิ่นกำเนิดของอัลไบรัก

ภาพจากกล้องวงจรปิดที่โพสต์บนโลกออนไลน์ เผยให้เห็นเหตุการณ์ที่ลานจอดรถในเมืองออฟเฟนบัช เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน อย่างไรก็ตามยังไม่ชัดเจนว่าหญิงสาว ที่ใฝ่ฝันอยากเป็นครู ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณศีรษะจากการถูกคนร้ายตีหรือว่าเป็นผลจากทีล้มศีรษะกระแทกพื้นหลังถูกทำร้าย ทั้งนี้ผู้ต้องสงสัยวัย 18 ปีอยู่ภายใต้การควบคุมของตำรวจและเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการสืบสวน

สื่อมวลชนพากันยกย่อง อัลไบรัก ผู้เป็นแบบอย่างในประเทศที่มีชนเชื้อสายตุรกีอยู่ราวๆ 3 ล้านคน ที่บ่อยครั้งมักประสบปัญหาอันเนื่องมาจากเป็นสังคมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ขณะที่ประธานาธิบดี โยอาคิม เกาค์ ส่งหนังสือถึงครอบครัวอัลไบรัก เพื่อแสดงความเสียใจต่อการจากไปของเธอ โดยบอกว่าเธอเป็นแบบอย่างแห่งความกล้าหาญ และเธอจะเป็นแบบอย่างของสังคมไปตลอดกาล

มีประชาชนมากกว่า 165,000 คน ลงนามในคำร้องทางออนไลน์ เรียกร้องรัฐบาลมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์แก่หญิงสาวรายนี้ ในเรื่องดังกล่าว นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี บอกว่าเห็นด้วยอย่างยิ่งกับความคิดนี้ แต่ระบุประเด็นการมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์อยู่ภายใต้การตัดสินใจของประธานาธิบดี