เอเอฟพี – องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกข้อเรียกร้องต่อจีนในวันนี้ (1) ขอให้มีการจัดการกับปัญหาเชื้อเอสไอวี/เอดส์ (HIV/AIDS) อย่างจริงจัง ขณะที่ตัวเลขของรัฐบาลเผยว่า ประชาชนเกือบครึ่งล้านใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเชื้อโรคชนิดนี้หรือสารตั้งต้นของมัน และคาดว่ายังมีอีกหลายแสนคนยังไม่ได้รับการวินิจฉัยโรค
เบิร์นฮาร์ด ชวาร์ทแลนเดอร์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกในจีน เขียนในบทความต่างความเห็นต่อบทบรรณาธิการ (op-ed) ในหนังสือพิมพ์ ไชน่า เดลีย์ ของทางการว่า “มีความจำเป็นอย่างมากที่จีนจะต้อง” ป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อและช่วยเหลือผู้ติดเชื้อเอชไอวีให้ดีกว่านี้
“บางทีสิ่งสำคัญที่สุดเลยคือการที่เราต้องทำให้ไม่มีการตราหน้าและการเลือกปฏิบัติต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี และต่อประชากรกลุ่มเสี่ยงอย่างเช่น ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย , ผู้ค้าบริการทางเพศ , และผู้ใช้สารเสพติดชนิดฉีด” เขาเขียน
“ผมเคยเห็นเพื่อนร่วมงานในสายอาชีพทางการแพทย์ของผมบางคนไม่รับวินิจฉัยผู้ป่วย เพราะว่าพวกเขาไม่ยอมรับรสนิยมทางเพศส่วนบุคคล นั่นเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้อย่างแน่นอนและต้องหยุดเสียที” เขาเสริม
บทความต่างความเห็นต่อบทบรรณาธิการของเขาถูกตีพิมพ์ในวันเอดส์โลก หนึ่งวันหลังจากคณะกรรมาธิการสาธารณสุขและการวางแผนครอบครัวแห่งชาติของจีนระบุว่า ภายในช่วงสิ้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีประชาชนในจีนได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์แล้วทั้งสิ้น 497,000 รายนับตั้งแต่กรณีแรกของประเทศนี้ในปี 1985
รายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากปี 2013 ซึ่งครั้งนั้นทราบว่ามีประชาชนในจีนติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ 434,000 ราย แต่ยังไม่แน่ชัดว่าตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นเพราะการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นหรือมีผู้ป่วยรับการวินิจฉัยมากขึ้นกันแน่
คณะกรรมาธิการชุดนี้ระบุว่า ตลอด 30 ปีที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตเพราะโรคเอดส์ไปแล้ว 154,000 ราย
เมื่อปีที่แล้วศูนย์ควบคุมและป้องกันเอดส์/โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แห่งชาติของจีน ประมาณการว่า จากจำนวนรวมของประชากรในประเทศ 1.36 พันล้านคน มีผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์มากถึง 810,000 ราย ในนี้รวมถึงผู้ที่ยังไม่ได้รับการวินิจฉัยด้วย
นั่นเป็นสัดส่วนที่ต่ำกว่ามากมายเมื่อเทียบกับอินเดีย ประเทศที่โครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) ระบุว่า มีประชาชนติดเชื้อเอชไอวีมากถึง 2 ล้านคน จากจำนวนประชากรที่น้อยกว่าเล็กน้อย แต่ UNAIDS ไม่ได้ระบุตัวเลขสำหรับจีน