ซีเรียชี้! ปฏิบัติการถล่ม “ไอเอส” ของกลุ่มพันธมิตรไม่ได้ผล

รอยเตอร์ – รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศซีเรียกล่าวว่า การโจมตีทางอากาศที่นำโดยสหรัฐฯไม่อาจทำให้กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรียอ่อนแอลงได้และนักรบญิฮาดกลุ่มนี้จะไม่มีทางถูกกำราบ หากไม่บังคับให้ตุรกีควบคุมพรมแดนอย่างแน่นหนา

กลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯเปิดฉากโจมตีเป้าหมายกลุ่มไอเอสในซีเรียในเดือนกันยายน ในฐานะส่วนหนึ่งของความพยายามที่ทำลายอดีตเครือข่ายอัลกออิดะห์กลุ่มนี้ที่เข้ายึดครองดินแดนกว้างขวางในทั้งซีเรียและเพื่อนบ้านอย่างอิรัก

“สัญญาณทุกอย่างบ่งชี้ว่า (ไอเอส) ในวันนี้ (29) ภายหลังการโจมตีของกลุ่มพันธมิตรดำเนินมาสองเดือน ไม่ได้อ่อนแอลงเลย” วาลิด อัล-มูอาเล็ม รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศซีเรียกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ อัลมายาดีน ซึ่งมีฐานอยู่ในกรุงเบรุต

รัฐบาลซีเรียระบุว่า พวกเขามีความตั้งใจที่จะร่วมสู้กับกลุ่มไอเอสเสมอ แต่สหรัฐฯปฏิเสธที่จะทำข้อตกลงกับประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้ซึ่งฝ่ายวอชิงตันระบุว่า ได้สุญเสียความชอบธรรมไปแล้วและต้องออกจากอำนาจ

“หากคณะมนตรีความมั่นคงและวอชิงตันไม่บีบบังคับให้ตุรกีควบคุมชายแดนต่างๆ ของพวกเขาแล้วล่ะก็ ปฏิบัติการทั้งหลายเหล่านี้จะไม่มีทางโค่นล้มไอเอสได้” มูอาเล็ม กล่าว โดยอ้างถึง พวกนักรบญิฮาดต่างชาติที่ข้ามจากตุรกีเข้ามายังซีเรีย

ตุรกี ซึ่งมีพรมแดนร่วมกับซีเรีย 900 กิโลเมตร ยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวที่ว่าพวกเขาหนุนหลังพวกนักรบอิสลามิสต์ ในความพยายามที่จะช่วยกลุ่มกบฏโค่นอำนาจ อัสซาด ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม

นักรบต่างชาติเชื่อว่าได้เข้าร่วมกับกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์นี้แล้วหลายพันคนในดินแดน “คอลิฟะห์” ที่พวกเขาสภาปนาขึ้นเอง ซึ่งมีอาณาเขตคร่อมภาคตะวันออกของซีเรียและภาคตะวันตกของอิรัก

มูอาเล็ม กล่าวว่า การที่ตุรกีเรียกร้องให้กำหนดเขตห้ามบินในภาคเหนือของซีเรียจะทำให้เกิดกำแพงแบ่งแยกประเทศนี้ออกจากกัน และเสริมว่า ตุรกีหมายปองดินแดนของซีเรีย

ตุรกี กล่าวย้ำหลายครั้งว่า เขตห้ามบินจะทำให้เกิดพื้นที่ปลอดภัยในซีเรีย และเอื้อต่อการส่งผู้ลี้ภัยชาวซีเรียในตุรกีกลับประเทศ แนวคิดนี้ของตุรกีได้รับการตอบรับอย่างดีจากบรรดาพันธมิตรของตน พลเอกนายหนึ่งขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) กล่าวในสัปดาห์นี้ว่า แนวคิดนี้ยังไม่ได้ถูกยกมาพิจารณา

มูอาเล็ม ได้จัดการเจรจากับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียและ เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศที่ทะเลดำ ในฐานะส่วนหนึ่งของการผลักดันทางการทูตของรัสเซียเพื่อที่จะเริ่มต้นการเจรจาสันติภาพเกี่ยวกับความขัดแย้งในซีเรียใหม่อีกครั้ง

ความพยายามดังกล่าวมีแนวโน้มว่าจะไปได้ไม่ไกลนัก เพราะรัสเซียปฏิเสธข้อเรียกร้องจากฝ่ายต่อต้านฝั่งซีเรีย , ตะวันตก และอาหรับที่จะให้ อัสซาด ลงจากตำแหน่งโดยทันที โดย มูอาเล็ม กล่าวว่า “หลังจากหารือกับฝ่ายรัสเซีย เราเห็นพ้องกันว่าการเจรจาจะฝ่ายคัดค้านในชาติที่ไม่เกี่ยวโยงกับคนนอก”