น้ำมันทรงตัว หุ้นสหรัฐฯพุ่ง-ทองคำลงจากผลประกอบการบริษัท

เอเอฟพี/รอยเตอร์ - น้ำมันขยับขึ้นเล็กน้อยเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันเมื่อวันศุกร์(17ต.ค.) ยังอยู่ภายใต้แรงกดดันของข้อมูลสต๊อกเบนซินสหรัฐฯ ส่วนวอลล์สตรีทพุ่งแรง จากรายงานผลประกอบการบริษัทยักษ์ ขณะที่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวก็ผลักใหห้นักลงทุนขายสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ ฉุดให้ราคาทองคำปรับลด

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 5 เซนต์ ปิดที่ 82.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ ปิดที่ 86.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

นักวิเคราะห์มองว่าตลาดยังคงตกอยู่ใต้อิทธิพลของรายงานคลังเชื้อเพลิงสำรองของสหรัฐฯที่เผยแพร่ออกมาเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ซึ่งพบว่าสต๊อกเบนซินลดลงถึง 4.0 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 ตุลาคม

อย่างไรก็ตามหากนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิถุนายนแล้ว ราคาน้ำมันตลาดสหรัฐฯร่วงลงราวร้อยละ 22 ส่วนเบรนท์ลอนดอน ปรับลดลงมาถึงร้อยละ 25 ท่ามกลางความกังวลต่ออุปทานล้นตลาด

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันศุกร์(17ต.ค.) พุ่งขึ้นแรงในช่วงบ่ายของการซื้อขาย หลังรายงานผลประกอบการอันแข็งแกร่งของบริษัทต่างๆ กลบความกังวลที่ว่าอุปสงค์อันอ่อนแอของโลกจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและการเติบโตของอเมริกา

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 262.85 จุด (1.63 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,380.09 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 23.93 จุด (1.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,886.69 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 41.05 จุด (0.97 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,258.44 จุด

หุ้นของเจเนอรัลอิเล็กทริก พุ่งขึ้นถึงร้อยละ 2.7 ปิดที่ 24.91 ดอลลาร์ หลังรายงานผลประกอบการของบริษัทในช่วงไตรมาส 3 เหนือกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ ส่วนหุ้นของฮันนีเวลล์ ก็ทะยานถึงร้อยละ 5 ปิดที่ 90.66 ดอลลาร์ จากผลประกอบการรายไตรมาสที่แข็งแกร่งเช่นกัน

ความเคลื่อนไหวที่คึกคักในตลาดหลักทรัพย์ ผลักให้นักลงทุนวางมือจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ และฉุดให้ราคาทองคำวานนี้(17ต.ค.) ปิดลบเล็กน้อย โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 2.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,239.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์