เชียงราย – สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย นัดพร้อมองค์กรเครือข่ายพรุ่งนี้(30 พ.ย.) ร่วมจัดกิจกรรมต้านเอดส์ครั้งใหญ่ หลังสถิติผู้ป่วยจนถึงสิ้นเดือนตุลาฯ 57 มีมากกว่า 1.7 หมื่นราย
นายแพทย์สุรินทร์ สุมนาพันธ์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย เปิดเผยว่า องค์การอนามัยโลก (World Health Organization (WHO)) และองค์กรเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) ได้กำหนดให้วันที่ 1 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันเอดส์โลก และในปีนี้กรมควบคุมโรคได้กำหนดกรอบหลัก (Theme)ในการรณรงค์วันเอดส์โลกคือ ”ไม่ติด ไม่ตาย ไม่ตีตรา ยุติปัญหาเอดส์และเพศสัมพันธ์ “
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างกระแสความตื่นตัวและส่งเสริมให้เกิดความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง เกี่ยวกับปัญหาการแพร่ระบาด ภัยคุกคามและผลกระทบจากโรคเอดส์และเพศสัมพันธ์ ในกลุ่มประชาชนทั่วไปและเยาวชน
สถานการณ์เอดส์ จ.เชียงราย จนเดือนตุลาคม 2557 มีผู้ป่วยเอดส์ที่ขึ้นทะเบียน 17,205 ราย เสียชีวิต1,675 ราย จำนวนผู้ป่วยรับยาต้านไวรัส 14,476 ราย เสียชีวิต 876 ราย
ดังนั้น เพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนให้ประชาชนชาวเชียงรายได้ทราบถึงปัญหาและเล็งเห็นถึงความสำคัญต่อสถานการณ์เอดส์ สำนักงานสาธารณสุขฯ จะร่วมกับเครือข่ายการทำงานด้านเอดส์ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ภาคธุรกิจ องค์กรชุมชน เครือข่ายผู้ติดเชื้อ เครือข่ายเยาวชน จัดกิจกรรมรณรงค์วันเอดส์โลกขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 30 พ.ย.นี้ บริเวณลานรำวง สันโค้งน้อยถนนคนม่วน บริเวณหน้าวัดเชตุพน ชุมชนสันโค้งน้อย ตั้งแต่เวลา 16.00–19.00 น.
โดยจะมีการการแสดงโชว์ของสภาเด็กและเยาวชน , ฟ้อนรำเจิง , การแสดงดนตรีจากศูนย์เพื่อน้องหญิง , การออกร้านนิทรรศการจากหน่วยงานต่างๆ , การถาม-ตอบปัญหาเอดส์ และจับฉลากแจกรางวัลด้วย
ทั้งนี้โครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ คาดว่าในปี 2556 มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีทั่วโลก 35.3 ล้านคน เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ 2.1 ล้านคน มีผู้เสียชีวิตเนื่องจากเอดส์ 1.5 ล้านคน โดย 19 ล้านคนจาก 35 ล้านคน ของผู้ติดเชื้อเอชไอวี ยังไม่ทราบสถานะและการติดเชื้อของตนเอง
ขณะที่สถานการณ์ระบาดของเชื้อเอชไอวีในประเทศไทยปี 2557 พบว่า ตั้งแต่เริ่มพบผู้ป่วยรายแรกจนถึงปัจจุบัน คาดว่า มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์สะสมประมาณ 1,194,515 คน ในจำนวนนี้ยังมีชีวิตอยู่ 438,629 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7,695 คน ร้อยละ 90 ติดจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน โดยกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น , พนักงานบริการทางเพศมีแนวโน้มลดลง , กลุ่มผู้ใช้สารเสพติดชนิดฉีด ติดเชื้อสูงกว่าทุกกลุ่ม