ยูเอสเอทูเดย์/เอเอฟพี - น้ำมันกลับมาร่วงหนักอีกครั้งในวันจันทร์ (10 พ.ย.) หลังคูเวตบอกปัดโอกาสที่โอเปกจะลดกำลังผลิตรับมือกับภาวะอุปทานล้นตลาด ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกท่ามกลางรายงานผลประกอบการที่สดใสของหลายบริษัท ผิดกับทองคำที่ปรับลดเล็กน้อย จากการขายทำกำไรของนักลงทุน
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 1.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2010
ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันเมื่อวานนี้ (10 พ.ย.) เป็นผลมาจากความเห็นของนายอาลี อัล-โอมาอีร์ รัฐมนตรีพลังงานของคูเวต ที่บอกว่าที่ประชุมโอเปกในเวียนนา วันที่ 27 พฤศจิกายน คงยังไม่มีมติปรับลดการผลิต ด้วยหวังว่าตลาดจะรับมือกับภาวะอุปทานล้นเหลือไหว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (10 พ.ย.) ปิดบวกและส่งให้ดาวโจนส์กับเอสแอนด์พี 500 ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่ จากสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอเมริกาและรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ที่ดีเกินคาดหมาย
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 39.81 จุด (0.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,613.74 จุด ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาล 3 วันติด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 6.34 จุด (0.31 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,038.26 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 19.09 จุด (0.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,651.62 จุด
ภาพรวมของรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ในวอลล์สตรีทพบว่า ร้อยละ 90 ของบริษัทในเอสแอนด์พี 500 มีรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 รวมถึงประมาณการณ์รายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยแล้วราวร้อยละ 8.9 ขณะเดียวกัน บริษัทเหล่านั้นก็มีผลประกอบการเติบโตจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.9 และเพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาส 2 ถึงร้อยละ 10.4
ส่วนราคาทองคำวานนี้ (10 พ.ย.) ขยับลงแรงพอสมควร เมื่อดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นกระตุ้นให้นักลงทุนขายทำกำไร หลังปิดบวกแรงสัปดาห์ที่แล้ว โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 10.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,159.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์