xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” ให้กำลังใจ สปช. ย้ำรับฟังทุกฝ่าย ชักชวนแจ้งเบาะแสคนโกง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นายกฯ เชิญชวนคนไทยร่วมกิจกรรม “รักพ่อ” เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 87 พรรษา ที่จะจัดขึ้นทั่วประเทศ เผยจ่ายเงินชาวนาไร่ละพันแล้วกว่า 67,700 ราย พร้อมจ่ายให้ชาวสวนยางด้วยเช่นกัน ย้ำเป็นเพียงมาตรการระยะสั้น ซึ่งกำลังจัดทำมาตรการระยะยาวเพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ลั่นให้กำลังใจ สปช.ทำงานเพื่อชาติ ระบุปฏิรูปประเทศท่ามกลางความขัดแย้งเป็นเรื่องยาก ยันรับฟังความเห็นทุกฝ่าย ชักชวนแจ้งเบาะแสคนทุจริต


วันนี้ (31 ต.ค.) เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ “คืนความสุข ให้คนในชาติ” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีโอกาสเตรียมงานสำคัญที่เป็นความสุขของปวงชนชาวไทยทุกคน เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 87 พรรษา ที่จะมาบรรจบครบรอบในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ ได้มีการประชุมร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระองค์ท่านอย่างสมพระเกียรติ

ขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยทุกท่าน ร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ “รักพ่อ” ทุกหนแห่งที่ทางราชการจัดขึ้น ทั่วทั้งประเทศ สำหรับกรุงเทพมหานครจะจัดงานเฉลิมฉลอง ณ บริเวณท้องสนามหลวงและถนนราชดำเนินกลาง ในวันที่ 30 พ.ย. - 6 ธ.ค. 2557 ซึ่งจะมีการจัดแสดงกิจกรรมมากมาย หลายรูปแบบ ทั้งการเผยแพร่พระราชกรณียกิจ พระอัจฉริยภาพ พระเกียรติคุณ และโครงการตามพระราชดำริ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และกิจกรรมวัฒนธรรมท้องถิ่น การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของดี 77 จังหวัด

ในการแสดงออกถึงความจงรักภักดี เราสามารถทำความดีในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขอชื่นชม คุณสอิ้ง หาญประโคน อายุ 63 ปี ชาวจังหวัดแพร่ ที่ได้ดำเนินกิจกรรมวิ่งและเดินเท้า เพื่อถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และถวายพระพร ขอให้ทรงหายจากพระอาการพระประชวร โดยเริ่มเดินจากบ้านเกิดในจังหวัดแพร่ ตั้งแต่ 12 ต.ค. 57 และมาถึงโรงพยาบาลศิริราช เมื่อ 22 ต.ค. 57 รวมระยะทางกว่า 500 กิโลเมตร ใช้เวลา 11 วัน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร ก่อนหน้าที่ คสช. จะเข้ามานั้น ในภาคเกษตรหลายๆ ภาค ค่อนข้างมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นชาวนา ที่ไม่ได้รับเงินจากโครงการจำนำข้าว ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทั้งข้าว และยาง จากปัญหาผลผลิตที่มีจำนวนมาก และประเทศคู่ค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นยุโรป อเมริกา ต่างอยู่ในช่วงเศรษฐกิจซบเซา มีการชลอตัวทำให้มีการนำเข้าสินค้าผลผลิตทางการเกษตรลดลง หลังจากที่ คสช. และรัฐบาล ในปัจจุบัน ได้เข้ามา ก็มีความพยายามที่จะช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการช่วยเหลือพี่น้องชาวนา เริ่มตั้งแต่การอนุมัติให้เงินแก่ชาวนาที่ไม่ได้รับเงินจากโครงการจำนำข้าว ปีการผลิต 2556/57 ซึ่งได้ดำเนินการจ่ายเงินให้แก่พี่น้องชาวนาเสร็จสิ้นแล้ว เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เป็นจำนวนประมาณ 8 แสนราย คิดเป็นเงินกว่า 86,000 ล้านบาท

ในเรื่องของการอนุมัติโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2557 ซึ่งจะช่วยให้พี่น้องชาวนาได้รับเงินคุ้มครองถึง 1,111 บาทต่อไร่ หากเกิดภัยพิบัติ โดยพี่น้องชาวนาจ่ายค่าเบี้ยประกันเพียง 60-100 บาทต่อไร่ ขณะนี้ มีผู้เข้าร่วมโครงการจากทุกภาคทั่วประเทศกว่า 55,000 ราย คิดเป็นเนื้อที่กว่า 8 แสนไร่

มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ชาวนาผู้มีรายได้น้อย ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครอบครัวละ 15 ไร่ ซึ่งเริ่มดำเนินการในวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมาขณะนี้ชาวนาได้รับการช่วยเหลือไปแล้วกว่า 67,700 ราย คิดเป็นจำนวนเงินกว่า 837 ล้านบาท

มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรในเรื่องแหล่งเงินทุนต่างๆ เช่น โครงการลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบัน เกษตรกร

มาตรการลดค่าปัจจัยการผลิตและค่าบริการต่างๆ ทั้งปุ๋ยเคมี ยากำจัดศัตรูพืช เมล็ดพันธุ์ข้าว ค่าบริการเกี่ยวนวดข้าว ค่าเช่าที่นา และได้มีการออกตรวจสอบร้านค้า เพื่อควบคุมคุณภาพ

อย่างไรก็ตาม มาตรการเหล่านี้เป็นเพียงการช่วยเหลือระยะสั้นเท่านั้น ตนได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เตรียมการดำเนินการมาตรการในระยะยาวที่จะช่วยให้การปลูกข้าวเป็นไปอย่างยั่งยืน เช่น การจัดตั้งธนาคารเมล็ดพันธุ์ข้าว ธนาคารปุ๋ย การให้ความรู้ในการลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิตข้าว การทำเกษตรผสมผสาน การปลูกข้าวออร์แกนิค การจัดสรรแหล่งน้ำ และการจัดทำโซนนิ่ง หลายๆ เรื่องเป็นการวางรากฐานระยะยาวและต้องใช้เวลา ก็ขอให้พี่น้องเกษตรกรเข้าใจด้วย เราจะใช้การทำด้วยความสมัครใจ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ยางพาราก็เช่นเดียวกัน รัฐบาล และ คสช. พยายามที่จะพัฒนายางพาราทั้งระบบ ในหลายๆ เรื่องได้มีการประชุมและดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และได้เห็นชอบไปแล้ว เช่น การช่วยเหลือสนับสนุนค่าปัจจัยการผลิตเกษตรกรชาวสวนยางไร่ละ 1,000 บาทไม่เกินครอบครัวละ 15 ไร่ คาดว่าจะช่วยเกษตรกรชาวสวนยางได้ถึง 850,000 ครัวเรือน คิดเป็นพื้นที่ 8.2 ล้านไร่โครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคายาง 6,000 ล้านบาท โครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อเกษตรกรรายย่อยประกอบอาชีพเสริม รายละไม่เกิน 1 แสนบาท สินเชื่อเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในการรวบรวม สต๊อกยาง สินเชื่อเพื่อแปรรูปยางพารา

ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาจะต้องเป็นไปทั้งระบบและยั่งยืน นอกจากนั้นเราจะช่วยเรื่องแหล่งเงินทุนต่างๆ และการบริหารจัดการเพิ่มรายได้ในเบื้องต้น การจัดหาตลาดใหม่ ปรับเปลี่ยนการปลูกยางให้เหมาะสมกับพื้นที่ ลดพื้นที่ปลูกต้นยางเก่า สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องทำควบคู่กันกันไปด้วยนะรับ พร้อมกันกับการส่งเสริมการลงทุนการใช้ผลิตภัณฑ์ยางในประเทศ และการพัฒนานวัตกรรมจากวัตถุดิบยางในบ้านเราเอง ซึ่งขณะนี้ ก็ได้มีการพิจารณาจัดตั้งสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมยางและเพิ่มความร่วมมือกับประเทศผลิตยางในอาเซียนด้วยกันครับ ขอความร่วมมือจากบริษัทต่างๆ ในประเทศนี้ด้วย

นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า การดำเนินการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรนี้ ตนได้กำชับให้ดูแลให้รวดเร็ว ทั่วถึง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการตรวจสอบการดำเนินการให้เป็นไปอย่างโปร่งใส อย่าให้เดือดร้อนถึงพี่น้องเกษตรกรอย่าทุจริต เอาเปรียบผู้มีรายได้น้อยอีก

สำหรับการจัดระเบียบสังคมนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรถตู้ วินมอเตอร์ไซค์ ทางเท้าและที่สาธารณะอื่นๆรวมทั้งการเร่งจัดการขยะมูลฝอยสะสมและของเสียอันตราย ตนอยากให้หน่วยงานรับผิดชอบที่ได้ดำเนินการจัดระเบียบที่ผ่านมาคอยกำกับดูแล และติดตามผลงานที่ได้ทำไว้อย่างต่อเนื่อง อย่าให้เสียของเสียเวลา ทุกอย่างที่ได้ทำมาล้วนเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมทั้งสิ้น สังคมและประชาชนมีความคาดหวัง ให้พยายามเราได้พยายามต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวด้วยว่า เรื่องการปฏิรูปทั้ง 11 ด้าน ขอบคุณประธาน สปช. และ สปช.ทุกท่าน เห็นความตั้งใจในการทำงานเพื่อประเทศไทย คสช.และรัฐบาลให้กำลังใจ นำเรื่องติชมมาเป็นแรงใจในการทำงานต้องอดทน เสียสละ ตนรู้ว่าเป็นเรื่องที่ยากในการจะปฏิรูปประเทศในท่ามกลางความขัดแย้ง ยังมีบางคน บางพวก ยังมุ่งแต่จะรักษาผลประโยชน์ตนเอง ทั้งในวันนี้และในอนาคต ทุกท่านต้องช่วยกันอดทน

เรื่องที่ดีๆ มีอยู่หลายอย่าง เรียนอีกครั้งว่าการทำงานของรัฐบาลขณะนี้ก็คือ การปฏิรูป อย่างหนึ่งคือ ในระยะสั้น เฉพาะหน้า ต้องสอดคล้องกับหลัง 1 ปีไปแล้ว และทำต่อในรัฐบาลต่อไป นี่คือความต่อเนื่อง

รัฐบาลทุกรัฐบาลต้องมียุทธศาสตร์และนโยบายของประเทศระยะยาว มิฉะนั้นก็จะขัดแย้งกันไปมา เริ่มกันใหม่มาตลอด ประกอบกับการทุจริตผิดกฎหมาย ไม่โปร่งใสทุกขั้นตอน ซึ่งเรื่องเหล่านี้ เรากำลังนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม วันนี้ คสช.และรัฐบาลกำหนดมาตรการอะไรลงไป มีปัญหาหมด ปัญหามันซับซ้อน แล้วก็เดือดร้อน ยิ่งคิดใหม่ ยิ่งทำใหม่ ก็ต้องมาระแวงทุจริตกันอีก ก็คาดโทษกันไว้แล้วกัน ข้าราชการดีๆ เขาก็หวาดผวา ไม่กล้าทำอะไร กลัวถูกกล่าวหาว่าทุจริต ท่านต้องมั่นใจนะครับ อะไรที่ท่านคิดว่าท่านทำได้ถูกต้อง ท่านทำไป เป็นไปตามนโยบายท่านก็ต้องทำ ไม่ต้องกลัว ส่วนผู้ที่คอยทุจริตนั้น ก็ไม่เข้าใจว่าจ้องทำผิดตลอดเวลา จะเป็นกลุ่มประโยชน์แอบอ้าง คสช. อ้างรัฐบาล อ้างความใกล้ชิดคนโน้นคนนี้มาตลอด สังคมเราต้องช่วยกันเฝ้าระวัง ทำให้เห็นว่าการทุจริตเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ ไม่งั้นรัฐบาล ทำอะไรไม่ได้เลย จะเริ่มโครงการอะไรใหม่ก็เริ่มโจมตีกันแล้ว ทำให้การพัฒนาประเทศ การขับเคลื่อนประเทศ ช้าไปหมด ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เป็นปัญหาขณะนี้ ต้องรับฟัง ปัญหาทั้ง 2 ฝ่าย

“ผมรับทั้งสองฝ่าย อะไรที่ดีเราก็ต้องทำ อะไรที่ไม่ดี ข้อมูลไม่ตรงกัน ก็มาหาข้อมูลให้ตรงกัน จะทำยังไงต้องหาทางออกให้ได้ ไม่งั้นเราเสียเวลาไปเรื่อยๆ นะครับ ทุกอย่างก็กลับมาที่เดิม แล้วเราจะเสียเวลาต้องกลับมาทำงานหนักเป็น 2-3 เท่าต้องคอยคาดหวังไปเรื่องๆ ฉะนั้นต้องช่วยกันนะครับช่วยกันเฝ้าระวังแล้วส่งข้อมูลขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นข้อติชม ข้อเสนอแนะ หรือคนทุจริต ที่ไหน อะไร ยังไง ผมรับได้หมด” หัวหน้า คสช.กล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของเราค่อนข้างมีปัญหา เราจะต้องสร้างให้คนของเราอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ถ้าเรามัวแต่พูดถึงเรื่อง สิทธิ เสรีภาพ หรือประชาธิปไตย จนไร้ขีดจำกัด จนรวมกันไม่ได้ คิด พูด โดยไม่ทำขัดแย้งกันทุกเรื่อง ทำอะไรไม่ได้เลย ต้องหาทางรวมพลังเหล่านี้ให้ได้ ด้วยการสร้างความเข้าใจ ถ้าเราไม่ได้ ไม่ว่าจะปฏิรูปอีกกี่ครั้ง ตั้งสภาปฏิรูปกี่ครั้ง ก็ทำไม่ได้หรอก ประชาธิปไตยไทยนั้นถ้าสอนให้คนรู้จักแต่สิทธิ เสรีภาพ ไม่คำนึงถึงหน้าที่ ไม่รู้จักผลประโยชน์แห่งชาติว่า อยู่ที่ใด ถ้ายังคงเป็นอย่างนี้อยู่ต่อไป ตนก็ยังไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์สำหรับประเทศไทยเลย

ระบบการสอน การเรียนรู้ การให้แนวคิด ในสังคมปัจจุบัน ลองปรับอีกนิดนะครับ อย่าสอนให้เสรี ไม่รู้จักหน้าที่ ไม่รู้จักการให้เกียรติบุคคลอื่นบ้าง ไม่สอนให้เคารพกฎหมายต่อให้ กมธ.ร่างฯ, สปช.ออกแบบร่างรัฐธรรมนูญกันอย่างไรก็ไม่สำเร็จ เพราะทุกคนรู้สึกว่า ถูกบังคับ ไม่ยอม ก็เป็นอันตราย

ประชาธิปไตยของโลกสากล เขายังต้องมีกฎหมาย เคารพกฎหมาย ข้อบังคับ เราจะไม่มีเลยหรือ เราน่าจะออกแบบให้เป็นประชาธิปไตยที่เหมาะสมกับคนไทยนะครับ สอนให้มีสติ จะคิด จะเชื่อ ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงและความมีเหตุผล อย่าให้เขาใช้ความยากจน ความเหลื่อมล้ำมาเป็นเครื่องมือในทางด้านการเมืองอีกต่อไปเลย

คำต่อคำ : รายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” วันที่ 31 ตุลาคม 2557

“สวัสดี พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน พบกันเช่นเคยนะครับ ทุกๆ คืนวันศุกร์ สำหรับในสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมและรัฐบาลได้มีโอกาสเตรียมงานสำคัญที่เป็นความสุขของปวงชนชาวไทยทุกคน เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 87 พรรษา ที่จะมาบรรจบครบรอบในวันที่ 5 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ ได้มีการประชุมร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระองค์ท่านอย่างสมพระเกียรติ

ผมขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยทุกท่าน ร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ “รักพ่อ” ทุกหนแห่งที่ทางราชการจัดขึ้น ทั่วทั้งประเทศ สำหรับกรุงเทพมหานครจะจัดงานเฉลิมฉลอง ณ บริเวณท้องสนามหลวงและถนนราชดำเนินกลาง ในวันที่ 30 พ.ย. - 6 ธ.ค. 2557 ซึ่งจะมีการจัดแสดงกิจกรรมมากมาย หลายรูปแบบ ทั้งการเผยแพร่พระราชกรณียกิจ พระอัจฉริยภาพ พระเกียรติคุณ และโครงการตามพระราชดำริ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และกิจกรรมวัฒนธรรมท้องถิ่น การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของดี 77 จังหวัดครับ

ในการแสดงออกถึงความจงรักภักดี เราสามารถทำความดีในรูปแบบต่างๆ ผมขอชื่นชม คุณสอิ้ง หาญประโคน อายุ 63 ปี ชาวจังหวัดแพร่ ที่ได้ดำเนินกิจกรรมวิ่งและเดินเท้า เพื่อถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และถวายพระพร ขอให้ทรงหายจากพระอาการพระประชวร โดยเริ่มเดินจากบ้านเกิดในจังหวัดแพร่ ตั้งแต่ 12 ต.ค. 57 และมาถึงโรงพยาบาลศิริราช เมื่อ 22 ต.ค. 57 รวมระยะทางกว่า 500 กิโลเมตร ใช้เวลา 11 วัน

เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้พบกับผู้อำนวยการใหญ่โครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) และรองเลขาธิการสหประชาชาติ ซึ่งท่านได้กล่าวชื่นชมการดำเนินการ และบทบาทที่สำคัญของไทยในการแก้ปัญหาโรคเอดส์อย่างยั่งยืน และได้ยกย่องว่าประเทศไทยเป็นตัวอย่างที่ดีในภูมิภาคและโลกที่ได้ดำเนินการในด้านนี้อย่างจริงจังและสร้างสรรค์ ซึ่งประเทศต่างๆ ในภูมิภาคควรเรียนรู้จากไทย

จากสถิติที่ผ่านมาเราสามารถลดการติดเชื้อ HIVจากมารดาสู่ทารก ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทางโครงการเชื่อว่าไทยจะสามารถยุติการติดเชื้อรายใหม่ได้ภายในปี พ.ศ. 2563 นี่ก็เป็นข้อมูลที่ควรภาคภูมิใจและน่ายินดีน่ะครับ ผมก็อยากแสดงความขอบคุณต่อ ทุกองค์กรและบุคคลากรที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ที่นอกจากจะช่วยดูแลรักษาผู้ป่วยแล้ว ยังคงมีส่วนในการพัฒนาสังคมและเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยให้กับชาวต่างชาติอีกด้วย

ในโอกาสเดียวกันนี้ ผมได้ชี้แจงถึงความมุ่งมั่นของไทย ในการแก้ไขปัญหาโรคเอดส์ ที่เน้นการเข้าถึงการรักษา, การเข้าถึงยาโดยไม่คำนึงถึงระดับเม็ดโลหิตขาว, การเปิดพื้นที่ 19 จังหวัดเพื่อให้มีการใช้เข็มที่สะอาด, การเร่งพัฒนาระบบประกันสุขภาพให้แรงงานข้ามชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง

การดำเนินโครงการ เพื่อลดการติดเชื้อของผู้ใช้ยาเสพติด และการจัดสรรงบประมาณในการจัดการกับปัญหาโรคเอดส์ อย่างไรก็ดี ผมได้แจ้งไปว่าเรายังคงต้องการการสนับสนุนของกองทุนโลกเพื่อต่อสู้กับโรคติดต่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเอดส์ วัณโรค หรือโรคมาลาเรียต่อไป และที่สำคัญ ผมได้ชี้แจงความพร้อมของไทยที่จะเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคแลกเปลี่ยนข้อมูล ทักษะ ความรู้ และประสบการณ์ในการลดอัตราการติดเชื้อ HIV กับประเทศต่างๆ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของภูมิภาคในการจัดการกับโรคดังกล่าวอีกด้วยครับ

อีกโรคหนึ่งคือโรค อีโบล่า นะครับ เราก็คงต้องให้ความร่วมมือ แล้วก็สร้างควมร็ให้กับประชาชนทั่วไปด้วยนะครับ ต้องช่วยกันระมัดระวัง
ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเร่งด่วนที่สำคัญในห้วงที่ผ่านมา

ความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร

ก่อนหน้าที่ คสช. จะเข้ามานั้น ในภาคเกษตรหลายๆ ภาค ค่อนข้างมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องชาวนา ที่ไม่ได้รับเงินจากโครงการจำนำข้าว ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทั้งข้าว และยาง จากปัญหาผลผลิตที่มีจำนวนมาก และประเทศคู่ค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นยุโรป อเมริกา ต่างอยู่ในช่วงเศรษฐกิจซบเซา มีการชลอตัวทำให้มีการนำเข้าสินค้าผลผลิตทางการเกษตรลดลง
หลังจากที่ คสช. และรัฐบาล ในปัจจุบัน ได้เข้ามา ก็มีความพยายามที่จะช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการช่วยเหลือพี่น้องชาวนา

เริ่มตั้งแต่ การอนุมัติให้เงินแก่ชาวนาที่ไม่ได้รับเงินจากโครงการจำนำข้าว ปีการผลิต 2556/57 ซึ่งได้ดำเนินการจ่ายเงินให้แก่พี่น้องชาวนาเสร็จสิ้นแล้ว เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เป็นจำนวนประมาณ 8 แสนราย คิดเป็นเงินกว่า 86,000 ล้าน บาท

ในเรื่องของการอนุมัติโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2557 ซึ่งจะช่วยให้พี่น้องชาวนาได้รับเงินคุ้มครองถึง 1,111 บาทต่อไร่ หากเกิดภัยพิบัติ โดยพี่น้องชาวนาจ่ายค่าเบี้ยประกันเพียง 60-100 บาทต่อไร่ ขณะนี้ มีผู้เข้าร่วมโครงการจากทุกภาคทั่วประเทศกว่า 55,000 ราย คิดเป็นเนื้อที่กว่า 8 แสนไร่

มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ชาวนาผู้มีรายได้น้อย ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครอบครัวละ 15 ไร่ ซึ่งเริ่มดำเนินการในวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมาขณะนี้ชาวนาได้รับการช่วยเหลือไปแล้วกว่า 67,700 ราย คิดเป็นจำนวนเงินกว่า 837 ล้านบาท

มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรในเรื่องแหล่งเงินทุนต่างๆ เช่น โครงการลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบัน เกษตรกร

มาตรการลดค่าปัจจัยการผลิตและค่าบริการต่างๆ ทั้งปุ๋ยเคมี ยากำจัดศัตรูพืช เมล็ดพันธุ์ข้าว ค่าบริการเกี่ยวนวดข้าว ค่าเช่าที่นา และได้มีการออกตรวจสอบร้านค้า เพื่อควบคุมคุณภาพ

อย่างไรก็ตาม มาตรการเหล่านี้ เป็นเพียงการช่วยเหลือระยะสั้นเท่านั้น ผมได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เตรียมการดำเนินการมาตรการในระยะยาวที่จะช่วยให้การปลูกข้าวเป็นไปอย่างยั่งยืน เช่น การจัดตั้งธนาคารเมล็ดพันธุ์ข้าว ธนาคารปุ๋ย การให้ความรู้ในการลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิตข้าว การทำเกษตรผสมผสาน การปลูกข้าวออแกนิค การจัดสรรแหล่งน้ำ และการจัดทำโซนนิ่ง ซึ่งหลายๆ เรื่องเป็นการวางรากฐานระยะยาวและต้องใช้เวลา ก็ขอให้พี่น้องเกษตรกรเข้าใจด้วยครับ เราจะใช้การทำด้วยความสมัครใจนะครับ
ยางพาราก็เช่นเดียวกัน รัฐบาล และ คสช. พยายามที่จะพัฒนายางพาราทั้งระบบ ในหลายๆ เรื่องได้มีการประชุมและดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และได้เห็นชอบไปแล้ว เช่น

การช่วยเหลือสนับสนุนค่าปัจจัยการผลิตเกษตรกรชาวสวนยางรายละ 1,000 บาทไม่เกินครอบครัวละ 15 ไร่ คาดว่าจะช่วยเกษตรกรชาวสวนยางได้ถึง 850,000 ครัวเรือน คิดเป็นพื้นที่ 8.2 ล้านไร่โครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคายาง 6,000 ล้านบาท โครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อเกษตรกรรายย่อยประกอบอาชีพเสริม รายละไม่เกิน 1 แสนบาท สินเชื่อเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในการรวบรวม สต๊อกยาง สินเชื่อเพื่อแปรรูปยางพารา

ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาจะต้องเป็นไปทั้งระบบและยั่งยืน นอกจากนั้นเราจะช่วยเรื่องแหล่งเงินทุนต่างๆ และการบริหารจัดการเพิ่มรายได้ในเบื้องต้น การจัดหาตลาดใหม่ ปรับเปลี่ยนการปลูกยางให้เหมาะสมกับพื้นที่ ลดพื้นที่ปลูกต้นยางเก่า สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องทำควบคู่กันกันไปด้วยนะรับ พร้อมกันกับการส่งเสริมการลงทุนการใช้ผลิตภัณฑ์ยางในประเทศ และการพัฒนานวัตกรรมจากวัตถุดิบยางในบ้านเราเองนะครับ

ซึ่งขณะนี้ ก็ได้มีการพิจารณาจัดตั้งสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมยางและเพิ่มความร่วมมือกับประเทศผลิตยางในอาเซียนด้วยกันครับ ขอความร่วมมือจากบริษัทต่างๆ ในประเทศนี้ด้วยนะครับ

การดำเนินการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรนี้ ผมได้กำชับให้ดูแลให้รวดเร็ว ทั่วถึง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการตรวจสอบการดำเนินการให้เป็นไปอย่างโปร่งใส อย่าให้เดือดร้อนถึงพี่น้องเกษตรกรอย่าทุจริต เอาเปรียบผู้มีรายได้น้อยอีกเลยครับ

สำหรับการจัดระเบียบสังคมนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรถตู้ วินมอเตอร์ไซด์ ทางเท้าและที่สาธารณะอื่นๆรวมทั้งการเร่งจัดการขยะมูลฝอยสะสมและของเสียอันตราย ผมอยากให้หน่วยงานรับผิดชอบที่ได้ดำเนินการจัดระเบียบที่ผ่านมาคอยกำกับดูแล และติดตามผลงานที่ได้ทำไว้อย่างต่อเนื่อง อย่าให้เสียของเสียเวลา ทุกอย่างที่ได้ทำมาล้วนเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมทั้งสิ้น สังคมและประชาชนมีความคาดหวัง ให้พยายามเราได้พยายามต่อไป

เรื่องนี้ผมต้องขอความร่วมมือจากทุกคน ทุกฝ่ายน่ะครับ การที่เราจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้ผมเชื่อว่าเราจะต้องเคารพในกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ ที่มีอยู่ เราต้องสร้างวินัยของคนในชาติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการรักษาความสะอาด ทิ้งขยะให้ถูกที่ หรือการคัดแยกขยะ

ผมอยากให้ช่วยกันมองว่าเป็นหน้าที่ของประชาชนคนไทยทุกคน ต้องช่วยกันสร้างจิตสำนึก ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ จนหรือรวย มีอาชีพอะไรก็ตาม ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ พัฒนาสังคม และพัฒนาชุมชนของเรา ใครเห็นอะไรที่ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรม หรือมีข้อเสนอแนะรัฐบาลก็ขอให้แจ้งข้อมูลกับศูนย์ดำรงธรรมได้เลยครับ วันนี้รัฐบาลก็ให้มีการผ่อนผันผ่อนคลายอยู่บ้าง แต่จะทำเหมือนเดิมเป็นการถาวรคงทำไม่ได้ครับ

“ศูนย์ดำรงธรรม”และการรักษาความสงบปลอดภัย

เราได้ติดตาม รับทราบ ความลำบาก ความยากจน การถูกเอารัดเอาเปรียบ ความเหลื่อมล้ำต่างๆ ของประชาชนในทุกๆ ด้าน ปัญหาเชิงโครงสร้างเหล่านั้นสะสมมาเป็นเวลานาน ต้องใช้กลไกการแก้ปัญหาที่จะต้องบูรณาการหลายหน่วยงาน แต่ที่ผ่านมานั้นยังไม่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากรัฐบาลก็ยังไม่สามารถจะดำเนินการได้ในช่วงไร้เสถียรภาพด้านการเมือง

ปัจจุบันนับเป็นโอกาสที่พี่น้องประชาชนได้มีเข้าถึงระบบการบริหารงานของรัฐ ที่สะดวกและกระจายอยู่ทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ
โดยเฉพาะ “ศูนย์ดำรงธรรม” ซึ่งทาง คสช. ก็พร้อมที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องได้อย่างเบ็ดเสร็จ และตรงไปตรงมา เนื่องจากเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง โดย 4 เดือนที่ผ่านมา สถิติการดำเนินการแก้ปัญหาให้กับพี่น้อง เป็นที่น่าพอใจ โดยรับเรื่องราวร้องเรียนในรูปแบบต่างๆ จำนวน 211,797 รายการ และสามารถให้บริการแก้ปัญหาแล้วเสร็จ 191,797 ราย คิดเป็น 90.56%

ส่วนใหญ่เป็นรายการที่สามารถดำเนินการได้เลย เช่น การให้คำปรึกษา, การบริการข้อมูล, การบริการส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ การบริการแบบ One Stop Service

แต่ก็มีส่วนน้อยที่เป็นรายการก็ต้องใช้ระยะเวลาใช้งบประมาณในการสอบสวนหาข้อเท็จจริง จะต้องมีการประสานงานหลายหน่วยงานครับ กลไกที่มีประสิทธิภาพที่สุด คือ การจัดหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ของพลเรือน ตำรวจ ทหาร เข้าแก้ปัญหาเชิงรุก ปฏิบัติทันทีที่ได้รับการแจ้งเบาะแสและการขอความช่วยเหลือจากประชาชนครับ

การบริหารจัดการที่ดินทำกิน ผู้ไม่มีที่ดินทำกินและผู้มีรายได้น้อย ประสบปัญหาการเข้าไปบุกรุกเขตอุทยาน ป่าสงวนบ้าง บางกรณีก็เป็นข้อพิพาทว่ารัฐไปประกาศเขตป่าเขตอุทยานทับที่ดินทำกินชาวบ้าน หรือการจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก. ที่ไม่เป็นธรรมบ้าง ซึ่งก็ต้องมีกระบวนการพิสูจน์สิทธิ์เป็นกรณีๆ ไป

แต่เมื่อ คสช. เข้ามาบริหารประเทศก็เร่งดำเนินการ เป็นวาระแห่งชาติ โดยตั้ง “คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มี 6 กระทรวงที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมพิจารณาดำเนินการ คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, กระทรวงการคลัง, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงกลาโหม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการ

โดยเน้นการบริหารจัดการแบบบูรณาการ จะไปดูรูปแบบการจัดสรรที่ดินที่แต่ละหน่วยงานรับผิดชอบอยู่แล้วไม่เกิดประโยชน์ จะจัดสรรให้แก่เกษตรกรที่ไม่มีที่ทำกินได้อย่างไร โดยไม่ผิดกฎหมาย การให้สิทธิในการทำกินตรงนี้จะให้ในลักษณะสิทธิทำกินชุมชน จะไม่ให้เป็นรายบุคคลหรือให้กรรมสิทธิ์ซื้อขาย ซึ่งจะต้องมีการจัดแยกกลุ่มราษฎรที่ทำกินว่ากลุ่มใดสามารถอยู่ทำกินได้ กลุ่มใดไม่สามารถอยู่ทำกินได้

ในเรื่องของกฎหมาย ได้มีการให้รวบรวมจัดระเบียบกฎหมายที่ล้าสมัย ปรับปรุงร่างกฎหมายใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งการแก้ไขกฎหมายให้สอดคล้องกับหลักสากล

ได้รวบรวมตั้งแต่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยกลุ่มงานด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของ คสช. และได้ส่งมอบข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ให้กับ สนช. ดำเนินการเร่งปรับปรุงกฎหมายต่างๆ ที่คงค้างอยู่เป็นจำนวนมาก และรัฐบาลจะเร่งดำเนินการเสนอร่างกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ
รวมทั้งจะเปิดช่องทางให้ภาคประชาชน ธุรกิจ และเอกชน ได้มีส่วนร่วมในการดำเนินการแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการทำธุรกิจการค้าต่างๆ

ขณะนี้ได้เสนอร่างกฎหมายหลายประเภทด้วยกัน ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการเสนอร่าง37 เรื่อง ขั้นตอนพิจารณาร่างกฎหมาย 49 เรื่อง ขั้นตอนการพิจารณาของ สนช. 61 เรื่อง และ การประกาศใช้เป็นกฎหมายแล้ว 4 เรื่องกฎหมายเมื่อมีผลบังคับใช้ ไม่ใช่ว่าประกาศแล้วใช้เลย ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ต้องมีระยะเวลากำหนดให้เพียงพอในการทำความเข้าใจ ทั้งกับประชาชน และเจ้าหน้าที่ ด้วยนะครับ เช่น อาจจะ 60, 90 ,120 หรือ 180 วันตามนี้นะครับ
ผลการปฏิบัติงานของส่วนราชการต่างๆ

ผู้บัญชาการทหารบก และรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมจุดตรวจชลประทาน อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการทุ่งยางแดงโมเดล และให้ประเมินผลภายใน 3 เดือน หากได้ผลเป็นที่พอใจก็ให้ขยายไปสู่อำเภออื่นๆ ก็เป็นเรื่องของการบูรณาการ ประสานงานกันให้ใกล้ชิด และมีความรับผิดชอบที่ชัดเจน

กระทรวงศึกษา โดย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดสรรงบประมาณจำนวนกว่า 4 ล้านบาท เพื่อจัดสร้างอาคารเรียนชั่วคราวรวม 9 หลัง ให้กับโรงเรียนบ้านน้ำดำ โรงเรียนบ้านมะนังยง และโรงเรียนบ้านเขาดิน อ.ทุ่งยางแดง จ. ปัตตานี

ในส่วนสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา จัดโครงการ “เตรียมความพร้อมอาชีวศึกษา” นำร่องในสถานศึกษาอาชีวศึกษา จ.สมุทรปราการ 3 สถาบัน และ จ. ปทุมธานีหรือ จ.นนทบุรี 1 สถาบัน โดยคาดว่าจะมีนักศึกษาเข้าร่วมกว่า 300 คน เพื่อแก้ปัญหาพฤติกรรมนักศึกษา/นักเรียนก่อเหตุทะเลาะวิวาทใช้ความรุนแรง

ในส่วนคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ได้มีการประชุม 21 ต.ค. 57 เพื่อพิจารณาโครงการลงทุนจำนวน 115 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุนกว่า 102,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการที่เป็นกิจการขนาดใหญ่ จำนวน 24 โครงการ เงินลงทุนรวมกว่า 90,000 ล้านบาท เช่น การผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรืออีโคคาร์ระยะที่ 2 และโครงการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น การพิจารณาอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในกิจการขนาดเล็ก และขนาดกลาง จำนวนทั้งสิ้น 91 โครงการ เงินลงทุนรวม 12,425 ล้านบาท

เรื่องขอความร่วมมือ เพื่อสร้างความเข้าใจ
เรื่องการปฏิรูปทั้ง 11 ด้าน ขอบคุณท่านประธาน สปช. และ สปช.ทุกท่าน เห็นความตั้งใจในการทำงาน เพื่อประเทศไทย คนไทย คสช. และรัฐบาลให้กำลังใจครับ นำเรื่องติชมมาเป็นแรงใจในการทำงานต้องอดทน เสียสละนะครับ ผมรู้ว่าเป็นเรื่องที่ยากในการจะปฏิรูปประเทศในท่ามกลางความขัดแย้ง ยังมีบางคน บางพวก ยังมุ่งแต่จะรักษาผลประโยชน์ตนเอง ทั้งในวันนี้และในอนาคต ทุกท่านต้องช่วยกันอดทนนะครับ

เรื่องที่ดีๆ มีอยู่หลายอย่างครับ เรียนอีกครั้งว่า การทำงานของรัฐบาลขณะนี้ก็คือ การปฏิรูป อย่างหนึ่งคือ ในระยะสั้น / เฉพาะหน้า ต้องสอดคล้องกับหลัง 1 ปีไปแล้ว และทำต่อในรัฐบาลต่อไป นี่คือความต่อเนื่อง

รัฐบาลทุกรัฐบาลต้องมียุทธศาสตร์และนโยบายของประเทศระยะยาว มิฉะนั้นก็จะขัดแย้งกันไปมา เริ่มกันใหม่มาตลอด ประกอบกับการทุจริตผิดกฎหมาย ไม่โปร่งใสทุกขั้นตอน ซึ่งเรื่องเหล่านี้ เรากำลังนำเข้าสู่ขบวนการ ยุติธรรม นะครับ วันนี้ คสช. / รัฐบาลกำหนดมาตรการอะไรลงไป มีปัญหาหมดนะครับ ปัญหามันซับซ้อน แล้วก็เดือดร้อน ยิ่งคิดใหม่ ยิ่งทำใหม่ ก็ต้องมาระแวงทุจริตกันอีก ก็คาดโทษกันไว้แล้วกัน ข้าราชการดีๆ เขาก็หวาดผวา ไม่กล้าทำอะไร กลัวถูกกล่าวหาว่าทุจริต ท่านต้องมั่นใจนะครับ อะไรที่ท่านคิดว่าท่านทำได้ถูกต้อง ท่านทำไป เป็นไปตามนโยบายท่านก็ต้องทำ ไม่ต้องกลัว ส่วนผู้ที่คอยทุจริตนั้น

ผมก็ไม่เข้าใจว่า จ้องทำผิดตลอดเวลา จะเป็นกลุ่มประโยชน์แอบอ้าง คสช. อ้างรัฐบาล อ้างความใกล้ชิดคนโน้นคนนี้มาตลอด
สังคมเราต้องช่วยกันเฝ้าระวัง ทำให้เห็นว่าการทุจริตเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจนะครับ ไม่งั้นรัฐบาล ทำอะไรไม่ได้เลย

จะเริ่มโครงการอะไรใหม่ก็เริ่มโจมตีกันแล้ว ทำให้การพัฒนาประเทศ การขับเคลื่อนประเทศ ช้าไปหมด ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เป็นปัญหาขณะนี้ ต้องรับฟัง ปัญหาทั้ง 2 ฝ่าย

ผมรับทั้ง 2 ฝ่าย อะไรที่ดีเราก็ต้องทำ อะไรที่ไม่ดี ข้อมูลไม่ตรงกัน ก็มาหาข้อมูลให้ตรงกัน จะทำยังไงต้องหาทางออกให้ได้ ไม่งั้นเราเสียเวบาไปเรื่อยๆ นะครับ ทุกอย่างก็กลับมาที่เดิม แล้วเราจะเสียเวลาต้องกลับมาทำงานหนักเป็น 2-3 เท่าต้องคอยคาดหวังไปเรื่องๆ

ฉะนั้นต้องช่วยกันนะครับช่วยกันเฝ้าระวังแล้วส่งข้อมูลขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นข้อติชม ข้อเสนอแนะ หรือคนทุจริต ที่ไหน อะไร ยังไง ผมรับได้หมด

อีกประเด็นที่สำคัญ คือ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของเราค่อนข้างมีปัญหา เราจะต้องสร้างให้คนของเราอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ถ้าเรามัวแต่พูดถึงเรื่อง สิทธิ เสรีภาพ หรือประชาธิปไตย จนไร้ขีดจำกัด จนรวมกันไม่ได้ คิด พูด โดยไม่ทำ

ขัดแย้งกันทุกเรื่อง ทำอะไรไม่ได้เลย ต้องหาทางรวมพลังเหล่านี้ให้ได้ ด้วยการสร้างความเข้าใจ ถ้าเราทไม่ได้ ไม่ว่าจะปฏิรูปอีกกี่ครั้ง ตั้งสภาปฏิรูปกี่ครั้ง ก็ทำไม่ได้หรอกครับ แก้อะไรไม่ได้ ประชาธิปไตยไทยนั้นถ้าสอนให้คนรู้จักแต่สิทธิ เสรีภาพ ไม่คำนึงถึงหน้าที่ ไม่รู้จักผลประโยชน์แห่งชาติว่า อยู่ที่ใด ถ้ายังคงเป็นอย่างนี้อยู่ต่อไป ผมก็ยังไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์สำหรับประเทศไทยเลยครับ

ระบบการสอน การเรียนรู้ การให้แนวคิด ในสังคมปัจจุบัน ลองปรับอีกนิดนะครับ อย่าสอนให้เสรี ไม่รู้จักหน้าที่ ไม่รู้จักการให้เกียรติบุคคลอื่นบ้าง / ไม่สอนให้เคารพกฎหมายต่อให้ กมธ.ร่างฯ,สปช.ออกแบบร่างรัฐธรรมนูญกันอย่างไรก็ไม่สำเร็จ เพราะทุกคนรู้สึกว่า ถูกบังคับ ไม่ยอม ก็เป็นอันตราย

ประชาธิปไตยของโลกสากล เขายังต้องมีกฎหมาย เคารพกฎหมาย ข้อบังคับ / เราจะไม่มีเลยหรือ เราน่าจะออกแบบให้เป็นประชาธิปไตยที่เหมาะสมกับคนไทยนะครับ สอนให้มีสติ จะคิด จะเชื่อ ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงและความมีเหตุผลครับ อย่าให้เขาใช้ความยากจน ความเหลื่อมล้ำมาเป็นเครื่องมือในทางด้านการเมืองอีกต่อไปเลยนะครับ

มีอีกหลายเรื่องที่ยังรอให้รัฐบาลดำเนินการ ล้วนเป็นเรื่องใหญ่ๆ และมีความสำคัญต่อการปฏิรูปประเทศครับ

ทั้งนี้ ก็เพื่อสร้างอนาคตที่ดี และเตรียมความพร้อมให้กับประเทศ ให้กับรัฐบาลต่อไปเข้ามาสานต่อ ล้วนแต่เป็นสิ่งที่รัฐบาลปกติทำได้ยาก เพราะเป็นเรื่องการเมืองและผลประโยชน์

แต่รัฐบาลนี้จะวางรากฐานที่มั่นคงไว้ให้ครับ สิ่งที่คิดและจะดำเนินการต่อไป ได้แก่

วางยุทธศาสตร์ประเทศ ในการสร้างความสัมพันธ์ประเทศเพื่อนบ้าน/สร้างความเข้มแข็งทางด้านการค้า เศรษฐกิจ ทั้งนำเข้า-ส่งออก วางยุทธศาสตร์ชาติ/จัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการกลุ่มงาน จัดตั้งคณะกรรมการมากกว่า 11 คณะ เพื่อปรับปรุงการทำงาน+การใช้จ่าย สร้างความเข้าใจ/พัฒนาระบบราชการ ฯลฯ ร่างแผนภาษี/บริหารจัดการพลังงาน ฯลฯ จัดการเรื่องการบุกรุกป่า/ไม่มีที่ดินทำกิน

เหล่านี้ทำให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำ คนรวยก็รวยมาก คนจนก็จนมาก ทำอย่างไรให้ทั้งสองส่วนนี้ไม่มีความเหลื่อมล้ำหรือมีความแตกต่างให้น้อยที่สุด ดูแลซึ่งกันและกันเราจะได้ดำรงชีวิตได้อย่างพอเพียง ตามปรัญชาพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ในสัปดาห์นี้ ผมรู้สึกดีใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสเลี้ยงขอบคุณนักกีฬาไทยทุก ที่รอมานานแล้ว เราต้องรอให้ครบทั้ง 4 คณะนะครับ ซึ่งได้นำพาความสุข ความภาคภูมิใจ และชื่อเสียงมาให้กับพี่น้องชาวไทยทุกคน

ในช่วงการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ เอเชียนพาราเกมส์ ยูธเกมส์ ฟุตบอลหญิงที่เพิ่งจะผ่านไป นักกีฬาทุกคนได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ในการแข่งขันกีฬา

ที่เป็นธรรมดาต้องมีทั้งแพ้และชนะ แต่ที่สำคัญทุกท่านได้แสดงให้เห็นถึงสปิริทของความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้รู้ชนะรู้อภัย เคารพกฎกติกา เป็นตัวอย่างและแรงบันดาลใจที่ดีให้กับเยาชนไทยอีกหลายๆ คน ทางรัฐบาลยินดีและมีความตั้งใจที่จะสนับสนุนการพัฒนาด้านการกีฬาของประเทศไทยต่อไป

ก็อยากจะให้เพิ่มเติมในเรื่องของโรงเรียนกีฬา หรือส่วนที่เอาคนที่ชอบกีฬามาเรียนในโรงเรียนของรัฐด้วยนะครับ เพื่อที่จะได้พัฒนาต่อไปในอนาคต ไม่งั้นเราสู้เขาไม่ได้ เรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬาอะไรเหล่านี้ ต้องใช้งบประมาณสูงนะครับ

ส่วนความภาคภูมิใจล่าสุดของคนไทย คือผลการแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียนครั้งที่ 10 ที่จัดขึ้นที่ประเทศเวียดนาม โดยเยาวชนไทยได้รับเหรียญรางวัลถึง 6 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง และใบประกาศนียบัตรรับรองความสามารถอีก 12 คน ถือเป็นการแสดงศักยภาพของเยาวชนไทยในระดับนานาชาติ และควรต้องสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง ผมขอแสดงความยินดีกับเยาวชนไทยทุกคนที่ได้เป็นตัวแทนเข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้ด้วยครับ

สำหรับแรงงานนี้ ผมว่าคงจะต้องพัฒนาในเรื่องภาษาด้วย ทุกประเทศที่มาลงทุนในประเทศไทย ชื่นชมแรงงานของไทยว่าเข้มแข็ง มีฝีมือแต่มีอย่างเดียวที่เขาอยากให้แก้ไขมากที่สุดคือเรื่องภาษา เพราะว่าพูดภาษากันไม่รู้เรื่อง ภาษาอังกฤษนะครับ สำคัญ.. แล้วก็จะได้พัฒนาตัวเองไปสู่ระดับบริหารได้ด้วย ขอให้เร่งพัฒนาเพื่อรองรับ AEC ในปีหน้านี้ด้วยนะครับ

อีกไม่กี่วัน ก็จะเข้าสู่เทศกาล “ลอยกระทง” 6 พ.ย. 57 ผมก็ขอกำชับล่วงหน้า ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ออกตรวจตรา เตรียมการ ดูแลความปลอดภัยสถานที่จัดงานประเพณีลอยกระทงหรือจัดกิจกรรมรื่นเริง ที่มีคนจำนวนมาก ความมั่นคงแข็งแรงของท่าเทียบเรือ การสัญจรทางน้ำ อุปกรณ์กู้ชีพ รวมทั้งตรวจตราร้านผลิต ร้านจำหน่ายดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด ด้วยว่าผู้ได้รับอนุญาตปฏิบัติตามเงื่อนไขในใบอนุญาตหรือไม่ รวมทั้งการขนย้ายด้วย หากพบว่าไม่ได้ปฏิบัติตามให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

รวมทั้งตรวจตราสถานบริการ สถานบันเทิง สวนสาธารณะ โรงแรม หอพัก มิให้เป็นแหล่งมั่วสุมของเยาวชน หากพบว่าเจ้าของสถานประกอบการ หรือผู้จัดงาน ปล่อยปละละเลยให้เด็กเข้าใช้บริการ แล้วเกิดอันตรายหรือเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงอะไรก็แล้วแต่ ถือต้องรับผิดชอบด้วยนะครับมีความผิด ขอให้ทุกคนร่วมกันกวดขันร่วมกับรัฐ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ด้วย

การกวดขันมิให้มีการจำหน่ายสุรานอกสถานที่และเวลาที่กำหนด การเมาแล้วขับ ทั้งหลายทั้งปวง ก็ให้ให้กวดขันกันแต่เนิ่นๆ เพราะอีกไม่กี่เดือนก็จะถึง “เทศกาลปีใหม่” อีกแล้ว ปีนี้เราก็หยุดถึง 5 วัน นะครับเพราะงั้นจะเห็นว่ามีการหยุดระยะยาวต่อเนื่องมาโดยตลอด เพราะงั้น ต้องระมัดระวังการสูญเสีย จากอุบัติภัยทั้งหลายทั้งปวงนะครับ สถิติเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทุกปีมากมาย

เพราะฉะนั้นเราต้องทำให้เป็นกิจวัตรนะครับ ต้องทำให้เป็นนิสัย มิใช่ถึงเทศกาลเมื่อใดก็มารณรงค์กันเป็นครั้งๆ เสียงบประมาณ เสียเวลา เราต้องแก้ไขด้วยมาตรการป้องกันให้ได้ ไม่ใช่เกิดเรื่องแล้วมาล้อมคอก เป็นวัวหายล้อมคอกที่หลัง

ผู้ประกอบการ/ผู้จัดงานก็ต้องร่วมรับผิดชอบในอันตรายด้วย ส่วนผู้ปกครองก็ต้องให้ความร่วมมือในการกวดขันดูแลบุตรหลานให้ใช้ความระมัดระวังในช่วงเทศกาลลอยกระทงเป็นพิเศษด้วยครับ ขอให้ทุกคนมีความสุขนะครับ ขอบพระคุณครับ สวัสดีครับ”
กำลังโหลดความคิดเห็น