รอยเตอร์/เอเอฟพี - น้ำมันดิบเบรนต์ดิ่งลงหนักกว่า 5 ดอลลาร์ เมื่อวันพฤหัสบดี (27 พ.ย.) ส่วนตลาดสหรัฐฯซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์ ทำสถิติร่วงวันเดียวหนักที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011 หลังจากโอเปกตัดสินใจไม่ลดกำลังผลิตแม้โลกกำลังเผชิญภาวะอุปทานล้นตลาด
ราคาน้ำมันดิ่งลงมากกว่า 1 ใน 3 นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน สืบเนื่องจากผลผลิตหินน้ำมันจากอเมริกาเหนือที่เข้าสู่ตลาดมากขึ้นเกินกว่าความต้องการในช่วงเวลาที่โลกอยู่ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
เหล่ารัฐมนตรีจากโอเปกนัดหารือที่เจนีวา เพื่อถกเถียงถึงความเป็นไปได้ในการลดกำลังผลิตในความพยายามคืนความสุมดุลแก่ตลาดน้ำมันโลก อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกถามว่าโอเปกตัดสินใจไม่ลดกำลังผลิตและปรับเปลี่ยนนโยบายการผลิตที่ใช้อยู่ในปัจจุบันใช่หรือไม่ นายอาลี อัล-นูไอมี รัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบีย ตอบหลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันพฤหัสบดี (27 พ.ย.) ว่า “ใช่ ถูกต้องแล้ว”
น้ำมันเคลื่อนไหวในแดนลบมาตลอดทั้งสัปดาห์ ด้วยนักลงทุนและนักวิเคราะห์คาดหมายว่าโอเปกไม่น่าจะตัดสินใจลดกำลังผลิต และตลาดก็ดิ่งลงหนักในทันทีวันพฤหัสบดี (27 พ.ย.) หลังจากผลการประชุมได้ข้อสรุปว่าจะคงกำลังผลิตไว้ตามเดิม ขณะที่กว่าที่โอเปกจะมีกำหนดประชุมครั้งต่อไปก็ต้องรอจนกว่าวันที่ 5 มิถุนายน 2015
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน ลดลง 5.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 72.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งหลุดลงไปแตะระดับ 71.25 ดอลลาร์ ต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี ในส่วนของตลาดสหรัฐฯนั้น ปิดทำการ เนื่องจากเป็นวันหยุดวันขอบคุณพระเจ้า แต่ในการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์ ลดลง 4.64 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่ง ทรุดลงไปแตะระดับ 67.75 ดอลลาร์ หรือปรับลดเกือบ 6 ดอลลาร์ ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2010
ถ้าโอเปกซึ่งมีสมาชิก 12 ประเทศ และผลิตน้ำมันดิบราว 1 ใน 3 ของโลก ดำเนินการลดกำลังผลิตเพียงฝ่ายเดียวโดยปราศจากความเคลื่อนไหวแบบเดียวกันของคู่แข่ง พวกเขาก็เสี่ยงที่จะสูญเสียส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเติม โดยเฉพาะกับเหล่าชาติผู้ผลิตหินน้ำมันในอเมริกาเหนือ แต่อีกด้านหนึ่ง หากตัดสินใจคงกำลังผลิตในปัจจุบัน ก็เท่ากับว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งของตลาด
มาริก ซาฮีร์ นักวิเคาะห์จาก Tyche Capital Advisors ให้ความเห็นว่าราคาน้ำมันตลาดสหรัฐฯอาจปรับลดต่ำกว่า 65 ดอลลาร์ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่อาจท้าทายเศรษฐกิจอเมริกาเหนือ ชาติผู้ผลิตน้ำมันจากหินน้ำมัน “ผมคิดว่าเราจะเริ่มเข้าสู่สงครามราคาแล้ว”
นักวิเคราะห์มองว่าสงครามราคาครั้งนี้อาจทำให้น้ำมันจากหินน้ำมันอาจสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในอนาคต เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตสูง ซึ่งจะช่วยคลายแรงกดดันต่อโอเปกในระยะยาว
